รวมหนังแอคชั่นโคตรระห่ำ ของพระเอกติดดิน Keanu Reevesรวมหนังแอคชั่นโคตรระห่ำ

หากจะพูดถึงดาราอีกคนที่เป็นที่รักของแฟนๆ ก็คงหนีไม่พ้น Keanu Reeves แน่ๆ เขาเป็นนักแสดงชาวแคนาดา ที่ชีวิตช่วงต้นเขาผ่านวิบากกรรมมามากมาย เลยทำให้เขาใช้ชีวิตติดดินให้ผู้คนเห็นมาโดยตลอด และยังแสดงน้ำใจให้ผู้คนเห็นหลายต่อหลายครั้ง จนเมื่อเข้าวงการก็ได้มีบทนำเป็นครั้งแรกในหนังชื่อ Youngblood ก่อนที่จะมาดังในภาพยนตร์สุดฮา บ้า เปิ่นใน Bill & Ted’s Excellent Adventure (1989) แล้วมาตอกย้ำความดังอีกครั้งในหนังแอคชั่นอย่าง Point Break และ Speed จนมีภาพแอคชั่นสตาร์ในยุคนั้นติดตัวมาโดยตลอด

แม้ว่าจริงๆ แล้วหนังที่ Keanu Reeves เล่นนั้น ส่วนมากจะไม่ใช่หนังแอคชั่นก็ตาม แต่ช่วงที่ผ่านมาเราก็มักจะได้เห็นแกรับบทหนังแอคชั่นแห่งยุคมาโดยเสมอ ทำให้ถึงจำนวนหนังแอคชั่นที่เขาเล่นจะมีไม่มาก แต่เกือบทุกบทก็ล้วนน่าจดจำแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น The Matrix ที่เป็น Iconic แห่งยุคนั้นอย่างแท้จริง และข้ามมายุคนี้ก็ยังมีบทของ John Wick ที่เป็นหนังแอคชั่นมันส์เดือดจัดๆ อีกเรื่องของยุคนี้ ในแบบที่หนังน้อยเรื่องจะทำได้ เราเลยพยายามรวบรวมหนังแอคชั่นที่มีของเขามาให้ดูกัน รับรองมันส์ทุกเรื่องแน่นอน

1. Point Break (1991)

จอห์นนี่ ยูท่าห์ และ แองเจโล เพพพาส 2 ตำรวจมือดีที่ได้รับมอบหมายจาก FBI ได้ไปตามล่าแก๊งโจรรายหนึ่งที่ไปปล้นเงินที่ธนาคารมาหมาดๆ แล้วพวกเขาก็ได้พบว่าแก๊งโจรนี้เป็นกลุ่มนักเล่นกีฬา Extreme และเล่นเซิร์ฟกันเป็นชีวิตจิตใจ โดย จอห์นนี่ ได้แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มนี้ และได้สนิทกับ โบดี้ หัวหน้าแก๊งโจร จนเกิดมิตรภาพที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตว่า เขาจะจับพวก โบดี้ ตามกฏหมาย หรือจะเข้าร่วมกับแก๊งโจรนี้เพื่อไปใช้ชีวิตอิสระกับพวกเขา

อีกหนังที่ฮิตที่ดังจนต้องมีภาครีเมคเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเป็นแอคชั่นที่สนุกตรงที่แก๊งโจรเป็นพวกนักเล่นเซิร์ฟ ก็จะมีฉากเท่ๆ อยู่พอสมควร จนหนังโกยรายได้ไปเกือบ $100 ล้าน (นับว่าสูงมากในยุคนั้น) แถมหนังเองก็ยังกำกับโดย Kathryn Bigelow ที่มีหนังรางวัลเข้มจัดๆ แบบ The Hurt Locker และ Zero Dark Thirty ด้วย แต่ในตอนนั้นยังทำหนังบันเทิงอยู่ แต่ก็ไม่ได้ลดคุณภาพมาก เพราะก็ยังมีปมของตัวเอกและโจรให้ได้สนุกกันอยู่ ซึ่งในเรื่องนี้ Keanu Reeves อาจจะยังไม่เด่นเท่าไรในแง่การแสดง แต่โดยภาพรวมก็ยังเป็นหนังแอคชั่นของคนยุค 90s ที่ดูสนุกอีกเรื่องนึงอยู่ดี

