รวมหนัง Jenna Ortega เจ้าแม่หนังสยองคนใหม่สุดปังในวงการ
ในช่วงที่ผ่านมานี้ คงไม่มีดาราคนไหนร้อนแรงเท่าน้อง Jenna Ortega แน่ๆ เพราะด้วยความที่ได้รับบทอย่าง Wednesday จากตระกูล Addams ที่บอกเลยว่าเป็นอีกผลงานที่มีแฟนๆ รุ่นเก่า รุ่นเก๋าคอยจับตาดูเยอะ เพราะเป็นตัวละครที่หลายคนชื่นชอบ และในเวอร์ชั่นก่อนๆ ก็เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน ทำให้หากงานนี้ออกมาไม่ปังก็ต้องโดนถล่มจนยับกันไปเลย
แต่ด้วยความมากฝีมือของน้อง Jenna ก็ทำให้ทุกคนยอมรับได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ EP แรก เพราะด้วยสีหน้า ความยียวน ความดาร์ค น้องแกอินเนอร์มาเต็มมาก แม้จะอายุแค่ 20 ปี แต่ฝีมือการแสดงก็เรียกว่าพัฒนามาได้ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลายคนอาจจะเคยเห็นน้องแกครั้งแรกในบทตัวประกอบสุดๆ ใน Iron Man 3 แต่ไม่กี่ปี เธอก็ขึ้นมาได้รับบทเด่นของตัวเองได้แล้ว นับเป็นนักแสดงสายสยองขวัญที่น่าจับตาดูต่อไปกันยาวๆ เลย ส่วนใครอยากหาหนังเก่าๆ น้องมาดู ก็ตาม List นี้เลยจ้า
1. You (2018 -)
โจ หนุ่มผู้จัดการร้านหนังสือที่ภาพลักษณ์ภายนอกไม่มีพิษภัย แต่ข้างในกลับมีความผิดปกติ ทำให้เมื่อใดที่เขาจะมีคนรัก เขาก็จะกลายเป็นคนที่คลั่งไคล้ในคนรักขนาดนัก จนเรียกได้ว่าเป็น “สตลอกเกอร์” ที่จะคอยติดตามทุกพฤติกรรมขุดทุกอดีตออกมา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับ เบ็ค หญิงสาวที่บังเอิญเข้ามาในร้านหนังสือของเขา ทำให้เขาตกหลุมรักเธอเข้าในทันที และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คบกับเธอ และนั่นก็หมายถึงการกำจัดทุกคนที่ขวางทางเขาด้วย
อีกหนึ่งซีรีส์ที่ได้ดำเนินมาถึงซีซั่น 4 แล้ว และยังชวนติดตามต่อเรื่อยๆ เพราะมันเป็นซีรีส์ความรักแบบจิตๆ แปลกๆ ที่ไม่ได้ดำเนินตามขนบของหนังรักทั่วๆ ไป แต่แฝงไปด้วยความระทึกขวัญเข้าไปด้วย จากพฤติกรรมของตัวเอกที่ไม่ปกติ และบางทีก็โหดถึงขนาดนำไปสู่การฆาตกรรมเลย ซึ่งน้อง Jenna Ortega ก็เป็นอีกตัวละครในซีซั่น 2 ที่มีความสำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นเพื่อนบ้านของตัวเอกเลย และเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้น ให้คนเริ่มจับตาการแสดงของน้อง Jenna ได้เลยจริงๆ
2. The Babysitter: Killer Queen (2020)
หลังจากความวุ่นวายเลือดสาดของภาคแรก ใน 2 ปีต่อมา โคลด์ เด็กหนุ่มผู้รอดชีวิต จากแก๊งพี่เลี้ยงลัทธิที่ไล่ฆ่าคน ก็พยายามเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่กลับไม่มีคนเชื่อ แถมยังโดนตัดสินว่ามีอาการทางจิต จนต้องเข้ารับการรักษา ทั้งๆ ที่เธอรู้ว่ามันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแน่นอน แล้ววันหนึ่งเขากลับได้พบกับเหล่าฆาตกรเจ้าเดิมที่เขาเห็นว่าตายไปแล้วกลับมาอีกครั้ง และพยายามที่ใช้เขามาเป็นเครื่องสังเวย เขาจึงต้องพยายามเอาชีวิตรอดอีกครั้ง
