7 สิ่งที่ไม่ควรทำในหนังสยองขวัญ ถ้ายังอยากรอดตาย!
เพื่อต้อนรับเดือนแห่งหนังสยองที่โถมเข้ากันแบบจัดเต็ม วันนี้หัวข้อเลยจะขอเอาใจคอหนังแนวนี้กันสักหน่อย เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนก็ได้จะเคยประสบปัญหาความหงุดหงิดเวลาดูหนังประเภทนี้ ว่าทำไมตัวละครมันถึงได้โง่บรมอะไรขนาดนั้น กับการตัดสินใจในแบบที่ไม่ควรจะเป็น และที่สำคัญมันดันไม่ใช่เกิดขึ้นในเรื่องเดียว แต่มักเป็นอะไรที่เกิดขึ้นซ้ำในหนังสไตล์นี้จนบางครั้งอาจต้องกุมขมับว่า เอาอีกแล้วสินะ!!
ทางเราเลยอยากรวบรวมข้อผิดพลาดของบรรดาตัวละครในหนังสยองขวัญที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมกับตัวอย่างที่ได้เห็นมาให้ดูกันว่าอะไรที่ไม่ควรทำ และทำไมถึงไม่ควรทำแบบนั้นเลยจริงๆ หากใครที่ดูหนังแนวนี้มาเยอะๆ แล้วมีข้ออื่นๆ มาแนะนำ ก็ลองมาแชร์กันได้เต็มที่เลย เผื่อจะมีอะไรที่โดนใจกันอีก ส่วนของแอดมินจะมีอะไรบ้างนั้น ลองมาดูกัน!
อย่าฝืนอยู่ในบ้านที่มันไม่ปกติ
มันจะมีหนังอยู่ประเภทหนึ่งที่ตัวละครมักเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ หรือมีเหตุให้ต้องเข้าไปในบ้านที่ดูไม่น่าไว้วางใจในระหว่างทาง ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วได้เผชิญกับสิ่งลี้ลับ ไม่ก็เหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งสิ่งแรกเลยที่ึคุณควรจะทำนั้นก็คือการตรวจสอบประวัติของบ้านให้เรียบร้อยก่อนที่จะซื้อ เพราะหนังอย่าง Amityville Horror, ลัดดาแลนด์, The Conjuring และอื่นๆ อีกมาก ก็เป็นตัวอย่างชั้นดีแล้วว่าการซื้อบ้านโดยไม่หาข้อมูลล่วงหน้านั้นจะให้ผลอย่างไร
หรือหนังประเภทที่มักเกิดเหตุกลางทางจนต้องไปอาศัยบ้านคนอื่นอย่าง The Texas Chainsaw Massacre หรือกลุ่มวัยรุ่นที่ไปปล้นบ้านคนอื่นอย่าง Don’t Breathe ที่นอกจากจะเข้าไปในบ้านเหล่านี้ง่ายๆ แล้ว แต่พอเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นมา พวกเขาก็ยังจะฝืนทนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่อไปกันอีก คือเข้าใจได้ว่าบ้านอาจเป็นสถานที่ในฝันสำหรับทุกๆ คน และหลายคนก็ลงแรงไม่น้อยเพื่อที่จะได้มันมา แต่สุดท้ายหนังเหล่านี้ก็พิสูจน์แล้วว่ามันก็ไม่ได้คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องเผชิญ และชีวิตของคนในครอบครัวที่ต้องเสียไปอยู่ดี
อย่าเข้าไปในที่มืดๆ
อีกคำถามที่คนดูมักรู้สึกทุกครั้งเวลาเห็นตัวละครพยายามเข้าไปในที่มืดๆ ก็คือ “ทำไมไม่เปิดไฟก่อนนะ?” นั่นเป็นเพราะโดยปกติแล้ว การอยู่ในสภาพมืดมิด ทำให้ประสาทสัมผัสการมองเห็นของมนุษย์ลดน้อยลงไปในทันที (ในขณะที่ฆาตกรหรือผีมันกลับตาดีกว่าเรา 555+) และในขณะที่เอาตัวรอด หรือบางทีเราก็มักเห็นพวกเขาวิ่งเอาตัวรอดในสถานที่ที่มันปิดทึบหรือมืดกว่าเดิมเช่น ห้องใต้หลังคา, ห้องใต้ดิน กันแบบงงๆ และสถานที่เหล่านั้นก็มักจะมีเครื่องมือที่พร้อมเอาไว้เชือดตัวเองซะด้วยสิ
