รวมหนังประวัติศิลปิน ที่ต้องจารึกเอาไว้เป็นตำนาน

โลกของศิลปินนั้น เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่ดูแตกต่างจากคนธรรมดาอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกเซเลบระดับโลกหลายๆ คนที่ชีวิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และมีชีวิตแบบสุดเหวี่ยงเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ จนไม่แปลกนักที่ไม่ว่าจะหยิบชีวิตของใครออกมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ ก็จะเห็นความบันเทิงอยู่ในนั้นแบบเต็มเปี่ยมไม่ต่างอะไรกับเรื่องแต่งเลยทีเดียว

แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ความโด่งดังก็เปรียบเสมือนดาบสองคมที่ทำลายชีวิตของพวกเขาไปด้วย เพราะศิลปินหลายคนต่างต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร จากการที่ต้องเผชิญหน้ากับชื่อเสียง และการถูกรุกล้ำชีวิตจนไม่เป็นตัวเองอีกต่อไป ซึ่งใน List นี้ก็มีหลายคนที่น่าเสียดายอยู่เช่นกัน วันนี้เลยอยากจะหยิบเรื่องราวศิลปินระดับโลกหลายๆ คนที่ถูกเอามาทำเป็นหนังกัน เพื่อต้อนรับหนังชีวประวัติใหม่ของ Whitney Houston อย่าง I Wanna Dance with Somebody ส่วนจะมีใครบ้างมาดูกันเลย

Ray (2004) – Ray Charles

เรย์ ชาร์ลส์ หนุ่มวัยรุ่นผิวดำที่พิการตาบอดตั้งแต่วัยเด็ก เขานั้นเลือกเดินทางเข้ามาในเมืองซีแอตเทิ้ล เพื่อพัฒนาพรสวรรค์ในศิลปะเพลงแจ๊สของเขา ท่ามกลางการเหยียดสีผิว และความแตกต่างที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงคาดหวังการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมในฐานะคนผิวดำคนหนึ่ง จนกระทั่งชื่อเสียงของเขากลายเป็นความรุ่งโรจน์ในชีวิต

อีกหนึ่งวีรบุรษทางดนตรีแจ๊สอีกคนที่ชีวิตน่าสนใจไม่แพ้กัน แม้ว่าคุณจะรู้จักเขาหรือไม่ก็ตาม เพราะแค่ความสู้ชีวิตของเขาในฐานะคนผิวดำในยุคนั้นยังไม่พอ ยังมีความพิการทางสายตาเข้าไปด้วย แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถปิดความสามารถทางดนตรีของเขาได้ เขานั้นจึงมีความเชี่ยวชาญกับการผสมผสานทางดนตรีหลายแนวเยอะมาก แม้ว่าหลักๆ จะเป็นแจ๊ส แต่พอผสมกับอะไรมันก็กลมกล่อมไปหมด ตลอดเรื่องเราจะได้เห็นทั้งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดไม่ต่างจากคนดังคนอื่น นับว่าเป็นหนังสายแจ๊ส บลูส์ ที่ใครชอบเพลงสายนี้ รับรองอิ่มเอม

Walk the Line (2005) – Johnny Cash

 หนังชีวประวัติจอห์นนี่ แคช นักร้องชายแนวคันทรี่ที่โด่งดังมากๆ ในช่วงยุค 50-60s กับเส้นทางการเป็นศิลปินจนได้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ ตั้งแต่ในวัยเด็กที่เขานั้นไม่ได้เป็นที่รักของครอบครัว จนชีวิตต้องระเห็จระหินไปเป็นทหาร และเป็นเซลล์แมนขายของตามบ้านที่ไม่ใครต้องการ แต่แล้วชีวิตก็มาถึงจุดเปลี่ยนเมื่อพรสวรรค์ด้านดนตรีของเขาก็ได้เบ่งบานออกมาจากการตั้งวงดนตรีกับกลุ่มเพื่อนของเขา และได้พบรักกับ จูน คาร์เตอร์ นักร้องหญิงอีกคน

