Top Gun Maverick (2022)
ท็อปกัน มาเวอริค
คะแนน
โกดังหนัง
หนังสนุกกกกกว่าที่คิด มันพีคมันตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ฉากบินมันยิ่งใหญ่อลังการมาก ถึงจะเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง Technical การบินอะไรเลยก็ Enjoy เรื่องนี้ได้สบายๆ เนื้อเรื่อง Smooth build อารมณ์คนดูได้ดี ซาวด์ประกอบก็ชั้นยอด Tom Cruise ฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีชอีกแล้ว มันช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ
คำคมจากภาพยนตร์
"If you think you're going to die, you can believe it."
"ถ้ามัวคิดคือตาย เชื่อได้เลย"
เรื่องย่อ
หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท 'มาเวอริค' มิทเชลล์ กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริค ต้องเผชิญหน้ากับ เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ "รูสเตอร์" ลูกชายของ เรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ "กูส" เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Top Gun Maverick น่าจะเป็นหนังระดับคุณภาพของ Top Cruise ที่เข้าใกล้คำว่าสมจริงมากที่สุดทำให้การชมหนังเรื่องนี้มันพาคนดูทะเยอทะยานไปยนเวหาจริงๆแบบที่ดูแบบสตรีมมิ่งให้ไม่ได้ เสียงเครื่องบินบรรยากาศบนฟากฟ้ามันสุดยอด หนังเหมาะกับคนดูทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังสายแมสหรือสายอินดี้ พล็อตหนังธรรมดา แต่เรื่องราวความตื่นเต้นบนเครื่องบินรบ F18 ที่นักแสดงได้ไปมีส่วนร่วมมันสะกดคนดูเฮลั่นโรงโดยที่เราไม่ต้องคาดเดากับเรื่องราวอะไรเลย หนังมาแบบเอนเตอร์เทนคนดูโดยเฉพาะ
- สายหนัง Tom Cruise
- สายหนังที่ชอบเครื่องบิน
รีวิว / สรุปเนื้อหา
นี่คือหนังที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นอะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดไปหมด มันไม่ใช่แค่การคัมแบ็คในรอบ 36 ปีแบบที่หลายๆคนคิด แต่หนังพัฒนาไอเดียเนื้อหาได้ดีเหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน แถมบทหนังคาดเดาอะไรไม่ได้เลย องค์ประกอบมาแบบเซอร์ไพรส์ จากภาคแรก Maverick อีโก้หัวรั้น กลายเป็นสุขุมใจเย็น ภาคนี้เป็นแบบนั้น เขากลายเป็นครูฝึกสอนนักบินรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง อีโก้จัดไม่แพ้เขาแบบวันวาน แต่นักรุ่นนี้เก่งแต่ตำนานทฤษฎี สิ่งที่จะสั่งสอนพวกเขาได้คือการออกภาคสนามไปสัมผัส ประสบการณ์การบินรบรับมือข้าศึกจริงๆ นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาเลือกจะเป็นนักบินในสนามรบมากกว่าทำงานบนโต๊ะ หนังยังคงมีกลิ่นอายจากหนังภาคแรกเยอะแยะมากมาย เอาเป็นว่ามีการ Tribute ค่อนข้างเยอะ ถ้าเคยดูหนังเรื่องนี้ในภาคแรกก็นึกออกทันที ประเด็นความขัดแย้งที่เป็นตราบาปในใจของ Maverick ค่อยๆคลี่คลายตรงนี้ทำออกมาได้น่าสนใจเป็นประเด็นรอง
