Voice (2017)

ล่าเสียงมรณะ ปี 1

Voice Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

ถ้าเวอร์ชั่นไทยดีแล้ว งานต้นฉบับดียิ่งกว่าเดิม โครงสร้างสนุก พล็อตเรื่องเข้มข้น ฆาตกรโรคจิตโคตรซาดิสม์ งานสืบสวนที่สนุกลุ้นระทึก เป็นงานที่ดีสุดในแฟรนไชส์นี้

หมวดหมู่ : Crime
สัญชาติ : South Korea
กำกับโดย : Kim Hong-sun, Kim Sang-hoon
ความยาว : 16 Episodes
นักแสดงนำ : Jang Hyuk, Lee Ha-na

คำคมจากภาพยนตร์

"อยากโม้ว่าเงินเดือนเยอะหรอ น่าสมเพช คุณไม่ได้รับตรามาเพื่อปกป้องไอ้พวกสารเลวที่มีเงินและอำนาจนะ พวกนี้ทำให้คุณเป็นอัยการเพื่อปกป้องคนที่อ่อนแอและคนที่ถูกทำร้าย คุณหรือมั้ยว่าคุณมีหน้าที่ทำอะไร"

เรื่องย่อ

จินฮยอค ตำรวจฝีมือดีที่ภรรยาของเขาถูกฆาตกรต่อเนื่องฆ่าตาย เขาไม่เป็นอันทำอะไรเลย เหมือนคนหมดอาลัยตายยาก จนกระทั่งได้พบกับตำรวจหญิงที่มีความสามารถในการฟังเสียง ซึ่งพ่อของเธอถูกฆาตกรต่อเนื่องคนเดียวกันฆ่าตายเช่นกัน, 3 ปีต่อมา ตำรวจหญิงได้ตั้งทีมพิเศษในชื่อ Golden Time เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่โทรเข้ามาแจ้งเหตุร้าย และพยายามชักจูงตำรวจหนุ่มเข้ามาร่วมทีม เพื่อชั่วกันสืบหาฆาตกรที่ฆ่าคนรักของพวกเขาอีกครั้ง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Voice เวอร์ชั่นต้นฉบับงานเกาหลี เป็นงานที่คอซีรีส์สิบสวบสอบสวนที่ชอบแนวล่าตัวอาชญากรไม่ควรพลาด ว่ากันว่างานต้นฉบับทำได้ดีจนทำให้ใครต่อใครยึดโยงเป็นแบบ ซีรีส์ที่มาด้วยไอเดียการไขกลวิธีสืบสวนผ่านเสียงแวดล้อม คำให้การของผู้เคราะห์ร้ายที่ติดต่อมายังทีมสืบสวนพิเศษ ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยชีวิตคนในช่วงเวลากระชั้นชิด เนื้อหาเล่าเรื่องแบลุ้นระทึก ความเป็นตายของเหยื่อ กับอีกรูปแบบคือ ยังไม่รู้ตัวคนร้าย แต่ทราบตำแหน่งที่แน่ชัด เพื่อเล่นกับความใคร่รู้ของคนดู งานภาพทุกอย่างมันดีมากๆ แน่นอนเมื่อได้โอกาสได้ดูต้นฉบับ ยอมรับเลยว่างานต้นฉบับค่อนข้างดี โหดดิบเถื่อน มันแฝงไปด้วยประเด็นฆาตกรรมผ่านตัวละครโรคจิตที่มีปม และตำรวจที่มีบาดแผลในชีวิตที่ต้องไล่ล่าจับคนร้ายให้ได้ แม้ว่าจะดูเวอร์ชั่นไทยมาทแล้ว แต่พอสัมผัสงานต้นฉบับมันคือเส้นเรื่องไต่ระดับความสนุกไปได้ไกลมากๆ

 

