เรื่องย่อ

เกิดเหตุสงครามกลางเมืองครั้งที่ 2 ขึ้นและลุกลามไปทั่วสหรัฐอเมริกา ทีมนักข่าวได้ออกเดินทางข้ามประเทศที่กำลังรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกหย่อมหญ้า เพื่อจับตาการปะทะกันระหว่างกองกำลังสหรัฐฯ และกลุ่มกองกำลังตะวันตกหัวรุนแรง ที่เรียกร้องต้องการแบ่งแยกดินแดนรัฐเท็กซัสและรัฐแคลิฟอร์เนียออกจากการปกครองภายใต้รัฐบาลเดิม เพราะบัดนี้พวกเขาได้แปรเปลี่ยนรัฐบาลเผด็จการ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Civil War เป็นหนังที่คอหนังสายสงคราม สายรางวัล ไม่ควรพลาดเด็ดขาด ภาพของหนังไม่ได้แปลกใหม่ แต่กลับนำเสนอมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม และการหยิบประเด็นสงครามกลางเมืองในอเมริกามาเล่าโอ้วแม่งเข้ากับเหตุการณ์บนแผ่นดินอเมริกันชนกำลังเผชิญหน้าปัญหาทั้งแบ่งแยกดินแดนในรัฐเท็กซัสพอดี กลายเป็นว่าหนังนำเสนอได้สนุกน่าสนใจกดดันลุ้นระทึกตลอดเวลาซาวด์ประกอบที่ดังกระหึ่มขับเคลื่อนองค์ประกอบหนังได้ดีมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่เสียงชื่นชมหนังเรื่องนี้มาในแง่บวก

รีวิว / สรุปเนื้อหา

นี่คือหนัง Road Movie ที่เต็มไปด้วยการพูดถึงอาชีพนักข่าว ช่างภาพ สื่อมวลชน และคนที่มีความฝันอยากทำงานในสายนี้ ภาพข่าวที่ดูสวยหรูถ่ายออกมาได้ซีนอารมณ์แต่เบื้องหลังมันมาพร้อมหยาดเหงื่อที่ต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปบันทึกภาพนิ่ง ภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย Lee Smith นักข่าวหญิงชื่อดังที่ทำอาชีพนี้ ได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กผู้หญิงชื่อว่า Jessie ที่อยู่ในเหตุการณ์ประท้วงเพียงเพราะเธออยากเป็นช่างภาพสงคราม เมื่อได้เจอไอดอลคนที่เธอยึดเป็นต้องแบบเลยทำตัวเนียนๆตามไปขอร่วมถ่ายภาพด้วย แต่ชีวิตจริงมันไม่ได้สนุกเหมือนที่คนภายนอกมองเห็น อาชีพนี้เสียงชื่นชมความดังมันมีราคาที่ต้องแลกมาทั้งนั้น ตลอดทางมันเลยกลายเป็นว่าการถ่ายภาพสงครามมันเต็มไปด้วยอันตรายที่รออยู่ตรงหน้าไม่ได้สนุกเลยสักนิด ไม่แปลกใจที่มีคนเรียนสายสื่อมวลชนเยอะแต่กลับไม่ได้กล้าทำงานสายนี้เพราะงานข่าวไม่ได้เป็นที่ใครๆก็ทำกันได้ง่ายๆความอดทนสูงจรรยาบรรณวิชาชีพต้องมีอีก ไหนจะเป็นสุขภาพชีวิตสุขภาพจิตที่ต้องแบกรับหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่รออยู่ตรงหน้า คนฆ่ากันตาย ซากศพที่เกลื่อนกลาดทั่วไป เมืองที่เต็มไปด้วยภาวะตึงเครียดความกดดันมากมาย แม้ว่าจะได้อภิสิทธิ์ความเป็นสื่อแต่มันไม่ได้น่าตื่นเต้นแบบที่เด็กน้อยคนนี้คิดเอาไว้

