Thor: Love and Thunder (2022)
ธอร์: ด้วยรักและอัสนี
คะแนน
โกดังหนัง
พูดได้เต็มปากว่าดีสุดในแฟรนไชส์ เนื้อหาทำได้กลมกล่อมฉากแอ็คชั่นมุกตลกมาได้ถูกจังหวะ มันคือ 2 ชั่วโมงที่เต็มอิ่ม นักแสดงจะเป็นคริส นาตาลี เบล ทุกคนคุณภาพ เล่นดี น่าจดจำ ไม่มีมุมไหนผิดหวัง
คำคมจากภาพยนตร์
“I Hope One Day You Can Feel This Shitty.”
“ฉันหวังว่าวันหนึ่งคุณจะรู้สึกแย่ๆ แบบนี้”
เรื่องย่อ
ธอร์ จะได้ไปผจญภัยในแบบที่ไม่เหมือนครั้งไหนที่เขาเคยเจอมาก่อน ภารกิจในการค้นหาความสงบสุขภายใน แต่การเกษียณของเขาถูกรบกวนโดยนักฆ่าข้ามจักรวาลนามว่า กอร์ นักเชือดเทพเจ้า ผู้แสวงหาการสูญพันธ์ของเทพเจ้าทั้งมวล เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ ธอร์ควานหาความช่วยเหลือจาก ราชาวัลคีรี่, คอร์ก และแฟนเก่าของเขา เจน ฟอสเตอร์ ผู้ที่ทำให้ธอร์ตกใจจนตาค้าง เมื่อเธอกำลังถือครองค้อนโยเนียร์ของเขา ในฐานะของ The Mighty Thor พวกเขาต้องร่วมมือกันผจญภัยข้ามจักรวาลไปเพื่อค้นหาความลับเบื้องหลังความแค้นของนักเชือดเทพเจ้าคนนี้ เพื่อหยุดยั้งเขาเอาไว้ก่อนที่มันจะสายจนเกินไป
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Thor Love and Thunder กลายเป็นหนังฮีโร่ Marvel ที่มีส่วนผสมกลมกล่อมที่ค่อนข้างลงตัว หนังมาในแง่ของการเอนเตอร์เทนผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่น เปิดพื้นที่ให้ตัวละครได้ต่อสู้ มีมุกตลกที่เข้าขั้นฮามาได้ถูกที่ถูกเวลาถูกจังหวะ หรือการนำเสนอปัญหาปมในใจของตัวละครหลักที่เผชิญชีวิตที่แตกต่างกันออกไป เลยไม่ได้เป็นแค่หนังฮีโร่อย่างเดียวที่เน้นแค่คิวบู๊หุ่นล้ำๆของพี่ Chris มันเลยกลายเป็นงานที่ใครๆก็ดูได้อาจจะเป็นเทพเจ้าสายฟ้าภาคที่ดีสุดนับตั้งแต่สร้างมาเลย
- สายหนัง Marvel
- สายหนังฮีโร่
- สายหนังไซไฟ
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังใหม่หนังฮีโร่จาก Marvel เทพเจ้าสายฟ้าฮีโร่หุ่นล้ำ ที่ได้โอกาสขยายจักรวาลเป็นเรื่องที่ 4 ในแฟรนไชส์ MCU ถ้าพูดกันตามเนื้อหาผ้าหนังไม่ได้เล่าเรื่องแบบเดิมๆแบบที่ MCU ทำตามโจทย์ แต่ผู้กำกับอย่าง Taika waititi สร้างสรรค์หนังได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ลองนึกภาพดูมันจะมีแบบไหนบ้างละที่คุณจะได้ดูหนังแอ็คชั่นฉากเอามันส์ แล้วมีมุกตลก อารมณ์ชันมาแทรกอยู่เป็นระยะโบ๊ะบ๊ะจัดเต็มตั้งแต่นาทีแรก ที่สำคัญคือหนังบาลานซ์มันได้กลมกล่อม ไม่ได้เล่าย้อนหลังต่อความยาวสาวความยืดอะไรให้มากความเลย โดยไม่ต้องไปผูกเรื่องโยงใยกับตัวละครอื่นใน MCU นี่ตั้งหากที่มันสำคัญ จะสนุก จะเศร้า จะเน้นกวนประสาท หนังจัดวางเรื่องราวที่มีสไตล์เด่นชัดไม่เหมือนใคร และไม่แปลกใจเลยที่นักวิจารณ์หลายคนจะยกให้หนังดีสุดจาก Thor ทั้งหมด 4 ภาค เพราะองค์ประกอบหนังมันส่งมาดีทำให้ขับเคลื่อนเรื่องราวได้น่าประทับใจ
