แต่ในโลกของภาพยนตร์นั้น ด้วยนิสัยของแมวๆ เลยอาจทำให้แมวมักได้รับบทวายร้ายในภาพยนตร์มากกว่าสัตว์ชนิดอื่นๆ และให้ความสำคัญกับสุนัขเป็นตัวเอกเสียมากกว่า ด้วยภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรของมัน แต่จริงๆ ก็มีหนังอยู่ไม่น้อยที่มีเจ้าเหมียวเป็นตัวเอก แม้ว่าคุณภาพของมันก็เหมือนสไตล์หนังสัตว์ส่วนมาก นั่นก็คืออาจจะทำมาสำหรับเด็กๆ หรือเล่นง่ายเกินไปหน่อย จนออกมาไม่ดีนัก แต่ถึงอย่างไร มันก็ยังพอมีหนังดีๆ ในกลุ่มนี้อยู่บ้างให้ได้มาลองเลือกดูกัน  

1. Garfield (2004) – การ์ฟิลด์

การ์ฟิลด์ แมวอ้วนสีส้ม ที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่กับ จอน เจ้านายทาสแมวที่ดูแลมันดีทุกอย่าง จนกระทั่ง จอน ได้พบกับ ลิซ สัตวแพทย์สาวสวย ที่มี โอดี้ น้องหมาของเธอ จนทั้งคู่ได้มีโอกาสใช้ชีวิตด้วยกันมากขึ้น แต่การ์ฟิลด์ก็เกลียดโอดี้มากๆ เลยหาวิธีทำให้มันหายไป แต่สุดท้ายมันกลับคิดได้ เลยพยายามอย่างมากที่จะช่วยโอดี้กลับมาอีกครั้ง

อีกหนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนแก๊กสั้นๆ ที่เสียดสีสังคม พอเอามาขยายเป็นฉบับหนังเต็มๆ มันก็เลยอออกจะกลวงๆ อยู่ไม่น้อย จนขนาดที่ว่าแม้ความยาวตัวหนังจะยาวแค่เพียง 80 นาที แต่ก็ดูเหมือนยาวนานมาก อีกทั้งตัวหนังเองก็ดูเหมือนจะทำออกมาให้เด็กดูเสียมากกว่า ทั้งๆ ที่จริงแล้วมุขตลกในการ์ตูนนั้น จะเป็นการเสียดสีประชดประชันแบบผู้ใหญ่ สุดท้ายเลยออกมาถูกใจเด็กๆ มากกว่ากลุ่มแฟนๆ อยู่พอสมควร แต่ว่าด้วยความน่ารักของเจ้าแมวส้มตัวนี้ก็ทำให้ภาคแรกมันมีรายได้มากพอที่ส่งภาคต่อออกมาได้อีก

2. Puss in Boots (2011) – พุซ อิน บู๊ทส์

เรื่องราวก่อนหน้าที่ พุช จะได้พบกับ เชร็ค เขาคือแมวส้มมหาโจรจอมเจ้าเล่ห์ ที่มีลีลามากมายทั้งสายบู๊และเป็นนักรัก ในยุคนั้นเขาเดินทางผจญภัยไปกับ คิตตี้ ซอฟท์พอว์ แมวสาวสุดเท่ และ ฮัม์ตี้ดัมป์ตี้ ผู้เป็นมันสมองของกลุ่มในการตามหาถั่ววิเศษ ก่อนที่จะได้พบกับเรื่องราวมากมาย จนทำให้พวกเขาต้องกลับมาปกป้องเมืองของตัวเอง

จากตัวละครขโมยซีนของ เชร็ค มาสู่หนังเดี่ยวของตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากคนดู โดยธีมหนังมีความเปลี่ยนจาก เชร็ค ไปเป็นแนวแอคชั่นผจญภัยอยู่เหมือนกัน และสร้างตัวละครที่น่าจดจำในเรื่องราวออกมาได้มากมาย มีความซับซ้อนอยู่ไม่น้อย ในขณะเดียวกันก็มีการล้อพวกเทพนิยาย แบบเดียวกับต้นฉบับ แม้ว่าจะมีความซ้ำๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ตอบโจทย์แฟนๆ ของตัวละครนี้ได้เป็นอย่างดี

