Plan 75 (2022)

วันเลือกตาย

Plan 75 Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

เล่าเรื่องได้ตรงไปตรงมา กลายเป็นหนังที่สะท้อนความจริงที่โหดร้ายในสังคมญี่ปุ่น คนทุกคนก็มีหัวใจ มีความรู้สึกนึกคิด และไม่ควรมีใครถูกทิ้งหรือมองว่าเป็นภาระ

หมวดหมู่ : Drama
สัญชาติ : Japanese
กำกับโดย : Chie Hayakawa
ความยาว : 1 ชั่วโมง 52 นาที
นักแสดงนำ : Chieko Baisho, Yuumi Kawai, Hayato Isomura

คำคมจากภาพยนตร์

"มันคงดี ถ้าในวันที่เราแก่เฒ่า จะยังมีเพื่อนสนิทที่ยังคงอยู่กับเราได้"

เรื่องย่อ

ประเทศญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัว ทำให้ภาครัฐประกาศใช้นโยบาย Plan 75 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุวัย 75 ปีขึ้นไปมีสิทธิเลือกการุณยฆาตตัวเองได้ โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินสดจำนวน 1 แสนเยนเพื่อกอบโกยความสุขเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปในฐานะวีรบุรุษที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ มิจิ หญิงชราวัย 78 ปีผู้ตกงานและไร้ที่อยู่ กำลังครุ่นคิดและตัดสินใจครั้งสำคัญในบั้นปลายของชีวิต กับการเข้าร่วมโครงการ Plan 75 ของรัฐบาล เพื่อหวังว่าจะเป็นการแก้ปัญหาตัวเลขผู้สูงอายุที่มากจนเกินจุดสมดุล

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Plan 75 กลายเป็นหนังดราม่าที่เข้าขั้นทรงพลัง เนื้อหาพูดถึงกลุ่มคนสูงอายุ กลุ่มคนชายขอบที่โดนมองและถูกหาว่าเป็นภาระในสังคมทั้งที่ความจริงพวกเขาก็เป็นคนเหมือนกัน และผ่านการเป็นหนุ่มสาวมาก่อน เรื่องนี้สะท้อนถึงความเป็นญี่ปุ่น สังคมที่ดูภายนอกสวยหรู แต่เนื้อในมันโหดร้ายผู้คนมากมายดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดในสังคมที่อัตราการแข่งขันที่สูงขึ้น ไร้พื้นที่ให้คนสูงอายุ หนังโดนใจในแง่ที่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราก็กลายเป็นคนแก่ มันถูกจริงๆแล้วหรอที่มีกฏหมายกำจัดคนอายุเยอะแบบนี้พวกเขาก็เป็นคนเหมือนกัน

  • สายหนังรางวัล
  • สายหนังญี่ปุ่น
  • สายหนังดราม่าอิงความเป็นจริง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ส่วนตัวแล้วชอบหนังเรื่องนี้มาก ตรงที่ว่า หยิบปัญหาที่ญี่ปุ่นเจออยู่ในตอนนี้เอามาเล่าเรื่องไปแบบตรงไปตรงมา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคน แต่ว่า มันถูกแล้วจริงๆหรือ ที่พวกเขาเลือกจะกำจัดคนแก่ คนช่วงบั้นปลาย แล้วมองว่าพวกเขาเป็นภาระ สังคมผู้สูงอายุมีเพิ่มมากขึ้นเกือบทุกวัน ยิ่งสังคมญี่ปุ่นนับวันยิ่งอยู่ยาก การแข่งขันพุ่งสูง ค่าครองชีพก็แพงแสนแพง การที่คนชราไร้ความหวัง พวกเขาสมควรตายจริงๆหรอเนี่ย ชีวิตคนเรามีคุณค่า เราไม่อาจซึมซับความเป็นหนุ่มสาวไปได้ตลอดรอดฝั่ง วันนี้เราเป็นหนุ่มสาวมีแรงเยอะ วันต่อไปสภาพร่างกายก็ค่อยเสื่อมไปตามสังขารไม่มีใครยืนหยัดได้ยืนยาว หนังเล่าเรื่องได้เรียบง่าย พูดถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมญี่ปุ่น ประเทศในฝันของใครหลายๆคน แต่คนในประเทศประสบปัญหาคนชั้นกลางเริ่มไม่มีที่จะยืน จนกลายเป็นว่าหลายๆคนไม่มีครอบครัวไม่มีลูก