หลังจากประสบความสำเร็จไปพอประมาณกับภาคแรก ที่เน้นความบันเทิงแบบเลือดสาดที่ดูแล้วเอาฮา เอามันส์ในเรื่องแล้วจบกันไปในแบบที่ไม่คิดว่าจะมีภาคต่อได้ แต่สุดท้ายผู้กำกับ McG คนเดิมจากภาคแรกก็ยังเข็นภาคสองออกมาต่อได้อีก แต่น่าเสียดายที่คุณภาพมันแอบดรอปลงมาอยู่เหมือนกัน คือลูกเล่นชั้นเชิงในการเล่าที่จะทำให้รู้สึกว่าว้าวมันก็ลดน้อยลงไป เหลือเพียงความโหดเลือดสาดเอาสะใจ พร้อมกับสร้างความชวนสงสัยว่าตัวละครภาคเก่าๆ มันกลับมาได้ยังไง และให้รายละเอียดของชาวแก๊งลัทธิมากขึ้น นับเป็นอีกหนังที่สามารถดูได้เพลินๆ หากไม่คิดอะไรมาก แต่ไม่ควรคาดหวังว่ามันจะสนุกได้แบบภาคแรกเลย
3. Yes Day (2021)
อลิสัน คุณแม่สายชิลแต่กลับมีวิธีการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวด ในขณะที่คุณพ่อรับบทเป็นพ่อพระ ความซวยจึงมาลงที่เธอเป็นหลักเพราะลูกๆ ดันไม่จอย จนส่งผลไปถึงการเรียน ถึงขนาดต้องมาปรับการเลี้ยงดูกันใหม่ โดยให้เวลา 1 วันที่เป็นแห่งอิสระ ที่ไม่ว่าลูกๆ ของพวกเขาจะขออะไรก็จะตอบรับ Yes ทั้งหมด จนส่งผลให้เกิดเรื่องราววุ่นๆ ตามมา
อีกหนังครอบครัวสบายๆ ดูได้ชิลๆ แบบเป็นสูตรสำเร็จที่ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย เพราะคนดูก็แทบจะเดาได้ตั้งแต่หน้าหนังแล้วว่า ไอวัน Yes Day เนี่ยจะต้องมีความชุลมุนวุ่นๆ ตามมาจนเละเทะได้อย่างแน่นอน และในหนังก็สะท้อนภาพแบบนั้นออกมา เมื่อต้องเห็นเหล่าพ่อ แม่ ที่ต้องกระเตงลูกๆ ไปทำทุกสิ่งแบบจัดหนัก ก่อนที่จะลงเอยด้วยการปรับความเข้าใจกัน เรียกได้ว่าเป็นหนังที่สดใสที่สุดของน้อง Jenna แล้วก็ว่าได้ เพราะแต่ละเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ มีแต่เลือด มีแต่ฆาตกรแทบทั้งนั้น ถ้าใครอยากเห็นมุมใสๆ แล้วก็ต้องเป็นเรื่องนี้เลย
4. Scream (2022)
หลังเหตุฆาตกรรมเลียนแบบจากภาคก่อน 10 ปี ที่เมืองวูดส์โบโร ก็มีเหตุให้ แซม สาวคนหนึ่งต้องกลับมาที่เมืองแห่งนี้ เพราะน้องสาวของเธอถูกทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล จนทำให้เธอต้องไปขอความช่วยเหลือจาก ดิวอี้ นายอำเภอประจำเมืองที่มีประสบการณ์เผชิญหน้ากับฆาตกรอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้พวกเขาต้องเข้าไปพัวพันของการฆาตกรรมครั้งใหม่กันอีก