3. A Street Cat Named Bob (2016) – บ๊อบ แมว เพื่อน คน

เจมส์ โบเวน ชายเร่ร่อนติดยา ที่ตะเวนเล่นดนตรีเปิดหมวกอยู่ข้างถนน แต่แล้วเขาก็ได้พบกับ บ๊อบ เจ้าแมวตัวส้มที่ได้รับบาดเจ็บเข้ามาในที่พักของเขา จนทำให้เขาเอามันมารักษาและดูแลมันจนหายดี หลังจากนั้น บ๊อบ ก็ติดเขาแจ เขาเลยพาบ๊อบไปตะเวนกับเขาในทุกที่ เลยเริ่มมีคนให้ความสนใจเขา 1 คนกับอีก 1 ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับที่เขาก็ค่อยๆ เยียวยาตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ

อีกหนังแมวที่สร้างมาจากเรื่องจริงของ เจมส์ โบเวน ที่เล่าถึงชีวิตของตัวเขาเอง ที่ได้พบกับมิตรภาพที่สวยงามกับ บ๊อบ จนทำให้เขากลายมาเป็นคนที่มีชื่อเสียง และเขียนหนังสือเรื่องราวเหล่านี้ออกมาได้ถึง 2 เล่ม จนมีการแปลไปถึง 30 ภาษาทั่วโลก แถมในหนังยังได้ บ๊อบ ตัวจริงมาเล่นด้วย ซึ่งหนังเองก็ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้เราเห็นความสัมพันธ์ของเขาและแมว ที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นสิ่งที่เยียวยาจิตใจของเขา และเปลี่ยนให้เขากลายมาเป็นคนที่ดีกว่าเดิม จนสายเลี้ยงแมวทั้งหลายก็คงอยากให้แมวตัวเองให้แรงบันดาลใจได้แบบนี้

4. The Secrets Life of Pet (2016) – เรื่องลับแก๊งขนฟู

แม็กซ์ หมาที่ เคธี่ เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ ในแต่ละวันความสุขของมันคือการเฝ้ารอเจ้าของมันกลับมาในทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งที่เคธี่ได้พา ดุ๊ก สุนัขตัวใหม่ร่างใหญ่อีกตัวเข้ามาในบ้าน จนทำให้ แม็กซ์ รู้สึกสูญเสียความรักจาก เคธี่ ไป มันเลยพยายามที่จะกำจัด ดุ๊ก ออกไปจากบ้านแห่งนี้ โดย แม็กซ์ ก็พยายามขอความช่วยเหลือจากบรรดาสัตว์เลี้ยงต่างๆ ในตึกนี้ จนเกิดเรื่องวุ่นๆ ตามมา

หนังสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงที่สร้างมาด้วยธีมหลวมๆ และเรื่องราวที่ซ้ำๆ ที่เมื่อหมาที่อยู่มาก่อนดันอิจฉาตัวใหม่ (ก็ไม่ต่างอะไรจาก Toy Story ที่เป็นเวอร์ชั่นสัตว์เลี้ยงนั่นเอง) แต่น่าเสียดายที่มันดันเล่าแบบง่ายๆ ตรงไปตรงมา โดยที่ไม่ได้มีข้อคิดอะไรแฝงเอาไว้มากนัก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูเข้าอกเข้าใจคนเลี้ยงสัตว์แต่ละประเภทเหลือเกิน เพราะเหมือนหยิบเอา Insight หลายๆ อย่างของคนเลี้ยง มาทำเป็นมุขที่ทำออกมาได้ฮา และชวนรู้สึกว่าแบบ เออว่ะ ดีเหมือนกัน ซึ่งในเรื่องนี้แม้จะมีหมาเป็นตัวเอก แต่ความแมวๆ ในเรื่องก็มีได้เยอะไม่แพ้กัน โดยเฉพาะภาค 2 ที่เล่นมุขแมวออกมาได้ตลกมาก

5. Keanu (2016) – ปล้นแอ๊บแบ๊ว ทวงแมวเหมียว

เรล หนุ่มที่เพิ่งอกหัก ได้ไปพบกับลูกแมวน้อยหลงทางมาที่บ้านของเขา และเมื่อหาเจ้าของไม่เจอ เขาจึงตัดสินใจเลี้ยงมัน และตั้งชื่อมันว่า คีอานู ให้เหมือนกับพระเอกดังอย่าง คีอานู รีฟ แต่แล้ววันหนึ่งเจ้าแมวของเขาก็หายไป จนเขาไปพบว่ามันไปอยู่กับ เช็ดด้า หัวหน้าแก๊งมาเฟียทีค้า พวกเขาจึงปลอมตัวเป็นคู่หูมาเฟียเพื่อไปเจรจาต่อรองขอแมวคืน แต่แล้วพวกเขากลับถูกสั่งให้ไปทำงานบางอย่างก่อนอย่างจำใจ เพื่อหวังจะเอา คีอานู กลับคืนมา

