TomHolland_00

ถ้าน้องทอมไม่เป็น Spider-Man แล้วเป็นอะไรได้บ้าง

สำหรับแฟนๆ MCU นั้นคงไม่มีใครรู้จักดาราขี้สปอยล์อย่าง Tom Holland อย่างแน่นอน เพราะนอกจากที่เขาจะรับบทใหญ่ในจักรวาลด้วยการเป็น Spider-Man แล้ว เขาก็ยังคอยสร้างกระแสด้วยการเปิดเผยความลับของหนังในจักรวาล Marvel หรือแอบหลุดเรื่องราวต่างๆ ออกมาอยู่เสมอ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นด้วยการตลาดหรือความตั้งใจ แต่นั่นก็เป็นความเกรียนที่เป็นเสน่ห์ของเขาโดยเสมอมา

ซึ่ง Tom Holland เองก็แน่นอนว่าเขาเป็นดาราที่มีภาพจำใน Spider-Man เพราะหนังที่ผ่านๆ มานั้น เขามักไดัรับบทเป็นคนธรรมดาจนอาจจะไม่ได้เป็นที่น่าจดจำเท่าไรนัก แม้ว่าจะมีบทสำคัญกับเรื่องราวก็ตาม แต่นอกจาก Spider-Man แล้ว การที่เขาได้รับบท Nathan Drake ของหนังจากเกมอย่าง Uncharted ที่แฟนๆ ได้แต่ภาวนาให้มันไม่แป้ก ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นได้ ก็น่าจะนับเป็นอีกหนึ่งฉากจำของน้องทอมได้เลยทีเดียว แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำบทบาทก่อนๆ ของน้องทอมดูก่อนว่า ถ้าน้องไม่เป็น Spider-Man น้องจะเป็นอะไรได้บ้าง

The Impossible (2012) – เด็กน้อยที่โดนสึนามิถล่ม

เฮนรี่ และมาเรีย สองสามีภรรยาพร้อมทั้งลูกชายอีก 3 คน ได้เดินทางมาจังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ในขณะที่พวกเขากำลังดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดพิเศษกับทะเลสวยๆ นั้น ชีวิตก็ต้องพลิกผันเมื่อเช้าวันที่ 26 ธันวาคมนั้น เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้พวกเขาแต่ละคนต้องพลัดพรากจากกัน ทำให้ต่างคนต่างต้องเอาชีวิตรอดจากธรรมชาตินี้ เพื่อให้ได้กลับไปพบเจอกันอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง

หนังเรื่องแรกที่สปอร์ทไลท์มาลงที่น้องทอมในวัย 16 ปี แบบเต็มๆ ในบทของ ลูคัส ลูกชายคนโตของบ้าน ที่การแสดงของเขาผ่านทางสีหน้าแววตา ดูเต็มไปด้วยความรู้สึก และน่าเอาใจช่วยจริงๆ รวมถึงในแง่ของความสัมพันธ์ของเขาและแม่ กับการแบกรับปัญหาต่างๆ จากสิ่งที่เกิดขึ้น จนทำให้เขาต้องเติบโตขึ้นภายในช่วงระยะเวลาอันสั้น ซึ่งด้วยความซับซ้อนทางตัวละคร และความสามารถของเขาก็เลยทำให้เขากลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ภายในเวลาไม่นาน อีกทั้งตัวหนังเองที่กำกับโดย J.A. Bayona ก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ที่เข้มข้น และผลักดันทุกตัวละครจนเสริมการแสดงให้ทุกคนได้ดีอีกด้วย

In the Heart of the Sea (2015) – กะลาสีบนเรือล่าวาฬยักษ์

ในฤดูหนาวของปี 1820 เรือ Essex ของนักล่าวาฬจากนิวอิงแลนด์ ได้ออกเดินทางไปล่าสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์อย่างวาฬ แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อผู้ล่ากลับกลายเป็นผู้ถูกล่าเสียเอง เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับวาฬยักษ์ Moby Dick ที่เข้าจู่โจมเรืออย่างหนักหน่วง เสมือนว่าเป็นการล้างแค้นการกระทำของเขา จนทำให้พวกเขาต้องต่อสู้เอาชีวิตรอด กับทั้งวาฬ และพายุที่โหมกระหน่ำพร้อมเอาชีวิตพวกเขาในทุกๆ วินาที

