เรื่องย่อ

เด็กสาวคนนี้ ที่มีชีวิตรอดออกมา หลังจากห้องแล็ปมนุษย์ทดลองที่เธออยู่ถูกถล่มไปราบคาบ จากกองกำลังปริศนา เมื่อเธอมีชีวิตออกมาสู่โลกปกติ เธอเหมือนคนไร้เดียงสา แต่อยู่ดีๆเธอก็ได้ไปพบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่โดนกลุ่มนักเลงมาเฟียท้องถิ่นจับตัวไป และสาวน้อยคนนี้ก็จัดการเล่นงานด้วยพลังมหาศาล ทำให้ คยองฮี หญิงสาวที่เธอช่วยชีวิตไว้ชักชวนเธอมาพักที่บ้านด้วยกัน โดยไม่รู้เลยว่า สาวน้อยคนนี้กำลังนำภัยร้ายที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล มีกลุ่มคนมากมายพร้อมจะไล่ล่าตามเก็บแม่มดสาวน้อยไร้เดียงสาเพื่อนรักคนใหม่ของคยองฮี

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Witch: Part 2. The Other One เป็นหนังแอ็คชั่นสเกลยักษ์ที่ยกระดับได้โคตรมันส์คอหนังแอ็คชั่นไซไฟระทึกขวัญน่าจะถูกใจ เพราะเนื้อหาอัดแน่นไปด้วยความเว่อวังอลังการ มีลูกเล่นเยอะไปหมด เด็กสาวที่รอดตายมีพลังพิเศษมาใช้ชีวิตปกติ แต่กลับโดนไล่ล่าเพราะถูกมองว่าเป็นตัวอันตราย องค์ประกอบไม่ได้ซับซ้อนเน้นฉากต่อสู้ที่เอามันส์ คอหนังทั่วไปดูเรื่องนี้ตอบโจทย์แน่ๆ โครงเรื่องคุณภาพระดับ X-Men ไม่ได้ฮีโร่จ๋าเกินไป แต่มีพลังทำร้ายล้างที่อันตราย ต่อให้ไม่ใช่แฟนหนังสายเกาอยากได้หนังบันเทิงเรื่องนี้มาถูกทางแน่นอน

• สายหนังแอ็คชั่น
• สายหนังระทึกขวัญ
• สายหนังไซไฟ
• สายหนังเกาหลี

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เกาหลีที่คุณภาพเข้าขั้น Hollywood ดูไปดูว่ามีความเหมือน X-Men อยู่เหมือนกันในช่วงแรกในการปูเรื่องราว เนื้อหารักษาโครงเดิมจากภาคแรกออกแนวโหดดิบเถื่อนรุนแรงมันส์สะใจ ภาคนี้เหมือนจะมาในโทนใกล้เคียงกัน แต่ใส่ความระทึกขวัญที่มีองค์ประกอบหลอนๆลงไปผสมผสานกับความไร้เดียงสาของตัวละครหลักที่ไม่เหมือนกับแม่มดในภาคแรก มันเลยทำให้หนังคลุกเคล้าในจังหวะที่เหมาะสม ตัวละครหลักเองรอดตายออกมามีพลังพิเศษ เธอดูจะเอนจอยกับเพื่อนใหม่อย่าง คยองฮี ที่พาเธอไปสัมผัสอะไรใหม่ๆแบบที่เธอไม่เคยเจอ มันเลยทำให้ต่างฝ่ายต่างผูกพันธ์กัน คนหนึ่งรอดตายจากนักเลงมาเฟียปล้นที่ดินเพราะพลังอันมหาศาลของอีกฝ่าย ส่วนอีกคนก็มอบความรู้สึกดีๆในฐานะเพื่อน ซีนที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันออกแนวฟีลกู๊ด แถมยังมีน้องชายที่มาสร้างเสียงหัวเราะอีกตั้งหาก ตัวละครหลักในภาคนี้เลยออกแนวมอบมิตรภาพซะมากกว่าไม่ได้เน้นโหด หนังจำเป็นไม่ต้องดูภาคแรกก่อน ไม่จำเป็นเพราะเนื้อเรื่องไม่ได้เชื่อมกันมากสักเท่าไหร่