หนังพูดถึงกลุ่มคน 3 ตัว ละคร ไม่ว่าจะเป็นคุณยาย มิจิ หญิงชราวัย 78 ปี ที่อายุมากแล้วใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ไม่มีลูกหลานคอยดูแล แถมยังต้องมาตกงานอย่างกะทันหัน ชีวิตเลวร้ายไม่มีเงินไม่มีที่จะอยู่อีก เธอค่อยๆกลายเป็นส่วนเกินของสังคม ทั้งที่เธอเองก็เป็นคนธรรมดาที่ควรจะได้รับการดูแลเพราะก็เสียภาษีเหมือนกัน แต่ดันเพราะอายุเยอะ เป็นคนแก่ สภาพสังคมบีบบังคับ จนสุดท้ายก็ต้องมาเข้าโครงการ หรือหญิงสาว Call Center เจ้าหน้าที่โครงการ เด็กสาวรุ่นใหม่ ที่ต้องมารับสายพูดคุยกับผู้สูงอายุมากมาย ต้องมานั่งตอบคำถามรับฟังปัญหามากมาย หรือกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มาจากฟิลิปปินส์ ที่มาล่าเงินเยน เพราะสภาพสังคมประเทศตัวเองไม่เอื้ออำนวยให้มีชีวิตที้ดีกว่านี้ ที่เธออยู่ในสถานะพนักงานดูแลศพของผู้ที่เสียชีวิตในโครงการ Plan 75 หนังเชื่อมโยงกลุ่มคน 3 คนได้อย่างลงตัว พร้อมกับตั้งคำถามชีวิตความเป็นความตายมันคุ้มกันมั้ยกับโครงการแบบนี้ แถมในพาร์ทคนต่างชาติ มันสะท้อนให้เห็นว่าญี่ปุ่นเองก็ขาดแคลนแรงงานหนุ่มสาวจริงๆจนต้องเปิดโอกาสให้คนต่างชาติมาใช้แรงงาน

ส่วนตัวแล้วชอบการนำแสดงของดารานำ พวกเขาคือตัวแทนของกลุ่มคนที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอดในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นคุณป้า chieko baisho ที่เป็นตัวแทนคนสูงอายุในประเทศ การแสดงของเธอสื่อให้เห็นว่า เราจะปล่อยให้ชีวิตเป็นไปตามอายุไข หรือจะเลือกยอมตายตามโครงการกันแน่ ตัวละครนี้ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง แต่กลุ่มคนนี้ถูกกล่าวว่าทำให้ประเทศตกต่ำ กลายเป็นว่าคนป้านำเสนอออกมาได้ดี ผ่านสีหน้าแววตา ที่กำลังรอวันตาย ซึ่งขับเคลื่อนให้หนังน่าติดตาม เพราะตัวละคร มิจิ เชื่อมโยงเนื้อหากับตัวละครอื่นได้ ชอบการแสดงของคุณป้าช่วงท้ายที่ทำให้เรารู้สึกว่า อายุเยอะหรือน้อยไม่มีใครเป็นภาระใคร สุดท้ายก็อยู่ที่มุมมองความคิดของเรา ที่จะตัดสินชีวิตเราเท่านั้น ด้าน ⁣ Stefanie Arianne ตัวละครต่างชาติที่มาอาศัยในญี่ปุ่นเพราะต้องเป็นแรงงานเก็บศพในโครงการ ไม่ต่างอะไรก็ชนชั้นล่างที่ต้องมาทำงานเพื่อแลกเงิน ในตำแหน่งที่หนุ่มสาวในญี่ปุ่นไม่มีใครต้องการ ส่วนหนุ่มสาวที่อยู่ในโครงการนี้ ไม่ว่าจะเป็น Yuumi Kawai Call Center สาว และ Hayato Isomura คนให้คำปรึกษา นานวันไปเขาเริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจคนสูงอายุ มันทำให้พวกเขาเองก็หดหู่ที่ต้องมาเจอคนชราจากไปแบบปมในใจที่รู้สึกผิดผลักภาระให้พวกเขาซะอย่างนั้น ทั้งคู่แสดงออกมาได้ดี และหนังก็เกลี่ยพื้นที่ตัวละครในมุมที่แตกต่างกันออกไปได้ลงตัวมากๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • นี่คือหนังที่เป็นตัวแทนญี่ปุ่น ส่งเข้าชิงออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
  • บทหนังดั้งเดิมเป็นหนังสั้นแค่ 30 นาที
  • บทหนังมาจากเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมผู้สูงอายุเมื่อปี 2016