Top Gun Maverick (2022)

ท็อปกัน มาเวอริค

Top Gun Maverick Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสนุกกกกกว่าที่คิด มันพีคมันตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ฉากบินมันยิ่งใหญ่อลังการมาก ถึงจะเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง Technical การบินอะไรเลยก็ Enjoy เรื่องนี้ได้สบายๆ เนื้อเรื่อง Smooth build อารมณ์คนดูได้ดี ซาวด์ประกอบก็ชั้นยอด Tom Cruise ฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีชอีกแล้ว มันช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

หมวดหมู่ : Action Adventure
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Joseph Kosinski
ความยาว : 2 ชั่วโมง 10 นาที
นักแสดงนำ : Tom Cruise, Miles Teller, Jennifer Connelly

คำคมจากภาพยนตร์

"If you think you're going to die, you can believe it."
"ถ้ามัวคิดคือตาย เชื่อได้เลย"

เรื่องย่อ

หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท 'มาเวอริค' มิทเชลล์ กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริค ต้องเผชิญหน้ากับ เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ "รูสเตอร์" ลูกชายของ เรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ "กูส" เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Top Gun Maverick น่าจะเป็นหนังระดับคุณภาพของ Top Cruise ที่เข้าใกล้คำว่าสมจริงมากที่สุดทำให้การชมหนังเรื่องนี้มันพาคนดูทะเยอทะยานไปยนเวหาจริงๆแบบที่ดูแบบสตรีมมิ่งให้ไม่ได้ เสียงเครื่องบินบรรยากาศบนฟากฟ้ามันสุดยอด หนังเหมาะกับคนดูทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังสายแมสหรือสายอินดี้ พล็อตหนังธรรมดา แต่เรื่องราวความตื่นเต้นบนเครื่องบินรบ F18 ที่นักแสดงได้ไปมีส่วนร่วมมันสะกดคนดูเฮลั่นโรงโดยที่เราไม่ต้องคาดเดากับเรื่องราวอะไรเลย หนังมาแบบเอนเตอร์เทนคนดูโดยเฉพาะ

  • สายหนัง Tom Cruise
  • สายหนังที่ชอบเครื่องบิน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

นี่คือหนังที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นอะดรีนาลีนในร่างกายสูบฉีดไปหมด มันไม่ใช่แค่การคัมแบ็คในรอบ 36 ปีแบบที่หลายๆคนคิด แต่หนังพัฒนาไอเดียเนื้อหาได้ดีเหมาะสมกับยุคสมัยปัจจุบัน แถมบทหนังคาดเดาอะไรไม่ได้เลย องค์ประกอบมาแบบเซอร์ไพรส์ จากภาคแรก Maverick อีโก้หัวรั้น กลายเป็นสุขุมใจเย็น ภาคนี้เป็นแบบนั้น เขากลายเป็นครูฝึกสอนนักบินรุ่นใหม่ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง อีโก้จัดไม่แพ้เขาแบบวันวาน แต่นักรุ่นนี้เก่งแต่ตำนานทฤษฎี สิ่งที่จะสั่งสอนพวกเขาได้คือการออกภาคสนามไปสัมผัส ประสบการณ์การบินรบรับมือข้าศึกจริงๆ นั้นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาเลือกจะเป็นนักบินในสนามรบมากกว่าทำงานบนโต๊ะ หนังยังคงมีกลิ่นอายจากหนังภาคแรกเยอะแยะมากมาย เอาเป็นว่ามีการ Tribute ค่อนข้างเยอะ ถ้าเคยดูหนังเรื่องนี้ในภาคแรกก็นึกออกทันที ประเด็นความขัดแย้งที่เป็นตราบาปในใจของ Maverick ค่อยๆคลี่คลายตรงนี้ทำออกมาได้น่าสนใจเป็นประเด็นรอง