อีกหนังใหญ่ที่รายได้กลับไม่ปังเท่าไรนักของผู้กำกับ Ron Howard ที่หยิบเอานวนิยายชื่อดังของ Herman Melville ที่มีชื่อว่า Moby Dick มาเล่าให้เป็นหนังสุดยิ่งใหญ่ ที่จะชวนมนุษย์ฉุกคิดถึงกิจกรรมการล่าวาฬและธรรมชาิตที่เริ่มลงโทษพวกเขา ซึ่งในเรื่องนี้น้องทอมเองก็ได้ร่วมงานกับผู้กำกับรุ่นใหญ่ พร้อมด้วยดารารุ่นพี่อีกมากมายอย่าง Chris Hemsworth, Cillian Murphy, Ben Whishaw ซึ่งบทของน้องก็สำคัญอยู่ไม่น้อย เพราะนับเป็นอีกหนึ่งผู้รอดชีวิตที่ออกมาเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่นี้

The Current War (2017) – ลูกมือนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ

ช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมตอนช่วงปลายปี 1880 ที่เกิดหนึ่งในนวัตกรรมใหม่ที่ทั่วโลกสนใจอย่าง หลอดไฟ โดยมี โทมัส อัลวา เอดิสัน เป็นผู้ผลิตหลอดไฟแบบกระแสตรง จนกลายเป็นผู้ผูกขาดการวางระบบไฟฟ้าแบบนี้ไปไหนหลายๆ รัฐของประเทศอเมริกา แต่แล้วด้วยข้อจำกัดบางอย่างของวิธีการนี้จนทำให้เขาพยายามหาวิธีใหม่แก้ไขมัน โดยมี นิโคลา เทสลา มาเป็นผู้ช่วยคนสำคัญ แต่โทมัสกลับหักหลัง นิโคลา จนทำให้เขาไปขายสิทธิบัตรนี้ให้กับ จอร์จ เวสติงเฮาส์ ที่เป็นคู่แจ่งของ เอดิสัน แทน จนทำให้เกิดเป็นสงครามอุตสากรรมไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่โลกต้องจารึก

อีกหนังที่โดนมรสุมเลื่อนเข้าตอนฉายจากกรณีบริษัทของ Harley Weinstein ที่มีคดีฉาวพอดี แต่สุดท้ายก็ได้กลับมาฉายหลังดองไว้ 2 ปี จนได้ชื่อของดาราของเหล่า Marvel ช่วยดันหนังให้ดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยหลักๆ จะเป็นการประชันบทบาทของ Benedict Cumberbatch และ Michael Shannon ที่มีทฤษฎีที่เป็นขั้วตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง ส่วนน้องทอมก็เป็นเด็กน้อยที่มายืนรับการปะทะกันของดาราคู่นี้ร่วมกับ Nicholas Hoult ซึ่งโดยรวมมันก็เป็นหนังประวัติศาสตร์ที่ทำออกมาได้ดูสนุกดี เห็นภาพจากที่เคยเรียนเรื่องไฟฟ้าจากสมัยก่อนมามากขึ้นแม้ว่าบทน้องทอมเองจะออกมาไม่เยอะก็ตาม

Dolittle (2020) – เป็นน้องหมาที่สื่อสารกับเจ้าของได้

ด็อกเตอร์ จอห์น ดูลิตเติ้ล แพทย์และสัตวแพทย์อัจฉริยะผู้มีความสามารถพิเศษในการพูดคุยกับสัตว์ทุกประเภทได้อย่างเข้าอกเข้าใจ แต่หลังจากที่สูญเสียภรรยาไป เขากลับทิ้งชีวิตและความฝันทุกอย่างเพื่อเก็บตัวอยู่ในคฤหาสน์ส่วนตัวของเขา พร้อมๆ กับสัตว์หายากนานาพันธุ์ที่เขาดูแล แต่แล้วเมื่อพระราชินีดันเกิดประชวรหนัก เลยทำให้เขาต้องออกทำภารกิจเพื่อหาวิธีรักษาโรคนี้ให้ได้