2. Speed (1994)

แจ็ค ทราเวน เจ้าหน้าที่หน่วยสวาทของกรมตำรวจลอสแองเจิลเลส ต้องเจอกับมือวางระเบิดจิตแตก ที่ดันเอาระเบิดไปติดเอาไว้กับรถบัสโดยสารคันหนึ่ง โดยกติกาของเกมนี้มีอยู่ว่าหากรถคันนี้วิ่งต่ำกว่าความเร็ว 50 ไมล์ต่อชั่วโมง มันจะระเบิดในทันที แจ๊ค จึงต้องเป็นหน่วยอาสาแก้ปัญหาบนรถคันนี้ไปพร้อมๆ กับผู้โดยสารสาวสวยอย่าง แอนนี่ พาร์ตเตอร์ เพื่อให้ตัวประกันทุกคนในรถรอดไปได้จากสถานการณ์วิกฤตชีวิตในครั้งนี้

สำหรับ Speed คือหนังที่เหมาะกับคอหนังแอคชั่นเป็นอย่างยิ่งในทุกยุคทุกสมัย เพราะเราคงไม่ได้เห็นเงื่อนไขของหนังแอคชั่นที่เอาในเรื่องของความเร็วมาเป็นคอนเซปได้ชัดเจนเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว อีกทั้งหนังยังสร้างความตื่นเต้น ลุ้นระทึก มีอะไรให้ติดตามกันแบบ Non-Stop จนทำให้ไม่ต้องกลัวว่าจะง่วงจะหาวกับหนังเรื่องนี้กันเลย นอกจากนี้มันยังเป็นอีกหนึ่งบทบาทของพระเอกหน้าหล่อ คีอานู รีฟ ในยุคๆ แรกๆ พร้อมกับผมทรงสกินเฮดสุดเท่ด้วย มองยังไงคอหนังแอคชั่นก็ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ และยิ่งถ้าชอบหนังแอคชั่นยุค 90s แบบพวก Con Air, The Rock อะไรแบบนี้แล้ว Speed ก็จะเป็นอีกเรื่องที่ต้องตามเก็บเลย

3. The Matrix (1999)

นีโอ ชายหนุ่มผู้มีอาชีพเป็นแฮคเกอร์ และใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งวันนึงเขาก็ได้พบว่าโลกที่เข้าอยู่นั้นเป็นเพียงโลกจำลองที่อยู่ภายใต้การควบคุมของบรรดาเครื่องจักรเท่านั้น ทำให้เขาจึงเลือกตื่นขี้นมาตามคำแนะนำของ มอเฟียส และทรินิตี้ ก่อนที่จะพบว่าในโลกความเป็นจริง มนุษย์ได้พ่ายแพ้ในสงครามระหว่างเครื่องจักรไปแล้ว และมนุษย์ส่วนมากก็กลายมาเป็นเพียงแหล่งพลังงานให้กับบรรดาเครื่องจักรเท่านั้น ส่งผลให้มนุษย์กลุ่มนึงที่หลุดพ้นออกมาแล้วนั้น ก็ได้ลุกขึ้นมาต่อต้านและปลดแอกตัวเองจากสภาวะเช่นนี้ โดยมี นีโอ เป็นความหวังเดียวที่จะล้มล้างทุกอย่างได้ จากคำทำนายของแม่หมอพยากรณ์

หนังที่คอหนังไซไฟจ๋าๆ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะหนังมีทั้งความล้ำในแบบวิทยาศาสตร์ควบคู่ไปกับปรัชญาที่ชวนคนดูมาร่วมตีความ อีกทั้งการตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะรู้ได้อย่างไรว่า โลกที่เราอยู่ในทุกวันนี้มันเป็นโลกจริงๆ หรือโลก The Matrix แบบในหนัง แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่คอหนังไซไฟสักเท่าไร ก็ยังสามารถสนุกไปกับหนังได้อยู่ ด้วยเนื้อเรื่องสุดมันส์ กับฉากแอคชั่นสุดเท่ต่างๆ ในเรื่อง ที่ทำออกมาได้โคตรล้ำไม่เหมือนใคร ทั้งต่อสู่ระยะประชิด หรือการใช้อาวุธปืนก็ดุเดือดทั้งหมด จนสุดท้ายแล้วไม่ว่าใครก็ควรดูสักครั้งในชีวิตอยู่ดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะพลาดมันจริงๆ 

4. John Wick (2014)

John Wick อดีตนักฆ่าระดับตำนาน ที่ลาออกจากวงการมาเพราะมีความรัก แต่แล้วเขาก็ต้องสูญเสียคนรักไป เหลือเพียงสุนัขตัวน้อยพันธุ์บีเกิ้ล ที่เสมือนเป็นของดูต่างหน้าของอดีตภรรยาของเขา วันหนึ่งเขาได้ไปพบกับกลุ่มอันธพาลที่หวังจะมาเอารถของเขา แถมมันยังล้ำเส้นถึงขนาดมาขโมยรถถึงในบ้าน พร้อมทั่้งฆ่าหมาของเขาตาย เขาจึงต้องหวนคืนสู่วงการ พร้อมทั้งสัญชาตญาณดิบ ในการล่าล้างแค้นพวกที่มันทำแบบนี้ให้สิ้นซาก โดยที่ไม่สนว่าพวกมันจะเป็นลูกชายเจ้าพ่อตัวเบ้งในวงการก็ตาม

