Toy Story (1995)
ทอย สตอรี่
คะแนน
โกดังหนัง
เล่าเรื่องของเล่นที่มีชีวิตได้สวยงามจับใจ จนใครที่โตมากับของเล่นต้องอิน อีกหนึ่งหลักไมล์สำคัญของวงการ Animation
คำคมจากภาพยนตร์
“To infinity and beyond!”
“สู่จักรวาลเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!!”
เรื่องย่อ
วู้ดดี้ ของเล่นคาวบอยตัวโปรดของ แอนดี้ เด็กชายวัย 6 ขวบ ที่สถานะของเล่นตัวโปรดนั้นเริ่มจะสั่นคลอน เมื่อก่อนวันเกิดของแอนดี้นั้น ได้รับของขวัญชิ้นใหม่เป็นของเล่นตำรวจอวกาศใหม่ล่าสุดนามว่า บัซ ไลท์เยียร์ การเข้ามาของ บัซ นั้นสร้างความไม่พอใจให้กับ วู้ดดี้ เป็นอย่างมาก เลยทำให้ทั้งคู่ต้องแย่งชิงการเป็นของเล่นตัวโปรด จนกระทั่งทั้งคู่ตกไปอยู่ในบ้านของเด็กข้างบ้านจอมทำลายของเล่น ทั้งคู่จึงต้องวางความเป็นอริและจับมือกันเพื่อกลับมาหา แอนดี้ของพวกเขาให้ได้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Toy Story ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นของหลายๆ อย่าง ทั้งการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิคแบบเต็มตัว การที่แสดงให้เห็นถึงว่าการ์ตูนนั้นก็ไม่ใช่สำหรับเด็กอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เรื่องนี้ยังเหมาะกับผู้ใหญ่หัวใจเด็ก ที่พาคนดูไปหวนรำลึกถึงวันเก่าๆ ในวันที่เรามีของเล่นตัวโปรดที่รักและผูกพันกับมันได้เป็นอย่างดี และยิ่งถ้ามีเวลาไล่ดูไปจนถึงภาค 3 แล้ว รับรองได้ว่าผู้ใหญ่หัวใจเด็กทุกคนน่าจะได้มีโอกาสน้ำตาร่วงไปกับบรรดาแก๊งของเล่นแก๊งนี้อย่างแน่นอนเลย คนที่ชอบ Animation ยุคแรกๆ ของ Pixar อย่าง A Bug’s Life หรือ Monster Inc. ก็น่าจะสนุกไปกับ Toy Story ได้อยู่เหมือนกัน
- สายหนังอนิเมชั่นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก
- สายหนังอนิเมชั่นรางวัล
รีวิว / สรุปเนื้อหา
อนิเมชั่นที่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านจาก 2D สู่โลก 3D ที่สร้างโดยค่าย Pixar และจัดจำหน่ายโดย Walt Disney ซึ่งวางตัวเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกที่สร้างจากคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมด แถมยังได้ทีมพากษ์ระดับดารารางวัลมาช่วยการันตีผลงานชิ้นนี้ จนกวาดรายได้รวมทั่วโลกไปถึง 373 ล้านเหรียญ ด้วยทุนสร้างโดยประมาณ 30 ล้านเหรียญเท่านั้น ส่วนนึงของความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ก็คงมาจากรูปแบบของ 3D ที่ต่างจากเรื่องอื่นๆ ที่มีมาในตลาด รวมไปถึงการเล่าเรื่องที่เข้าอกเข้าใจวัยเด็กของคนดู ที่มีความรักและผูกพันกับของเล่นตัวเองเป็นอย่างมาก อีกทั้งเรื่องราวการสร้างของเล่นให้มามีชีวิตก็ดูเป็นอะไรที่ยังใหม่มาก จนเป็นผลงานที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจในยุคนั้นเป็นอย่างมากเลย
หากย้อนไปดูในตอนนี้ ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีแล้ว อาจจะพบว่ามันเป็น Animation ที่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดในโมเดลมากเท่าไร เมื่อเทียบกับยุคนี้ที่ผมเป็นเส้นๆ ดีเทลละเอียดเท่าเม็ดทราย แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากๆ แล้ว เพราะในสมัยนั้นก็นับว่ายากที่จะหาคู่แข่งไหนมาเทียบได้ ประกอบกับเรื่องราวสุดสร้างสรรค์ของบรรดาของเล่นในแบบที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ก็ดูดี ไปจนถึงการออกแบบตัวละครที่แต่ละตัวก็มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังมีลูกเล่นของความเป็นของเล่นแต่ละอย่างที่สร้างสีสันและเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี
ด้วยความสร้างสรรค์ระดับนี้ทำให้ตัวหนังนอกจากจะได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมด้วยรายได้สูงมากแล้ว หนังยังได้ไปโลดแล่นเข้าชิงเวทีออสการ์ถึง 3 สาขาเลยทีเดียว แต่ถึงแม้หนังจะไม่ได้รางวัลจากส่วนที่เข้าชิงติดมือกลับมา แต่ภาพยนตร์นี้ก็ได้รับบันทึกลงในหอสมุดภาพยนตร์แห่งชาติด้วย จากความสดใหม่และเต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการของมัน จนสามารถมีภาคต่อตามมาได้อีกหลายภาค และยังคงรักษาคุณภาพเอาไว้ได้เป็นอย่างดีเลย หากใครที่เติบโตมากกับการเล่นของเล่นอยู่ด้วยแล้ว น่าจะอินไปกับเรื่องราวเหล่านี้ของ Toy Story ได้ไม่ยาก
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Toy Story นับเป็น Animation เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ออสการ์ที่มีโอกาสเข้าชิงในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (ทั้งดั้งเดิมและดัดแปลง)
- ในปี 2013 Toy Story ถูกเอามาถ่ายแบบฉากต่อฉาก ด้วยของเล่นและคนจริงๆ โดย Jonason Pauley ซึ่งใช้เวลากว่า 2 ปีในการถ่ายทำร่วมกับเพื่อน และออกมา 82 นาทีเป๊ะๆ เท่ากับต้นฉบับเลย
- ด้วยเวลาอันแสนสั้นของหนังที่ 82 นาที มันจึงกลายเป็นผลงานที่สั้นที่สุดของ Pixar มาจนถึงทุกวันนี้ (2021)