หนังเรื่องนี้เหมือนตีแสกหน้าสังคมอเมริกันชนยังไงยังนั้น ประเทศที่บอกตัวเองมีเสรีภาพ มีกฏหมายให้ประชาชนพกปืนได้กล กลายเป็นว่าใครๆก็พกปืนได้ ทุกคนต่อให้มีอาชีพไหน ก็พกปืนติดตัวและพร้อมจะสาดกระสุนใส่กันได้ทุกเมื่อ ชอบที่หนังเล่าผ่านอาชีพสื่อมวลชนบุคคลที่ 3 ที่ไม่ได้เลือกหรือเข้าข้างฝ่ายไหน แน่นอนว่าภาพของหนังเลยทำให้ผู้ชมได้สัมผัสถึงความอันตรายในสงครามกลางเมืองที่มีฉากฆ่ากันสดๆต่อหน้ายิงกันเลือดสาดไส้ทะลักไม่สนใจว่าคุณจะเป็นใครมีอาชีพอะไร ทหารเอาปืนจ่อประชาชนทั่วไปเพียงเพราะว่าเขาไม่ได้เป็นคนอเมริกันแท้ๆ มันเป็นการนำเสนอที่โหดร้ายน่ากลัวหดหู่ใช่เล่น หนังถ่ายภาพความกดดันบีบอารมณ์คนดูตลอดเวลา ซาวด์ประกอบของหนังบิ้วอารมณ์คนดูตามไปด้วย มันทำให้ได้เห็นถึงความโหดร้ายที่หนักหน่วงรุนแรง ฉากแอ็คชั่นของหนังเรื่องนี้สร้างสรรค์ออกมาได้สนุกมันส์สะใจผู้ชม ฉากไคลแมกซ์ทำให้คนดูได้สัมผัสว่าเหมือนได้อยู่ในสมรภูมิรบของจริง ความบ้าอำนาจเผด็จการของคนบางกลุ่มที่สร้างความแตกแยกสร้างความเกลียดชังได้มากขนาดนี้ บทสรุปของหนังสื่อสารออกมาได้น่าประทับใจดูบนจอ บทหนังของ Alex Garland ทำให้รับรู้ว่าสงครามสร้างบาดแผลสร้างความสูญเสียให้กับคนทุกฝ่าย

ชอบการแสดงของ Kirsten Dunst นักข่าวหญิงที่รักอาชีพตัวเองยึดมั่นจนสุดความสามารถ ค่อยบอกค่อยสอน Cailee Spaeny ตลอดเวลา ให้เข้าอกเข้าใจอาชีพสื่อมวลชนอย่างแท้จริง ตัวละคร 2 คนนี้จึงมีพัฒนาการที่เติบโตจากช่วงแรกไปจนถึงช่วงสุดท้าย Wagner Moura สลัดภาพจำเดิมๆ กลายเป็นตัวละครที่ต้องค่อยปกป้องเพื่อนร่วมทางตลอดเวลาจิตใจดีอ่อนโยนซัพพอร์ททุกคนราวกับเป็นคนในครอบครัว และ Stephen McKinley Henderson นักข่าวอาวุโสเพื่อนร่วมทางที่เติมเต็มบรรยากาศในรถไม่ให้ตึงเครียดเกินไปเข้าอกเข้าใจทุกคนเพราะความเก๋าประสบการณ์ในสมรภูมินักข่าวมาก่อน มันเลยกลายเป็นว่า 4 ตัวละครมีเคมีที่เข้าขากันมากๆ ส่วนตัวละครโหดอย่าง Jesse Plemons เข้ามาแม่งสร้างความสั่นสะเทือนได้มาก ตัวละครที่ไม่สนใจอะไรนอกจากข้าใหญ่ข้าเป็นทหารข้ามีอาวุธ เรียกว่าฉากโหดมากๆ