 อีกหนังที่โดดเด่นมากด้านคุณภาพ จนถึงขนาดเข้าชิงออสการ์ถึง 5 รางวัล และก็คว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาได้ โดย Reese Witherspoon แต่ในความเป็นจริงแล้ว Joaquin Phoenix เองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เสียดายที่ปีนั้นก็ยังค่อนข้างเคี่ยวอยู่ โดยตัวหนังเองนั้น มีดีทั้งในการเล่าเรื่อง การตัดต่อ และการทำ Sound ในแบบที่เรียกได้ว่าครบเครื่องมากๆ จนเป็นหนังเพลงชั้นดี แม้ว่าคนดูจะไม่ได้รู้จักกับ จอห์นนี่ แคชก็ตาม เพราะชีวิตของเขาก็มีอะไรให้น่าติดตามตลอด ทั้งการสู้ชีวิต อุปสรรคที่เข้ามา และเรื่องราวความรักก็ล้วนสร้างแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดีเลย

Straight Outta Compton (2015) – NWA

เรื่องราวของวงแร็พเปอร์ชื่อดังอย่าง NWA ที่ย่อมาจาก Niggaz Wit Attitude พวกเขาแต่ละคนเติบโตมาในย่านที่อันตรายของแคลิฟอร์เนีย ทั้งปัญหาอาชญากรรมจากผู้คนในท้องถิ่น รวมถึงความเลวร้ายของตำรวจผิวขาวด้วย พวกเขาจึงหยิบเอาดนตรีและใส่เนื้อหาตรงๆ เข้าไปในเพลง Hip Hop ของพวกเขา จนโด่งดังขึ้นมาได้ ท่ามกลางปัญหาหลายอย่างที่พร้อมกระหน่ำใส่พวกเขา จนหลายคนเรียกพวกเขาว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการดนตรียุคนั้นเลย

อีกหนังคนดำที่กำกับโดย F. Gary Gary ผู้กำกับผิวดำที่ถนัดหนังสายแอคชั่นระทึกขวัญ แต่พอมาหยิบเอาเรื่องราวของดนตรีมาทำ ผสมกับความแก๊งสเตอร์ และอาชญากรรม ก็เลยได้หนังเข้มๆ ที่ออกมามีคุณภาพอย่างยิ่ง พร้อมทั้งกวาดรางวัลมาได้มากมาย รวมถึงการได้เข้าชิงออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมด้วย นับเป็นอีกหนึ่งหนังดนตรีสไตล์ Hip Hop แบบเดือดๆ เข้มๆ ที่ใครชอบวายนี้ไม่ควรพลาดเลย

Bohemian Rhapsody (2018) – Freddie Mercury

ฟารุค บัลซารา ที่เติบโตมากับครอบครัวเชื้อสายเปอร์เซียในอังกฤษที่เคร่งครัด และวันหนึ่งด้วยความบังเอิญ เขาได้กลายมาเป็นนักร้องนำที่ต่อมาเรียกตัวเองว่า ‘Queen’ พร้อมอีก 3 สมาชิกของวง ไบรอัน เมย์, โรเจอร์ เทย์เลอร์ และจอห์น ดีคอน ซึ่งฟารุคได้เปลี่ยนชื่อเป็น เฟรดดี เมอร์คูรี ในภายหลัง และพบเจอกับความสำเร็จที่ทำให้เขาได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในศิลปินที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์

หนังกึ่งชีวประวัติแนวดนตรีที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง การหยิบเรื่องราวของ Freddie Mercury นักร้องนำวง Queen มาเล่าในหลากหลายแง่มุมกว่าจะเป็นร็อคสตาร์ไม่ได้ง่ายเลยกว่าจะได้รับการยอมรับ และวิธีการทำเพลงพิสูจน์ให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เข้าขั้นมหัศจรรย์ หนังเรื่องนี้กลมกล่อม อาจจะไม่ได้เจาะลึกโฟกัสแง่มุมเชิงลึกมากนัก  แต่การได้ฟังเพลงร็อคบนแผ่นฟิล์มไม่ใช่เรื่องง่ายๆ และหนังเรื่องนี้ทำออกมาถูกใจผู้คนมากมาย โดยเฉพาะแฟนเพลงวง Queen คนชอบฟังเพลงร็อคย้อนยุคจะได้เต็มอิ่มจุใจไปเลย

Rocketman (2019) – Elton John

เรื่องราวอันสุดมหัศจรรย์ในช่วงเวลาหลายปีที่ เอลตัน จอห์น แจ้งเกิดในวงการ ภาพยนตร์เรื่องนี้ติดตามการเดินทางสุดมหัศจรรย์พันลึกของการเปลี่ยนแปลงจาก เรจินัลด์ ดไวท์ นักเปียโนอัจฉริยะ ไปสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์ของโลก เอลตัน จอห์น เรื่องราวที่ให้แรงบันดาลใจเรื่องนี้ ซึ่งใช้บทเพลงของ เอลตัน จอห์น ที่คนทั้งโลกรักที่สุด กับบทบาทการแสดงโดยนักแสดงดาวรุ่ง ทารอน เอเจอร์ตัน บอกเล่าเรื่องราวที่ทุกคนสามารถอินไปด้วยได้ ว่าเด็กผู้ชายจากเมืองเล็ก ๆ ได้กลายมาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทุกคนชื่นชอบและมีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในวัฒนธรรมร่วมสมัยได้อย่างไร