นอกจากนี้เนื้อหาหนังยังสามารถเปิดพื้นที่ให้ตัวละครได้มากมาย ฉายแสง ปูพื้นหลังได้พอเหมาะพอเจาะ ไม่ว่าจะเป็น อดีตพี่ถังเบียร์ อย่าง Thor ที่มาวันนี้เขาเผชิญหน้ากับวิกฤติวัยกลางคน ไม่ต่างจากผู้คนทั่วไปที่ต้องเจอ จะไปทางไหนดีละ ในเมื่อบ้านเมืองก็พัง นิวแอสการ์ด ก็ให้ผู้อื่นปกครองแทน เขาเลือกจะออกไปหาคำตอบให้ชีวิตใหม่ เติมเต็มในสิ่งที่ขาดหายไป จากเดิมที่เป็นฮีโร่ลูกผู้ปกครองดินแดนได้ห้าวได้ซ่า มาวันนี้เขาต้องพบเจอเรื่องราวที่แปลกใหม่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา และต้องแก้ไขปัญหามันไปที่ละจุดทีละจุด ส่วนฉากโชว์ก้นก็โชว์กันแบบหอมปากหอมคอนะ เนื้อหาหนังรักษาพื้นที่ของตัวละคร Thor เอาไว้ได้ ไหนจะเป็นการสร้างบรรยากาศหนังให้มันดูโคตร Rock tribure วง Gun N Roses ไม่มียั้ง เพลงสกอร์ การบิ้วอัพหนังทำได้ดี ซีนโรแมนติกที่เปิดพื้นที่ไปสำรวจเรื่องราวของตัวละคร Jane Forster คือทำได้ไม่มีจุดไหนน่ากังวลใจ แถมงานสร้าง Production แม่งพาเราไปสัมผัสความอลังการเมืองต่างๆ ทั้งในพาร์ทอวกาศ โลกมนุษย์ สัมผัสเรื่องราวเทพเจ้า หนังเกลี่ยพื้นที่ตรงนี้ได้ดีมาก แข็งแรงในการออกแบบงานสร้างๆมากๆ
อีกข้อที่ไม่พูดไม่ได้นั้นคือนักแสดง นี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้เรื่องราวสนุกสนานมากๆ พี่ Chris การปรากฏตัวในภาค 4 ในลุคที่เฟิร์มหุ่นล้ำยังคงลีลาความกวนโอ๊ยไว้เหมือนเดิม เขาตีความเป็นฮีโร่ที่เผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนในชีวิต การต่อสู้ในฐานะฮีโร่ที่มันก็ไม่ได้เท่ห์เสมอไปแบบที่หลายๆคนเข้าใจกัน ที่น่าชื่นชมคงไม่มีใครเกิน พี่น้อย วงพรู เห้ยไม่ใช่ Christian Bale การพลิกบทบาทจาก Batman มาสู่วายร้าย MCU อย่าง Gorr ว่ากันตามตรงนี่คือตัวละครที่เด่นไม่แพ้พี่ Thor เลย วายร้ายที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดความผิดหวัง ได้เห็นศักยภาพของ Bale ในมุมมองใหม่ๆ เป็นตัวละครที่มีมิติน่าค้นหา หรือจะเป็น Natalie Portman ที่ทุ่มเทกับบทบาท Mighty Thor จากอดีตนักฟิสิกส์คนรักของ Thor มาจับค้อนโยเนียร์ สร้างสีสันให้หนัง จะว่าไปหนัง 2 ภาคก่อนหน้านี้มีเธอแต่ใช้ไม่คุ้มค่า มาเรื่องนี้มาเติมเต็มให้หนังแข็งแรง ไม่ได้อิงแค่พระเอกที่เป็นฮีโร่เพียงอย่างเดียว รวมถึง Russel Crowe ที่มาแล้วมีมุกตลกอารมณ์ขันเพียบ พาร์ทนักแสดงค่อยข้างจะมืออาชีพและคุณภาพสูง การแสดงและมุกตลกส่งบทได้ดีไม่น่าผิดหวัง
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- บท Mighty Thor ทำให้ Natalie Portman เปลี่ยนใจคัมแบ็คเล่นหนังฮีโร่ เพราะได้เล่นคาแรกเตอร์แตกต่างไปจากเดิม
- ครอบครัว Christian Bale ชอบดูหนัง Jojo Rabbit มาก ทำให้เขาตอบรับเล่น Thor 4 เพราะอยากทำงานร่วมกับผู้กำกับ Taika Waititi
- ฉากที่ Chris โชว์ก้นงามๆ ทีมงานเสียสมาธิกันหมด ทุกคนมองแต่ก้นเพ่ Chris จนไม่ยอมกลับไปทำงานของตัวเองกันเลย
- Christian Bale รู้สึกเอนจอย บท Gorr วายร้ายใน Thor 4 มากกว่าบทฮีโร่อีก เพราะทำงานง่ายไม่ต้องแบกรับความกดดัน .
- Thor 4 เป็นหนังครอบครัว ของ Chris Hemsworth เพราะมาเกือบทั้งตระกูล ไม่ว่าจะเป็นพี่ชาย, ภรรยา และ ลูกๆอีก 2 คน