แต่เขาก็ยังใช้การมองโลกในแง่ดี ผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ และใช้ประสบการณ์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ในการเป็น Thor คนที่ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแม้ว่าตัวละครอื่นๆ ใน Gen แรกเดียวกันกับเขา จะแยกย้ายกันไปคนละทาง ทั้งตายบ้าง หรือไปอยู่ในอีกมิติบ้าง ดูเหมือนก็จะเหลือแต่เขานี่แหละ ที่ยังเป็นฮีโร่หลักของจักรวาลต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาก็เชื่อว่าน่าจะมีหลายๆ คนได้เรียนรู้อะไรจากตัวละครนี้กันได้เยอะเลย ลองมาดูกันว่า ข้อคิดที่ได้จากตัวละครอารมณ์ดีคนนี้ จะมีอะไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็เคยผิดพลาดกันทั้งนั้น

ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่บางทีมันก็เกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ทันได้คาดคิด ความผิดพลาดที่ฝังอยู่ในใจของ Thor ที่สุดใน MCU ก็คือการที่เขาเผชิญหน้ากับ Thanos แล้ว แต่ไม่สามารถโค่นมันได้ เพราะไม่ได้เล็งที่จุดตาย นั่นเลยเป็นเหตุให้ Thanos ทำการดีดนิ้วได้สำเร็จ จนประชากรในโลกหายไปครึ่งนึง จนทำให้ Thor โทษตัวเองกับความผิดพลาดนี้ จนปล่อยปละตัวเองเลิกเป็นฮีโร่อีกต่อไป

สิ่งนี้สะท้อนออกมาได้ดีที่สุดในฉากที่เขาย้อนเวลาไปอีกมิติและได้พบกับแม่ของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ได้ระบายความในใจถึงความผิดพลาดของเขา และผลของมันให้กับแม่ของเขาฟัง แต่สุดท้ายเขาก็ได้เรียนรู้จากแม่เขาว่า ทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้ แต่อยู่ที่ใครที่จะรับผิดชอบต่อความผิดพลาดตัวเองหลังจากที่เกิดขึ้นไปแล้วได้ดีกว่า นั่นแหละเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า

ยอมรับและเข้าใจ ในการเปลี่ยนแปลงของคน

แม้ว่า Thor กับ Loki จะเป็นพี่น้องที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด เพราะตัว Loki เองก็มีปมเรื่องที่พี่ชายดีกว่าแทบทุกอย่างจนอิจฉาเขามาโดยตลอด และทำแต่เรื่องแย่ๆ จนเป็นเหตุให้แม่ของพวกเขาต้องตายไป แต่ดูเหมือน Thor เองก็ยังคงให้อภัย และหวังอยู่ลึกๆ ว่าน้องชายคนนี้ของเขาจะปรับตัวให้ดีขึ้น 

แทนที่เขาจะโทษน้องของเขาในแต่ละเรื่องที่ผ่านมา เขากลับเลือกที่จะยอมรับ และทำความเข้าใจกับน้องชายของเขา แม้ว่าในช่วงหลังๆ เขาจะระวังตัวและไม่ไว้ใจ Loki ขึ้น แต่สุดท้ายเขาก็คอยให้คำแนะนำ และอยู่เคียงข้างน้องเขามาโดยเสมอ อย่างใน Thor: Ragnarok ที่พวกเขาต้องสูญเสีย Odin พ่อของพวกเขาไป ก็ทำให้เราเห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของพวกเขาขึ้น และทำให้ Loki เรียนรู้ได้ว่าเขาเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้จริงๆ

เมื่อบ้านไม่จำเป็น ต้องเป็นสถานที่อีกต่อไป

ใน Thor Ragnarok นั้น Thor ต้องยอมปล่อยให้บ้านเกิดตัวเองถูกทำลายต่อหน้าต่อตา เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะเอาชนะ Hela พี่สาวสุดโหดของเขาได้ แถมนั่นยังเป็นตอนที่เขาได้สูญเสีย ทั้งแม่และพ่อของเขาไปแล้ว บ้านจึงเปรียบเสมือนสิ่งเดียวที่เขายังเหลืออยู่ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อสถานการณ์บังคับ ทำให้เขาต้องเลือกช่วยชีวิตผู้คนก่อนจึงทำให้เขาต้องตัดสินใจแบบนี้