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าจะบอกว่าซีรีส์ซีซั่นไหนดีสุดก็คงหนีไม่พ้นงานต้นฉบับเมื่อปี 2017 แม้ว่าเกาหลีจะมีซีรีส์ฆาตกรรม ฆาตกรต่อเนื่องเยอะแยะมากมายแค่ไหน แต่ Voice คืองานคุณภาพที่มีไต่ระดับความสนุกได้เยอะ บรรยากาศที่วังเวงน่ากลัว ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ต้องทำคดีฆาตกรรมแปลกๆที่จับมือใครดมไม่ได้ พล็อตเรื่องมันสะท้อนถึงปัญหาสังคมเกาหลีที่ตำรวจไร้ความเชื่อมั่น ขนาดที่คนใหญ่คนโตสร้างภาพเอาหน้าเคลมว่าเป็นผลงานตัวเองออกสื่อ จนกลายเป็นหน่วยพิเศษถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำคดีช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ แม้ว่าโครงเรื่องจะต้องไล่ล่าตามจับฆาตกรโรคจิต แต่ระหว่างทางซีรีส์ก็เชื่อมโยงคดีฆาตกรรมให้ 2 ตัวละครสืบคดีต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ นางเอกมีหน้าที่วิเคราะห์เสียงจากสายโทรศัพท์เพื่อช่วยเหลือเหยื่อให้ทันเวลา ในขณะที่ตำรวจเลือดร้อนทำหน้าที่ภาคสนามมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ให้รอดตายบุกจับตัวคนร้ายให้ทัน ลืมภาพเวอร์ชั่นไทยแอนดริว และแพนเค้กทิ้งไป การไขคดีเวอร์ชั่นนี้การเซ็ตติ้งเรื่องราวการประติดประต่อทุกอย่างสนุกลุ้นระทึกมาก

มันสนุกที่เบาะแสการไขคดีในแต่ละตอนมันจะค่อยๆไปเรื่อยๆ และทุกคดีก็ล้วนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน จากโจรคนนี้ ผู้ต้องสงสัยคนนั้น ไปยังฆาตกรตัวปลอมที่เข้ามาขมวดปมสร้างเบาะแสให้ซีรีส์อยู่ตลอดเวลา แต่ในเวลาเดียวกันซีรีส์ก็ค่อยๆเปิดบาดแผลเปิดปมของตัวละครหลักที่พบความสูญเสียคนหนึ่งเมียตาย คนหนึ่งเสียพ่อในการทำงานไป การสืบเบาะแสการหาข้อเท็จจริงเรื่องราวไหลลื่นน่าติดตาม มีจุดพลิกแพลงอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะคาดเดาได้ไม่ยาก แต่ระหว่างทางเราจะพบว่าชนชั้นนำของเกาหลีมักอยู่สูงได้เปรียบใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่รู้ร้อนรู้หนาว มันเต็มไปด้วยเรื่องราวการคอรัปชั่นที่ทำงานรับใช้คนมีเงินเพื่อให้ได้ตำแหน่งสร้างภาพมีหน้าตาทางสังคมเกรงกลัวคนมีเงิน ในขณะที่ตำรวจชนชั้นผู้น้อยต้องทำหน้าหนักหน่วง ฉากเดือดๆในเวอร์ชั่นเกาหลีเดือดดาลมากๆ ฆาตกรโรคจิต นายตำรวจก็สายบวกมันเลยเข้มข้น คู่ปรับสมน้ำสมเนื้อ


Voice ซีซั่นแรกความโดดเด่นนอกจากบทที่เข้มข้น สืบหาฆาตกรแล้ว การแสดงของพระเอกคือไฮไลท์หลัก สายบวกหนักบู๊ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น Jang Hyuk ที่มีความโหด กล้าตีกล้าต่อย บุคลิกกวนๆ อารมณ์ร้อนมาเสริมมันทำให้เห็นภาพตำรวจบ้าดีเดือด ที่พร้อมเผชิญหน้าแบบไม่หวั่นใครทั้งนั้น เลยเพิ่มดีกรีความสนุกเวลาไขคดีจับคนร้ายเข้าไปอีก เรียกว่าเขาได้สร้างลายเซนต์ทำให้เราได้เห็นแอนดริว ถอดแบบมาในสไตล์คล้ายๆกัน ส่วนนางเอก Lee Ha-na เหมือนเป็นตัวละครขั้วตรงข้ามที่เป็นเสมือนคนเบรกอารมณ์คนดู เธอนิ่งเยือกเย็นมากๆในการรับมือกับพระเอก ส่วนที่ไม่พูดไม่ได้คือ Kim Jae-wook ที่มอบการแสดงที่น่าสะพรึงกลัวให้ผู้ชมชายโรคจิตที่ยากคาดเดาอารมณ์ในทุกๆซีน

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • มีการนำซีรีส์ชุดนี้นำไปรีเมค 2 เวอร์ชั่น คือญี่ปุ่นและไทย
  • ในตอนแรกไม่มีความคิดอยากทำซีซั่น 2 แต่ทีมงานเปลี่ยนใจเพราะเรตติ้งดีมาก