อีกแฟนเซอร์วิสสำหรับแฟนๆ Scream ที่คราวนี้ขอมาเสียดสีหนังกลุ่ม Reboot ต่างๆ ว่าต้องมีแนวทางเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ มันเลยเป็นการรวมตัวของ Gen ใหม่ + Gen เก่า ที่ต่างมีความเก๋าในตัวเองมากๆ จังหวะการเดินเรื่องก็ไล่ล่า ไล่ฆ่ากันอย่างโหด อาจจะมีจุดที่ตัวละครโง่ๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดชวนหงุดหงิดรำคาญ เพราะเสน่ห์ของความเป็น Scream ในการเดาตัวร้ายและการหักมุมก็ยังมีอยู่ครบๆ และแค่ฉากแรกของหนังที่มีน้อง Jenna เป็นเหยื่อรายแรก ก็ชวนลุ้น ชวนตื่นเต้นระทุกได้มากโขแล้ว
5. X (2022)
ทีมงานถ่ายหนังผู้ใหญ่กว่า 5 ชีวิต ได้หาโลเคชั่นสำหรับไปถ่ายหนังโป๊เซตใหม่ ที่หมู่บ้านห่างไกลผู้คนของ Texas และได้เจอกับคู่สามี ภรรยา สูงอายุที่ดูเป็นพวกสงบ และได้แบ่งให้ใช้บ้านกับพื้นที่ในโรงนาบางส่วนให้กับพวกเขา จนเมื่อการถ่ายทำของพวกเขาดำเนินไป พวกเขาก็เริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่างของสามี ภรรยาคู่นี้ แต่นั่นก็อาจจะสายเกินไปแล้ว
อีกหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญจากค่ายคุณภาพ A24 ที่พาคนดูย้อนไปในยุค 70s และพาไปดูกระบวนการถ่ายทำหนังโป๊ในยุคนั้น พร้อมทั้งชูประเด็นเรื่องคุณค่าของคนในวงการหนังประเภทนี้ และประเด็นเรื่องเพศได้อย่างแยบยล ซึ่งหนังก็จัดหนักเรื่องความ X แบบเต็มขั้นในช่วงแรก ก่อนที่จะพาไปสู่ความโหดสยองในช่วงหลัง ที่ทำฉากฆ่ากันออกมาได้ถึงใจดีมากๆ และเลือดสาดโหดจริงๆ ใครที่เป็นคอหนังสยองที่ชอบบรรยากาศแบบย้อนยุคหน่อยๆ นี่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
6. Wednesday (2022)
เวนส์เดย์ ลูกสาวคนโตของตระกูลแอดดัมส์ที่โด่งดัง เธอนั้นได้ก่อปัญหาที่โรงเรียนจากการช่วยเหลือน้องชายจากแก๊งอันธพาลจนทำให้ถูกไล่ออกจากที่เก่า ทำให้พ่อ แม่ของเธอเลยส่งเข้ามาที่โรงเรียนประจำเนเวอร์มอ อันเป็นโรงเรียนรวมคนประหลาดที่พวกเขาเป็นศิษย์เก่าอยู่ ทำให้เวนส์เดย์นั้นได้เข้ามาพบกับอดีตของพ่อ แม่เธอเอง พร้อมกับคดีฆาตกรรมในโรงเรียน จนเธอต้องเข้ามาสืบหาความจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เรียกได้ว่าดังเป็นพลุแตกอย่างแท้จริงสำหรับน้อง Jenna เพราะแม้ว่า Wednesday จะเป็นตัวละครที่หลายคนชื่นชอบจนแฟนๆ จะต้องคาดหวังกันมากๆ แต่สุดท้ายเธอก็สอบผ่านฉลุย และได้ใจแฟนๆ ตระกูลแอดดัมส์ไปเต็มๆ ด้วยความที่การแสดงสีหน้านิ่งๆ และท่าทางที่เหมือนถอดแบบอีกมา จะมีต่างกันก็เรื่องความขาวซีดแบบในการ์ตูน แต่โดยรวมแล้ว เธอก็คือ Wednesday ที่โดนใจใครหลายๆ คน ยิ่งตอนปากแจ๋ว แต่ละทียิ่งได้ใจมากๆ นับเป็นอีกซีรีส์ที่ค่อนข้างกลมกล่อมครบรส ทั้งเรื่องปริศนา ระทึกขวัญ วัยรุ่น รักนิดหน่อยๆ ผสมกันออกมาได้อย่างลงตัวจนบอกได้เลยว่าอยากดูภาคต่อมากจริงๆ