สำหรับ John Wick คือหนังที่พลาดไม่ได้สำหรับคอหนังแอคชั่นที่หมวดหมู่ แต่มันจะทำงานได้ดีเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ชื่นชอบในหนังแอคชั่นแบบ Old School พล็อตเรื่องง่ายๆ เน้นศิลปะการสู้แบบมือเปล่า และฉากยิงกัน เพราะหนังเรื่องนี้ มันจะยกระดับความมันส์แบบ Old Schoold ขึ้นไปอีก จากความดุเดือด ดุดัน ยิงทีเป็นตาย อัดทีเป็นร่วง พร้อมทั้งยังเปิดจักรวาลเรื่องราวของวงการนักฆ่าที่น่าสนใจ จนเป็นกลายเป็นหนังแอคชั่นที่ขายสไตล์โดยแท้ ซึ่งถ้าใครชอบหนังสไตล์ บู๊ เงียบ เท่ อย่าง Taken หรือ The Man from nowhere แล้ว John Wick ก็คือหนังสไตล์เดียวกันเลย

5. Constantine (2005)

จอห์น คอนสแตนติน เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ตัวเองไม่ต้องการ กับความสามารถที่จะจำแนกเหล่าเทวดา และปีศาจลูกครึ่ง ที่ปลอมตัวมาเป็นมนุษย์เดินดิน เขาถูกกดดันให้คร่าชีวิตตัวเอง เพื่อหนีให้พ้นจากความทุกข์ทรมาณ แต่สุดท้ายเขาต้องมาต่อกรบรรดาสมุนแห่งปีศาจที่รุกรานโลกต้องมาไล่ปราบผี กระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบ ตำรวจหญิง แอนเจลา ดอดสัน ที่มาขอความช่วยเหลือจากเขา ในการไขคดีฆาตกรรมลึกลับของน้องสาวฝาแฝดของเธอ การสืบสวนของพวกเขา ได้นำพาไปยังทั้งโลกแห่งความชั่วร้ายและเทพยดา ทั้งสองจึงต้องพัวพันอย่างหาทางออกไม่ได้

สำหรับ Constantine เป็นหนังไซไฟระทึกขวัญแฟนตาซี กออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนดู 3 แบบ คือคนชอบความสยองขวัญ กลุ่มคนที่ชอบหนังไซไฟ และตัวพระเอกอย่าง Keanu Reeves ที่ปรับลุคใหม่กลายเป็นคนไล่ล่าผี หนังมีฉากแอ็คชั่นเท่ห์ๆให้เราได้ดูความหล่อของพระเอก ใส่โปรดัคชั่นที่เยี่ยมยอดให้คนดูสนุกไปกับการต่อสู้ของมือปราบผีที่ไม่มีพลังพิเศษอะไรเลยสักนิด

6. 47 Ronin (2013)

ไค ชายต่างแดนไร้สังกัดที่เข้ามาอยู่กับ โออิชิ หัวหน้ากลุ่ม 47 โรนิน ด้วยจุดประสงค์เดียวกัน นั่นก็คือการล้างแค้นเหล่าขุนนาง ที่มีส่วนร่วมในการวางแผนบุกเข้ามาในเมืองและฆ่าเจ้าเมืองของพวกเขาอย่างโหดเหี้ยม แถมพวกเขาเองก็ยังถูกเนรเทศไร้เกียรติยศจนทำให้เขาและซามูไรทั้ง 47 คน จึงต้องรวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของพวกเขาคืนมา และล้างแค้นให้ผู้เป็นนายให้จนได้

อีกหนังที่กระแสแตกของ Keanu Reeves ที่หลายคนก็ยังบอกว่าดูได้แบบเพลินๆ กับแอคชั่นแบบเรื่อยๆ และเนื้อเรื่องการล้างแค้นที่เพลินๆ ดี ในขณะที่อีกหลายฝ่ายก็ยังรู้สึกว่าดูบิดเบือนประวัติศาสตร์ เติมความแฟนตาซีเข้ามาเยอะไปหน่อย แต่จริงๆ ก็ดูเป็นสีสันดี อีกอย่างเรื่องการบิวท์อารมณ์ ในการล้างแค้นให้นาย ก็ทำออกมาให้ชวนซึ้ง ถ่ายทอดความเป็นญี่ปุ่นออกมาได้น่าสนใจเลย  จนนับว่าถึงจะไม่ตรงประวัติศาสตร์เท่าไร แต่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของคนดูหลายคนที่ดูแล้วสนใจ จนไปตามหาเรื่องราวจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อกันอีกเยอะเลย