หนังถ่ายทำออกมาค่อนข้างดี ในเมื่อโปรเจ็คนี้อยู่ในมือ Tom Cruise มันต้องของจริงมากที่สุด งานภาพใช้กล้อง Imax สเกลภาพในจอใหญ่มันเลยทำให้เรารู้สึกอินไปกับการเล่าเรื่องในทุกๆเหตุการณ์ตอนที่เครื่องบินเหินฟ้าบนเวหา ภารกิจฝึกบินก็สนุกแล้ว ภารกิจรบก็มันส์ไม่แพ้กัน การเล่าเรื่องของหนังมีเสน่ห์มากๆ เฉดสีโทนภาพสื่ออารมณ์ไปกับตัวละคร ภาพเกาะกระจกมุมสูงติดตาเราอยู่เลย นี่แหละสิ่งที่การถ่ายทำแบบกรีนสกรีนทำแทนไม่ได้ เพราะบรรยากาศมันช่างอึดอัดกดดัน เอียงไปเอียงมา มันเสี่ยงตายจริงๆ เพราะทุกวินาทีพลาดมานั้นหมายถึงชีวิตอาจจบเห่ทันที การมิกซ์ซาวด์ค่อนข้างได้อรรถรส บรรยากาศมันชวนลุ้นไปตลอด เสียงไอพ่น เสียงเครื่องยนต์ เสียงระเบิด หรือการทีนักแสดงหายใจในระหว่างขับเครื่องบิน เราได้ยินชัด ไหนจะเพลงสกอร์ประกอบที่มาเติมเต็มเรื่องราวได้ดีตามไปด้วย Joseph Kosinski ผู้กำกับใส่ใจรายละเอียดทุกอย่างทำให้โปรดักชั่นหนังมันทำงานกับคนดูมากๆ แต่ให้ไม่อินกับเครื่องบินรบคุณจะเอนจอยไปกับหนังเรื่องนี้ตามสูตรหนังฟอร์มยักษ์

ส่วนนักแสดงนำ ความดีความชอบคงต้องยกให้ Tom Cruise วันเวลาทำอะไรเขาไม่ได้ พร้อมที่จะนำเสนอหนังคุณภาพเสี่ยงตายมามอบให้ผู้ชมบนจอยักษ์ การหยิบปมจากภาคแรกมาขยายเรื่องราวในภาคนี้มันเลยทำให้เขาถ่ายทอดความเป็นครูฝึกออกมาได้แบบจริงใจ การได้เห็นเขาใส่แจ็คเก็ตขี่มอเตอร์ไซค์แม่งโคตรเท่ห์ เขาคือตำนานของจริง นอกจากนั้นแล้วฉากการบินรบที่ภาคแรกแทบจะไม่ได้จริงจังมากนัก ภาคนี้เขาใส่เต็มทุกประสบการณ์ที่กลายเป็น 1 ในตัวละครที่น่าจดจำสำหรับบทบาทที่ Tom ฝากไว้ น่าเสียดายคือว่าช่วงองค์ 3 ของเรื่องบท Tom มันขาดๆเกินไปสักหน่อย ไม่งั้นน่าจะดีกว่านี้ ด้านนักแสดงคนอื่นๆที่เราได้เห็นคนรักใหม่อย่าง Jennifer Connelly มาน้อยแต่ก็แอบจิ้นในหลายๆฉากดูน่ารักไม่แพ้เวอร์ชั้นเดิมที่ Kelly McGillis แสดงเอาไว้เมื่อ 36 ปีก่อน หรือการได้ Val Kilmer มาอยู่ในเรื่องถือว่าเป็นไฮไลท์เหมือนกันเพราะนี่คือนักแสดงระดับตำนานที่ตีคู่มากับ Maverick ในภาคแรก ส่วนกลุ่มนักบินคนอื่นๆ Glen Powell, Monica Barbaro, Lewis Pullman, Jay Ellis มาสร้างสีสันแต่บทไม่น่าจดจำเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ Miles Teller ที่ถอดความเป็นตัวละครลูกชายของ Goose ถือว่าเมื่อมาประกบคู่กับ Tom เคมีเข้ากันได้ เป็นการวางตัวที่เหมาะสม

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังภาคต่อเกิดขึ้นเพราะ Tom Cruise โทรไปบอก Paramount ว่าอยากสร้างภาคต่อ เลยเกิดเป็นภาคต่อ
  • หนังใช้เวลา 3 ปีกว่าจะได้ฉายโรง เพราะวิกฤติโควิด
  • Netflix, Apple TV อยากซื้อหนังเรื่องนี้ไปฉายสตรีมมิ่ง แต่โดน Paramount ปฏิเสธเพราะหนังทำมาเพื่อฉายโรง
  • Tom Cruise ยืนยันว่ายังไงก็ต้องพา Val Kilmer มาแสดงในหนังให้ได้
  • เครื่องบินจำลองในหนังที่ Tom Cruise ขับช่วงต้นเรื่องทำให้จีน ต้องส่งดาวเทียมมาสอดส่องดูความเคลื่อนไหว
  • นักแสดงทุกคนที่ได้รับบทเป็นนักบินต้องได้รับการฝึกอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อให้พร้อมสมกับเป็นนักบินจริงๆ
  • ค่าเช่าเครื่องบิน F-18 ตกชั่วโมงละ 375,000 บาท ต่อชั่วโมง