โดยกลุ่มตัวอย่างนี้ที่เห็นเด่นชัดก็อย่าง Lights Out ที่ตัวละครต่างก็รู้ว่าผีที่จะฆ่าพวกเขาได้ในที่มืดเท่านั้น แต่พอเอาเข้าจริงดูพวกเขาก็เป็นกลุ่มคนที่เน้นพุ่งเข้าหาความมืดมากกว่าใคร และใช้ไฟจากเทียนแทนที่จะเป็นอุปกรณ์อย่างอื่น ดังนั้นทางรอดที่ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ คือหัดเปิดไฟให้สว่างๆ และอย่าพาตัวเองไปอยู่ในที่มืดๆ เลย
อย่าไปตามเสียง หรือเงาแปลกๆ
ไม่รู้ว่าตัวละครในหนังประเภทนี้จะชอบมีความกล้าอะไรแบบแปลกๆ เพราะในทุกครั้งที่มีเสียงปริศนา หรือเงาดำผ่าหน้าวาบไปนั้น สิ่งที่คนปกติพึงกระทำคือ “วิ่ง” แต่ด้วยความที่ตัวละครในหนังประเภทนี้มักมีความอยากรู้อยากเห็น ไม่อยากเชื่ออะไรง่ายๆ จนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตาตัวเอง ทำให้เมื่อพวกเขาอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ กลับพุ่งตัวเข้าไปหาในทันที
โดยเฉพาะเวลาที่เห็นสิ่งที่ตัวเองน่าคิดได้ว่า น่าจะเป็นผีแหละ เช่น การที่เห็นคนชุดขาวเดินผ่านแว้บเดียว พอตามไปกลับหายไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้พวกเขาอยากพิสูจน์มากกว่าเดิม อย่างบรรดาหนังฆาตกรโรคจิตอย่างพวก Friday the 13th หรือแม้แต่หนังผีชื่อดังอย่าง The Conjuring ที่มักมีการหลอกล่อของผีหรือฆาตกร ที่มักมาในรูปแบบเสียง หรือการสร้างปรากฏการณ์แปลกเพื่อล่อคนไปได้อยู่เสมอ
อย่าแยกออกไปตัวคนเดียว
สำหรับข้อนี้ไม่ต่างอะไรกับการตามเสียงหรือเงาแปลกๆ สักเท่าไร แต่ที่แย่ไปกว่านั้น แทนที่มันจะเรียกเพื่อนเดินไปด้วย ก็มักที่จะทำตัวแกร่งกล้าแล้วบอกว่าจะไปคนเดียว พร้อมลงท้ายด้วยคำว่า “เดี๋ยวชั้นกลับมานะ” ซึ่งเมื่อแยกออกไปแล้วตามด้วย Keyword นี้ทีไร ให้สันนิษฐานได้เลยว่าไม่รอดแน่ๆ เพราะการแยกออกไป มักทำให้เกิดโอกาสที่จะไปเจอกับฆาตกรหรือเจอกับภูติผี สัตว์ประหลาด ซอมบี้ หรืออะไรก็ตามสูงมากๆ และความสามารถในการเอาตัวรอดคนเดียวก็น้อยกว่าเป็นกลุ่มอยู่แล้ว
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้อยู่แก่ใจ แต่ความกล้าก็มักผลักดันให้พวกเขาไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวในสถานการณ์แบนี้อยู่เสมอ เช่น หนังอย่าง House of Wax ก็ได้จัดแจงแยกตัวละครออกจากกันอย่างสนุกมือ มีทั้งแยกไปกลุ่ม ไปคู่ ไปเดี่ยว จนต้องเจอกับความสยองที่ต่างกันออกไป แต่ในทางกลับกันในหนังทีตั้งใจมาฉีกขนบหนังแนวนี้อย่าง The Cabin in the Woods นั้น แทบจะไม่ได้สร้างสถานการณ์ให้เหล่าตัวละครแยกกันเลย แถมยังสวนหลายกระแสในแต่ละข้อในโพสท์นี้ด้วย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าถึงพวกเขาทำตามแล้วจะรอดเสมอไป อย่างน้อยๆ คนดูก็ไม่ต้องมาหงุดหงิดกับอะไรแบบนี้
อย่าคิดว่าฆาตกรมันตายง่ายๆ
แม้ว่าหนังหลายๆ เรื่องจะให้ความหวังกับทั้งคนดูและตัวละคร ที่เหมือนจะมีโอกาสได้ต่อสู้กับฆาตกรและมีโอกาสที่จะชนะได้ ด้วยการทำร้ายที่ดูรุนแรง จนอาจคิดได้ว่าพวกมันอาจสิ้นท่า หรือตายไปทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่หลายครั้งกาารคิดแบบนี้ทีไร กลับกลายมาเป็นภัยร้ายที่อันตรายถึงชีวิต เมื่อฆาตกรที่คิดว่าน่าจะตายไปแล้วกลับลุกขึ้นมาเอาชีวิตคนได้ต่อแบบเป็นก็อก ที่สองอยู่เสมอ