สำหรับ Rocketman เป็นหนังที่สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้ชมได้มหาศาล บทเพลงของท่านเซอร์ เอลตัน จอห์น ช่วยเล่าเรื่องราวชีวประวัติได้อย่างสนุกสนานในแบบมิวสิคัล การร้อยเรียงเรื่องราวเต็มทำให้เรารู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นเพศชาย หญิง หรือ LGBT ก็สามารถดูเรื่องนี้และเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของป๋าเอลตัน

Elvis (2022) – Elvis Presley

ภาพยนตร์จะพาไปสำรวจชีวิตและดนตรีของ เอลวิส เพรสลีย์ ผ่านมิติความสัมพันธ์แสนซับซ้อนกับผู้จัดการนิสัยลึกลับ ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ เรื่องราวจะเจาะลึกไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง เพรสลีย์ และปาร์คเกอร์ ตลอดเวลา 20 ปี ตั้งแต่ เพรสลีย์ เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปจนถึงตอนที่มีแฟนคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางพื้นเพเบื้องหลังของวัฒนธรรมที่กำลังพัฒนาและการสูญเสียความไร้เดียงสาในอเมริกา ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตของ เอลวิส อย่างมาก นั่นก็คือ พริสซิลลา เพรสลีย์

เสียงปรบมือ 12 นาทีจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ คงไม่ใช่เรื่องเล่นๆแน่นอน ถ้าหากหนังเรื่องนี้ไม่มีคุณภาพ หนังผ่านไปสำรวจชีวิตของราชา Rock and Roll ที่ไม่ได้เล่าเรื่องเหมือนหนังชีวประวัติทั่วไป แต่เล่าผ่านมุมมองของผู้จัดการส่วนตัว Tom Parker หนังเปรียบเสมือนการเข้าไปสำรวจตัวตน Elvis มากกว่า ไม่ได้เล่ามุมมองที่สว่างเพียงอย่างเดียว แต่ยังพูดถึงชีวิตที่หัดเดิน การเติบโตที่เผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรคมากมาย Elvis มีใบหน้าที่หล่อเหลา มีการแสดงสดที่มัดใจผู้ชมผู้หญิง ท่าเต้นที่ยั่วผู้ชม แต่ในเวลาเดียวกันหนังก็พูดถึงการรับมือของเขาเวลาที่เจอกระแสต่อต้าน ไม่มีคนดังที่ไม่เคยโดนคำติเตียนคำวิจารณ์ แต่ยุคสมัย Elvis รุ่งเรือง คำวิจารณ์มันน่ากลัวกว่าโซเชียลสมัยนี้ซะอีก ประกอบกับการที่เขาโด่งดังในการทำเพลงในยุค 50 สังคมอเมริกันชนก็ไม่ได้เปิดกว้างเสียด้วย

I Wanna Dance with Somebody (2022) – Whitney Houston

นักร้องคนล่าสุดฉายา The Voice ที่หลายคนกล่าวขานว่าเป็นราชินีแห่งวงการเพลง อย่าง Whitney Houston ที่เรื่องราวของเธอนั้นได้ถูกหยิบเอามาเล่ากันในปีนี้ เริ่มตั้งแต่การเป็นนักร้องประสานเสียงในโบถส์เล็กๆ จนมุ่งสู่ดวงดาวเป็นเจ้าแม่แห่งเสียงทรงพลัง ผ่านความสุข ความเศร้า และอุปสรรคต่างๆ ทำให้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่เธอจากโลกนี้ไปในวัยเพียง 48 ปีเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ชีวิตเธอนั้นจะต้องถูกถ่ายทอดในฉบับหนังสักที โดยในฉบับหนังจะได้ Naomi Ackie มารับบทเป็น Whitney และได้คนเขียนบทจาก Bohemian Rhapsody หากใครชอบหนังเพลง และชอบบทเพลงของเธออยู่แล้วก็ไปสัมผัสประสบการณ์นี้กันได้ในโรงภาพยนตร์วันที่ 26 มกราคมนี้