หนังถ่ายทำออกมาค่อนข้างดี ในเมื่อโปรเจ็คนี้อยู่ในมือ Tom Cruise มันต้องของจริงมากที่สุด งานภาพใช้กล้อง Imax สเกลภาพในจอใหญ่มันเลยทำให้เรารู้สึกอินไปกับการเล่าเรื่องในทุกๆเหตุการณ์ตอนที่เครื่องบินเหินฟ้าบนเวหา ภารกิจฝึกบินก็สนุกแล้ว ภารกิจรบก็มันส์ไม่แพ้กัน การเล่าเรื่องของหนังมีเสน่ห์มากๆ เฉดสีโทนภาพสื่ออารมณ์ไปกับตัวละคร ภาพเกาะกระจกมุมสูงติดตาเราอยู่เลย นี่แหละสิ่งที่การถ่ายทำแบบกรีนสกรีนทำแทนไม่ได้ เพราะบรรยากาศมันช่างอึดอัดกดดัน เอียงไปเอียงมา มันเสี่ยงตายจริงๆ เพราะทุกวินาทีพลาดมานั้นหมายถึงชีวิตอาจจบเห่ทันที การมิกซ์ซาวด์ค่อนข้างได้อรรถรส บรรยากาศมันชวนลุ้นไปตลอด เสียงไอพ่น เสียงเครื่องยนต์ เสียงระเบิด หรือการทีนักแสดงหายใจในระหว่างขับเครื่องบิน เราได้ยินชัด ไหนจะเพลงสกอร์ประกอบที่มาเติมเต็มเรื่องราวได้ดีตามไปด้วย Joseph Kosinski ผู้กำกับใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างทำให้โปรดักชั่นหนังมันทำงานกับคนดูมากๆ แต่ให้ไม่อินกับเครื่องบินรบคุณจะเอนจอยไปกับหนังเรื่องนี้ตามสูตรหนังฟอร์มยักษ์
ส่วนนักแสดงนำ ความดีความชอบคงต้องยกให้ Tom Cruise วันเวลาทำอะไรเขาไม่ได้ พร้อมที่จะนำเสนอหนังคุณภาพเสี่ยงตายมามอบให้ผู้ชมบนจอยักษ์ การหยิบปมจากภาคแรกมาขยายเรื่องราวในภาคนี้มันเลยทำให้เขาถ่ายทอดความเป็นครูฝึกออกมาได้แบบจริงใจ การได้เห็นเขาใส่แจ็คเก็ตขี่มอเตอร์ไซค์แม่งโคตรเท่ห์ เขาคือตำนานของจริง นอกจากนั้นแล้วฉากการบินรบที่ภาคแรกแทบจะไม่ได้จริงจังมากนัก ภาคนี้เขาใส่เต็มทุกประสบการณ์ที่กลายเป็น 1 ในตัวละครที่น่าจดจำสำหรับบทบาทที่ Tom ฝากไว้ น่าเสียดายคือว่าช่วงองค์ 3 ของเรื่องบท Tom มันขาดๆเกินไปสักหน่อย ไม่งั้นน่าจะดีกว่านี้ ด้านนักแสดงคนอื่นๆที่เราได้เห็นคนรักใหม่อย่าง Jennifer Connelly มาน้อยแต่ก็แอบจิ้นในหลายๆฉากดูน่ารักไม่แพ้เวอร์ชั้นเดิมที่ Kelly McGillis แสดงเอาไว้เมื่อ 36 ปีก่อน หรือการได้ Val Kilmer มาอยู่ในเรื่องถือว่าเป็นไฮไลท์เหมือนกันเพราะนี่คือนักแสดงระดับตำนานที่ตีคู่มากับ Maverick ในภาคแรก ส่วนกลุ่มนักบินคนอื่นๆ Glen Powell, Monica Barbaro, Lewis Pullman, Jay Ellis มาสร้างสีสันแต่บทไม่น่าจดจำเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ Miles Teller ที่ถอดความเป็นตัวละครลูกชายของ Goose ถือว่าเมื่อมาประกบคู่กับ Tom เคมีเข้ากันได้ เป็นการวางตัวที่เหมาะสม
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หนังภาคต่อเกิดขึ้นเพราะ Tom Cruise โทรไปบอก Paramount ว่าอยากสร้างภาคต่อ เลยเกิดเป็นภาคต่อ
- หนังใช้เวลา 3 ปีกว่าจะได้ฉายโรง เพราะวิกฤติโควิด
- Netflix, Apple TV อยากซื้อหนังเรื่องนี้ไปฉายสตรีมมิ่ง แต่โดน Paramount ปฏิเสธเพราะหนังทำมาเพื่อฉายโรง
- Tom Cruise ยืนยันว่ายังไงก็ต้องพา Val Kilmer มาแสดงในหนังให้ได้
- เครื่องบินจำลองในหนังที่ Tom Cruise ขับช่วงต้นเรื่องทำให้จีน ต้องส่งดาวเทียมมาสอดส่องดูความเคลื่อนไหว
- นักแสดงทุกคนที่ได้รับบทเป็นนักบินต้องได้รับการฝึกอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้พร้อมสมกับเป็นนักบินจริงๆ
- ค่าเช่าเครื่องบิน F-18 ตกชั่วโมงละ 375,000 บาท ต่อชั่วโมง