โดยตัวอย่างหนังประเภทนี้ก็ได้แก่พวกฆาตกรที่เหนือมนุษย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Jason จาก Friday the 13th, Freddy จาก Nightmare on Elm Street หรือ Michael Myers จาก Halloween ที่คิดง่ายๆ เลยว่าใน Halloween ภาคก่อนหน้าที่ 3 สาวได้รุมยำ Michael ได้ยับเยินและร่วงลงไปติดกับดักคาใต้ถุนบ้านท่ามกลางกองไฟแล้ว เขาก็ยังอุตส่าหกลับมาไล่ฆ่าพวกเธอต่อได้ใน Halloween Kills ต่อไปอีก เหมือนอย่างที่แต่ละตัวทำอยู่เสมอเพื่อให้หนังนั้นสามารถทำมาขายได้ในภาคต่อๆ ไป
อย่าซี้ซั่วลองในสิ่งที่เราไม่แน่ใจ
ความอยากรู้อยากเห็นดูท่าจะเป็นนิสัยติดตัวของตัวละครในหนังประเภทนี้ เพราะหลายครั้งที่พวกเขาก็ไปหาเหาใส่หัว ด้วยการมองหาอะไรแปลกๆ หรือเล่นอะไรพิเรนท์ๆ แม้ลึกๆ แล้วจะรู้ว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ควรทำก็ตาม และสุดท้ายสิ่งที่พวกเขาทำก็มักนำความชิบหายมาสู่ชีวิตตัวเองหรือกลุ่มเพื่อนในแบบที่เลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่บางทีแล้วของมันก็อยู่ของมันเฉยแท้ๆ
หากยังนึกภาพไม่ออกอยากให้ลองนึกถึงหนังอย่าง Evil Dead ที่ตัวละครดันไปเปิดอ่านคำสาปปลดปล่อยปีศาจร้ายออกมา ทั้งๆ ที่หน้าตา Book of Dead ที่เป็นหนังสือปกหนังมนุษย์มันก็ไม่ได้ดูจรรโลงใจเท่าไรในการที่จะให้ไปยุ่งกับมันอยู่แล้ว หรือหนังอย่าง The Ring ที่บรรดาตัวละครต่างตายกันอนาถเพราะความอยากรู้อยากเห็นกับวิดีโอต้องคำสาปที่อยากรู้ว่าหากได้ดูมันจะตายภายใน 7 วันจริงๆ หรือไม่ ซึ่งความอยากรู้อยากเห็นนี้มันก็มักนำมาสู่ความสยองในชีวิตได้อยู่เสมอ
อย่ามีอารมณ์ทางเพศในเวลาแบบนี้
การมีเพศสัมพันธ์อาจเป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ แต่มันไม่เป็นเรื่องปกติเลยที่มันมักจะเกิดขึ้นในเวลาที่ตัวละครกำลังจะเอาชีวิตรอด เพราะจริงอยู่ที่หนังแนว Horror ในช่วงแรกๆ มักใช้ฉากการฆ่ารุนแรงโหดร้ายกับกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบมีเพศสัมพันธ์กันก่อนวัยอันควร โดยการทำให้เราเห็นว่าใครมีเซ็กส์เมื่อไรก็พร้อมตายได้เมื่อนั้น ในขณะที่สาวใสซื่อบริสุทธิ์ที่ดันหลุดมาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยก็มักกลายเป็นผู้รอดชีวิตเสมอ เหมือนอย่าง Laurie Strode ในหนังชุด Halloween
แต่ที่ผ่านมาในยุคที่การมีสัมพันธ์เริ่มเปิดกว้างขึ้นหนังแนวนี้ก็ยังมักที่จะคงคอนเซปเดิมเอาไว้ โดยให้กลุ่มวัยรุ่นนั้นพยายามจะมีเพศสัมพันธ์ในสถานการณ์ที่ดูแปลกอยู่ไม่น้อย หรือแม้กระทั่งตอนที่พวกเขารู้สึกว่ามีใครจับตาดู หรือมีอะไรบางอย่างคุกคามชีวิตของพวกเขาอยู่ พวกเขาก็ยังมีความกระหายที่จะมีเพศสัมพันธ์กันอยู่เสมอ อย่างในหนัง Cabin Fever หรือ Friday the 13th ที่เรามักเห็นมันจนเป็นเรื่องปกติในเกือบทุกภาค