หนังฮาๆ ที่หยิบเอาน้องเหมียวมาเป็นจุดขายของเรื่อง แต่เอาเข้าจริงน้อนก็ออกมาได้ไม่ได้เยอะขนาดนั้น แต่เน้นเป็นภารกิจฮาๆ หรือความสัมพันธ์กับ 2 คู่หูมากกว่า ส่วนในเรื่องตัวละครก็วายป่วงมาก เพราะความเข้าใจผิดต่างๆ นานา มันเลยกลายเป็นความตลกแบบสถานการณ์ที่เอาฮาได้อยู่เหมือนกัน แม้ว่ามันจะค่อนข้างไร้สาระอยู่ไม่น้อย แต่โดยรวมมันก็ออกมาเป็นความสนุกที่ดูได้เพลินๆ มีความตลกแบบพอประมาณ ความน่ารักของน้องเหมียวนิดหน่อย แถมเฮีย คีอานู รีฟ เองยังมาเป็นดารารับเชิญในการพากษ์เสียงน้องเหมียวในเรื่องอีกด้วย

6. Kedi (2016) – เมืองแมว

สารคดีที่พาคนดูไปสำรวจเมือง อิสตันบูล ประเทศตุรกีในอีกแง่มุม เพราะไม่พาไปเที่ยว แต่พาไปสำรวจสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ในเมืองนับร้อยอย่าง แมว ที่เกี่ยวพันกับผู้คน และสะท้อนความเป็นอยู่อย่ากลมกลืนระหว่างผู้คนและแมวในเมืองนั้นๆ

สารคดีเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับที่เติบโตจากเมืองอิสตันบูล และได้รับอิทธิพลจากแมวในเมืองเยอะมากๆ ในการหล่อหลอมขึ้นมาเป็นตัวเอง หรือเรียกง่ายๆ ว่า ก็เป็นทาสแมวตัวยง ที่ได้ร้อยเรียงเรื่องราว ของคนและแมวในเมืองได้อย่างสวยงาม มันเลยทำให้ได้ภาพเมืองจากมุมสวยๆ ของคนที่เคยอยู่มา ประกอบกับการเล่าเรื่องที่เก่ง จนทำให้รู้สึกว่าอยากจะไปเยือน ไปนั่งเล่นกับแมวที่อิสตันบูลสักครั้งเหมือนกันจริงๆ

7. Tom & Jerry (2021) – ทอม แอน เจอร์รี่

เจอร์รี่ เจ้าหนูตัวแสบที่ย้ายชีวิตตัวเองเข้าไปอยู่ในโรงแรมหรูกลาง New York ที่กำลังจะกลายเป็นสถานที่ในการจัดงานแต่งงานใหญ่ของคนในเมือง ในขณะนั้น เคย์ลา สาวน้อยตกงานก็ใช้ไหวพริบปลอมแปลงเอกสารเพื่อสมัครมาเป็นผู้ดูแลอีเวนท์นี้ และยอมไม่ได้ที่จะให้มีหนูมาอยู่ในพื้นที่โรงแรม เลยไปจ้างให้ ทอม แมวจร คู่ปรับของเจอร์รี่ เข้ามากำจัดหนูตัวนี้ไป จนมีเรื่องวุ่นวายตามมา 

หยิบเอาการ์ตูนสุดอมตะที่ได้ดูกันมาตั้งแต่เด็กๆ ของคู่รักคู่แค้น ทอม และ เจอร์รี่ แมวกับหนู ที่พร้อมจะฆ่ากันได้ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากัน และต่างฝ่ายต่างก็ใช้เล่ห์กลต่างๆ เพื่อทำร้าย และเอาชนะอีกฝ่ายได้ โดยที่ไม่สนวิธีการ พอมาสู่ในฉบับ The Movie นี่ก็ทำออกมาได้ดีเลย โดยยังคงความคลาสสิคของความเป็น 2D เอาไว้ เอาไปผสมกับคนจริงได้อย่างลงตัว ในการไล่ล่าข้ามโลกก็ทำออกมาได้สวยดี หัวใจของทอมและเจอร์รี่ก็ยังอยู่ครบ แม้ว่าบทจะง่ายๆ แต่ก็สร้างความบันเทิงได้เต็มๆ ตลอดทั้งเรื่อง จนแฟนๆ อย่างเราต้องหลงรักมันเลยทีเดียว