อีกหนังที่ดัดแปลงมาจากนิยาย Dr. Dolittle ของ Hugh Lofting ที่มีอายุเกินกว่า 100 ปีแล้ว ฉบับนี้เลยดูเหมือนว่าจะกลับไปเคารพต้นฉบับ หลังจากที่เวอร์ชั่นของ Eddie Murphy ในปี 1998 นั้น พยายามปรับให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้นจนได้รายได้ถล่มทลาย ซึ่งผลที่ได้ก็คือหนังค่อนข้างออกมาโทนเด็กอยู่ไม่น้อย จนทำให้เด็กอาจจะดูเพลิน แต่ผู้ใหญ่อาจจะมีหาว ส่วนทีมดาราก็ได้ตัวพ่ออย่าง Robert Downey Jr. มาเป็น Dolittle ส่วนดาราที่ดังคนอื่นๆ ก็กลายเป็นคนพากษ์เสียงสัตว์ในเรื่องแทน โดยมี Tom Holland เป็นหนึ่งในนั้นในการพากษ์เสียงน้องหมาที่มีชื่อว่า Jip นั่นเอง ส่วนสัตว์ตัวอื่น ลองเปิดดูการพากษ์ได้ แล้วจะบอกว่ามันไม่ธรรมดาเลยจริงที่ได้ดาราระดับนี้มาเยอะขนาดนี้

The Devil All the Time (2020) – เด็กหนุ่มผู้ปฏิเสธต่อพระเจ้า

อาร์วิน รัสเซลล์ เด็กหนุ่มที่เติบโตมากกับ วิลลาร์ด พ่อของเขาที่เป็นอดีตทหารอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สภาพจิตใจพังทลาย จนทำให้หลังจากมีเขาได้ไม่นาน ทั้งพ่อและแม่เขาก็ต่างจากไป ทำให้อาร์วินจึงต้องย้ายไปอยู่กับย่าและลุงครอบครัวที่ยังเหลืออยู่ของเขา จนเมื่อเขาได้เติบโตขึ้นมา มรสุมชีวิตก็ยังดูไม่จบแค่นั้น เมื่อเขายังต้องพบกับบาทหลวงเพรสตัน ชายที่เอาศาสนามาบังหน้าเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง รวมถึงคู่รักฆาตกรโรคจิต ที่ทำให้อาร์วินรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วปีศาจก็คือสิ่งที่อยู่รอบตัวเรานี่เอง

อีกหนังจากนิยายชั้นดี ที่สะท้อนภาพสังคมอเมริกันได้ออกมาอย่างโหดร้ายและน่าเจ็บปวด แต่ด้วยบทที่เข้มข้น ประกอบกับตัวละครที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความเลวร้ายต่างๆ นานา ก็ทำให้มันเป็นที่นิยมได้ไม่ยาก ซึ่งในเรื่องนี้ก็เป็นผลงานที่ Netflix ได้หยิบเอาต้นฉบับมาดัดแปลง และได้ดาราอย่าง Tom Holland มาเป็นตัวเอกแสดงนำในการดำเนินเรื่องราว ซึ่งเขาก็รับหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี จากหนุ่มที่มีความเชื่อในเรื่องพระเจ้า ที่ค่อยๆ หมดศรัทธาไปเมื่อต้องเผชิญกับความจริงในโลกอันโหดร้าย จนนับเป็นอีกหนังดีๆ สำหรับคนที่ชอบดูหนังสายดราม่าเข้มๆ เลย 

Chaos Walking (2021) – เด็กหนุ่มที่เสียงออกมาจากความคิด

ทอดด์ ฮิววิตต์ เด็กหนุ่มที่เกิดมาในโลกอนาคต ที่เกิดเชื้อโรคประหลาดที่คร่าชีวิตของสิ่งมีชีวิตเพศหญิงไปจนหมด ในขณะที่เหล่าผู้ชายที่ยังรอดชีวิต ก็กลับมีอาการประหลาด เมื่อทุกความคิดของพวกเขานั้นถูกแสดงออกมาเป็นภาพเสียงของความคิด จนทุกคนมองเห็นกันได้ ในขณะที่เขากำลังใช้ชีวิตตามปกตินั้น จู่ๆ เขาก็ได้พบกับ วิโอล่า มนุษย์ผู้หญิงคนแรกที่ยานมาตกที่เมืองแห่งนี้ และได้พบความลับบางอย่างของเมือง ทำให้พวกเขาทั้งคู่จึงต้องพยายามเอาชีวิตรอด ในขณะที่ต้องหาความจริงที่เกิดขึ้น

