Fox และ Warner Bros มองข้ามบทหนังเรื่องนี้ไป จนกระทั่งในปี 1994 Paramount Pictures ซื้อไอเดียหนังเรื่องนี้จาก Mike Werb และ Michael Colleary 2 มือเขียนบทไปทำ พวกเขาชอบบทหนังที่เป็นการเชือดเฉือนกันระหว่างโจรและตำรวจที่มาสลับหน้ากันแค่คิดมันก็สนุกแล้ว เดิมทีทีมงานอยากได้แอ็คชั่นสตาร์แห่งยุค คนเหล็กกับแรมโบ้มาเจอกันนั้นคือ Sylvester Stallone และ Arnold Schwarzenegger เพราะพวกเขาเชื่อว่าดีกรีความโด่งดังจะทำให้หนังเข้มข้นดึงดูดผู้ชม แต่สุดท้ายมีผู้กำกับ 3 คนเดินเข้ามายังโปรเจ็คนี้แล้วก็ส่ายหัวกับความคิดสตูดิโอ และสคริปต์หนังไม่ได้สอดคล้องอย่างที่ควรจะเป็น

ตัวละครหลักตำรวจ FBI Sean Archer กับอาชญากรจอมกวนประสาท  Castor Troy ที่วันดีคืนดีตำรวจฝีมือดีต้องปลอมตัวผ่าตัวใบหน้าสวมรอยไปเป็นโจรแทน ส่วนโจรก็แฝงตัวไปเป็นตำรวจกระทั่งผู้กำกับชาวฮ่องกงที่พึ่งมีผลงานหนังฮอลลีวูดเดินเข้ามาทำโปรเจ็คนี้ John Woo เขาตัดสินใจไม่เอา Sylvester Stallone และ Arnold Schwarzenegger มาแสดงนำ และอ่านบทหนังของเก่าและสั่งแก้บทใหม่เกือบทั้งหมด ฉากแอ็คชั่นเล่นใหญ่อลังการไปเลย และคนที่เหมาะสมกับบทนำในสายตา Woo คงไม่มีใครดีไปกว่า John Travolta และ Nicolas Cage ทั้ง 2 คนโด่งมีชื่อเสียงมากพอสมควร เขาถึงขั้นบอกกับค่ายหนังว่าถ้าไม่ได้ 2 คนนี้มาเล่น ผมเองก็จะถอนตัวไปด้วย สุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ผู้กำกับฮ่องกงต้องการ

นอกจากได้นักแสดงดัง 2 คนแล้ว John Woo จึงสั่งให้ทั้ง Cage และ Travolta ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน 2 สัปดาห์เพื่อเรียนรู้กริยาท่าทางของอีกฝ่าย วิธีการวางตัวต่างๆ เพื่อเวลาเปลี่ยนโหมดสลับตัวกันจะได้ไม่เกร็งกันจนเกินไปนอกจากการเตรียวตัวที่พร้อมก่อนการถ่ายทำ นักแสดงก็ได้เล่นฉากแอ็คชั่นจริงๆ เวลาที่ทั้ง 2 ฝ่ายเผชิญหน้ากันในหนังจึงรู้สึกว่าเร้าใจทั้งฉากไล่ล่าชิงไหวชิงพริบกัน ฉากดวลปืนที่แต่ละฉากใช้เวลาถ่ายทำนานพอสมควรกว่าจะได้ภาพที่สวยงามตราตรึงใจคอหนัง

“ผมภูมิใจกับ Face/Off มากจริงๆ มันคือหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของผม เพราะด้วยระดับความยากที่ต้องยิงให้เข้าเป้าเน้นๆ ก็นับว่าโชคดีที่เราทั้งสามคน John Woo, John Travolta ร่วมกันทำให้มันเป็นความสนุกที่เร้าใจ นี่คืองานที่ส่วนตัวที่สุดของผม เป็นการถ่ายทอดบทที่ผมซุ่มทดลองมาตั้งแต่ Vampire’s Kiss เลย” Nicolas Cage กล่าวถึงผลงานที่ทำให้เขากลายเป็นแอ็คชั่นสตาร์แห่งยุค 90

สุดท้าย Face/off กลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่รายได้ $245.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง $80 ล้านเหรียญ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ทั้งของ John Woo, John Travolta และ Nicolas Cage กลายเป็นหนังโปรดในดวงใจใครหลายคน เป็นหนังอเมริกันกลิ่นอายหนังบู๊ฮ่องกง และหวังว่าภาคต่อจะได้เกิดขึ้นจริงๆ