ซึ่งก็เลยได้คำพูดที่ติดปากมาในตอนจบภาคนั้นว่า “แอสการ์ดนั้นไม่ใช่สถานที่ แต่เป็นผู้คน” เพราะการที่เขาช่วยออกมาได้นั้น เลยทำให้ไปตั้งเมืองกันขึ้นมาใหม่บนโลกชื่อว่า “New Asgard” และมันก็กลายเป็นเมืองที่น่ารักสำหรับชาวแอสการ์ด รวมถึงเป็น “บ้าน” หลังใหม่ไปด้วย

อย่ายึดติดกับอำนาจ และฐานะที่มี เพราะมันอาจไม่ใช่ตัวเรา

หากดู Thor มาตั้งแต่ภาคแรกจะเห็นว่า Thor พยายามอย่างมาก ที่จะทำตัวให้เป็นที่ยอมรับของ Odin พ่อของเขา ในการที่สืบทอดบัลลังก์ต่อ ในฐานะกษัตริย์ของ Asgard แล้วกว่าจะได้คู่ควรกับค้อนโยลเนียร์ก็ปาเข้าไปตอนจบของเรื่องแล้ว ซึ่งในระหว่างการเดินทางของเขาในอีกหลายภาค เราก็จะได้เห็นการเติบโตของเขา พร้อมกับข้อเสียหลายๆ ข้อที่ยังแก้ไม่หาย ซึ่งส่วนนึงนั้นก็คืออีโก้ความเป็นเทพของเขาเอง

จนกระทั่งความผิดพลาดในการฆ่า Thanos จนเป็นเหตุของการบลิ๊บ เลยทำให้เขามีโอกาสได้ทบทวนตัวเองอีกครั้ง แต่พบว่าตัวเองไม่ได้เหมาะกับสถานะของกษัตริย์เอาซะเลย เลยเลือกที่จะทิ้งตำแหน่งนี้ ด้วยการยกให้กับ Vakyrie เป็นคนดูแลชาว Asgard ใหม่แทน ส่วนตัวเองก็เลือกที่จะออกไปผจญภัยช่วยเหลือผู้คน เพราะคิดว่าเธอนั้นคือผู้ที่เหมาะสมกว่า (โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่า จริงๆ แล้ว Vakyrie ก็คิดว่า ตูก็ไม่อยากเป็นเหมือนกันโว้ยยยย 555+)

บางอย่างกว่าจะได้มา ต้องพิสูจน์ตัวเองก่อน

ด้วยความที่ Thor นั้นมีสถานะเป็นเทพแต่แรก แถมยังมีพ่อใหญ่ดำรงตำแหน่งใหญ่สุดของเมือง ก็ไม่แปลกที่เขาจะมองว่าตัวเองมีฐานะที่สูงกว่าคนอื่นๆ และมองหาการสงคราม การแย่งชิง เป็นทางแก้ปัญหามากกว่าหนทางอื่นๆ จนสุดท้ายก็ถูกพ่อเขาถึบส่งลงมาในโลกมนุษย์เพื่อให้เรียนรู้อะไรบางอย่างก่อน

ซึ่งเมื่อลงมาแล้ว เขากลายเป็นคนที่ไม่มีอำนาจและพลังเหมือนเดิม จนกระทั่งได้พบกับ Jane ที่ทำให้เขาได้เข้าใจถึงการอยากเป็นคนที่ช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น และสุดท้ายก็ได้เอาตัวเองไปปกป้องผู้คนจนได้รับการยอมรับและพลังกลับมาอีกครั้ง ก็เหมือนกับคนเรา ที่อาจจะต้องมีการพิสูจน์ตัวเองในบางเรื่อง เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการมา

เมื่อเจอคนที่ใช่ ก็ควรให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง

ใน Thor: Love and Thunder เราจะได้มีโอกาสเห็นช่วงเวลาที่ 2 ตัวละครอย่าง Thor และ Jane ได้รักกัน แต่ทั้งคู่ต่างก็รู้ถึงความแตกต่างลึกๆ และภาระหน้าที่ของตน จนทำให้เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาทั้งคู่ก็ต้องแยกจากกันไป เพราะจุดมุ่งหมายที่ต่างกันในช่วงเวลานั้น แต่ทั้งคู่ก็ยังจากกันไปด้วยความรักเหมือนเดิม เพียงแต่รู้ว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

จนกระทั่งพวกเขาก็ได้มาเจอกันอีก ทั้งคู่ต่างปิดกั้นหัวใจไม่ให้ใครเข้ามา เพรากลัวที่จะเจ็บแบบครั้งนั้น แต่สุดท้ายแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทั้งสองคนต่างเป็นคนที่ใช่ของกันและกัน และมันก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงอีก ในบริบทที่ต่างคนต่างเติบโต ต่างผ่านชีวิตมาเยอะ และมองปัญหาได้ดียิ่งขึ้น