อีกหนังที่จับคู่ดาราวัยรุ่นที่มาแรงของยุคนี้ทั้ง Tom Holland จากค่าย Marvel และ Ridley Daisey จาก Star Wars มาสู่หนังที่สร้างจากนิยายโลกดิสโทเปียชื่อดังชุด Chaos Walking โดยหยิบเอาเล่มแรกที่มีชื่อว่า The Knife of Never Letting Go ที่ส่วนตัวจากที่อ่านนิยายมาก็รู้สึกว่ามันดัดแปลงมาได้ค่อนข้างสนุกกว่าต้นฉบับอยู่ไม่น้อย มีอะไรลุ้น ให้ตื่นเต้นอยู่ตลอด แต่น่เสียดายที่คำวิจารณ์ส่วนมากที่ออกมากลับไม่เป็นเช่นนั้น แถมหนังเองก็ยังล้มเหลวด้านรายได้ไปอีก ส่งผลให้ในตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะได้ดูภาคต่อที่จะเห็นน้องทอมกลับมารับบท ทอดด์หรือไม่ เพราะนับเป็นหนังแป้กครั้งใหญ่อีกเรื่องของน้องเลย

Cherry (2021) – ทหารผ่านศึกที่เป็น PTSD

เชอร์รี่ เด็กหนุ่มใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยที่เพิ่งถูกแฟนสาวอย่าง เอมิลี่ ทิ้งมาหมาดๆ ด้วยเหตุผลที่จะไปเรียนต่างประเทศ เขาเลยตัดสินใจไปเป็นทหารและร่วมรบในสงครามอิรัก จนได้พบกับความโหดร้ายกับสงครามอย่างแท้จริง ทำให้แม้ว่าเขาจะรอดชีวิตกลับมาได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับสภาวะ PTSD (ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์รุนแรง) จนทำให้เขาต้องเผชิญกับภาพหลอนอยู่บ่อยครั้ง และหันเหชีวิตเข้าสู่ด้านมืดของชีวิต

หนัง Original Content ของ Apple TV+ ที่เล่าเรื่องผ่านประสบการณ์จริงของ Nico Walker อดีตทหารที่กลับจากสงครามและลงเอยที่ไปปล้นธนาคาร โดยเขาได้ถ่ายทอดเรื่องราวส่วนตัวนี้อยู่ในระหว่างที่ถูกจำคุก จนออกมาเป็นหนังสือ โดยได้น้องทอมมารับบทเป็นตัวของเขา และได้ผู้กำกับอย่างพี่น้องรุสโซ่ จนออกมาเป็นหนังดราม่าเข้มๆ ที่ให้น้องทอมได้แสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไม่ค่อยมีกระแสดันเท่าไรนัก ส่วนคำวิจารณ์ก็กลางๆ จนไม่ค่อยมีคนพูดถึงในวงกว้างนัก

Uncharted (2022) – นักล่าสมบัติจากเกมชื่อดัง

อีกหนึ่งหนังที่น่าจับตามองที่สุดของคอเกม Uncharted หรือจะเรียกว่าเป็น Indiana Jones แห่งทศวรรษนี้ก็คงไม่ผิดนัก เพราะมันเล่าถึง Nathan Drake น่าล่าสมบัติที่ต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวต่างๆ ทั้งการไขปริศนาประวัติศาสตร์ต่างๆ พร้อมทั้งองค์กรลับที่หวังค้นหาในสิ่งเดียวกันเพื่อนำมันมาทำลายล้างโลก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวหนังจะเหมือนกับในเกมสักแค่ไหน เพราะแต่ละฉากก็ดูเหมือนจะเป็นการยำๆ กันมาจากหลายภาค ก็ต้องมาลุ้นกันว่าการดัดแปลงรอบนี้จะรอดหรือไม่ และน้องทอมจะได้บท Nathan Drake มาเป็นภาพจำเพิ่มอีกอันหรือเปล่า