ส่วนในพาร์ทแอ็คชั่นหนังยังคงดุเดือดคงเอกลักษณ์เอาไว้เหมือนเดิมนั้น ใส่มาเต็มมาแบบไม่มียั้งบู๊กันได้ระห่ำไม่แพ้ John Wick หรือ Matrix การต่อสู้ในภาคแรกว่าดุเดือดแล้ว ภาคนี้ก็มีด้วยสเกลที่ใหญ่ขึ้นเพื่อรับมือกับแม่มดโดยเฉพาะ การต่อสู้มาทั้งระเบิด อาวุธแบบสงครามโลก อาวุธครบมือทั้งมีด ดาบ การต่อสู้มือเปล่าแบบระยะประชิด หนังสามารถสร้างฉากแอ็คชั่นสวยๆได้ตลอดทั้งเรื่อง ทุกฉากทำออกมาตื่นเต้นเร้าใจ คือไม่ได้ขายแค่ตัวละครเอกอย่างเดียวที่มีพลังมหาศาล แต่ตัวละครรองตัวละครสมทบก็มีคิวบู๊ที่ดุเดือดไม่แพ้กัน องค์ประกอบดีไซต์ออกมาดี การตัดต่อการเรียงภาพรวดเร็วฉับไหว ฉากแอ็คชั่น CGI ทำออกมาร้องว้าวไปเลย ที่สำคัญคือทำออกมาแตกต่างจากภาคแรก กลายเป็นไฮไลท์เด็ดไปเลยสำคัญภาคนี้ แม่มดก็ว่าโหดแล้ว นักฆ่าก็อันตรายไม่แพ้กัน หนังคุมโทนได้อยู่หมัด เอาคนดูอยู่ คาดเดาเนื้อหาอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างดูสลับซับซ้อนมาก ที่สำคัญหนังไม่เน้นขายประเด็นดราม่าความเหลื่อมล้ำแบบสไตล์เกาหลี นี่แหละหนังแอ็คชั่นดีๆที่ควรต้องมี

มาพูดกันที่นักแสดงนำกันบ้าง ไฮไลท์อยู่ที่ตัวละครหญิง 3 คน Shin Si-ah สาวน้อยที่มารับบทแม่มด เราได้เห็นมุมมองที่ไร้เดียงสาสนุกสนานของเธอ ซึ่งออกมาน่ารักสดใส ผ่านสีหน้าแววตาที่ดูเป็นธรรมดา คาแรกเตอร์ไม่ได้เน้นดุดันดูแรง แต่เมื่อมาอีกพาร์ทหนึ่งก็น่ากลัว ปล่อยพลังบู๊แบบไม่เกรงใจใคร สร้างความอันตรายจนน่าสยดสยอง ที่สำคัญตัวละครนี้ไม่ได้เน้นพูดเยอะ ออกแนวเรียนรู้ชีวิต แล้วก็เป็นมิตรกับคน มีความเยือกเย็นในตัวเองซึ่งแตกต่างจากตัวละครในภาคแรกมากๆ Park Eun-bin หรือทนายความสาวจากซีรีส์ยอดฮิต Extraordinary Attorney Woo เธอคือตัวละครคนธรรมดาหญิงสาวที่ต่อสู้กับนักเลงที่มาขอซื้อที่ดินแต่เธอไม่ขายกลายเป็นเพื่อนแปลกหน้าที่มาเติมเต็มแม่มดสาว เรารู้สึกรักตัวละครนี้ คือรู้ตัวว่าชีวิตมีปัญหารอดด้านแต่ก็พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเธอไม่เกรงกลัวว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร พร้อมจะเป็นมิตรแท้ในเวลาที่ยากลำบาก ด้านทีมสังหารทีมไล่ล่าอย่าง Seo Eun-soo ที่เข้ามาเติมเต็มให้หนังดูสนุกมีรสชาติ ทหารรับจ้างหญิงจอมโหดที่มีลูกมือเป็นฝรั่งที่ถูกเถียงกันเรื่องทำภารกิจกลายเป็นซีนตลกที่สอดแทรกให้คนดูขำกันลั่นโรง