The Flash (2023)
เดอะแฟลช
คะแนน
โกดังหนัง
เป็นงาน DC ที่ครบเครื่อง แอ็คชั่นมุกตลกผสมผสานออกมาได้กลมกล่อม ไม่แปลกใจที่นักวิจารณ์ชื่นชมของเขาดีจริงๆ ที่ยอดเยี่ยมคือ Ezra Miller เขาคือคนที่เกิดมาเพื่อบท The Flash
คำคมจากภาพยนตร์
"The past is what shapes us to be who we are now."
"อดีตคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราใจปัจจุบัน"
เรื่องย่อ
Barry Allen ใช้พลังวิเศษของเขาเดินทางย้อนเวลา เพื่อกลับไปแก้ไขอดีตที่เจ็บปวดของเขา แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงพยายามช่วยครอบครัวในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเรื่องสนุก เพราะมันส่งผลต่ออนาคตไปด้วย และทำให้เขาได้พบเจอประสบการณ์มากมายแบบที่ชีวิตไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Flash ถ้าหากคุณเป็นคอหนังสายฮีโร่จะ DC หรือ Marvel ไม่ควรพลาด เนิื้อหาสนุกมากเล่าเรื่องได้กระชับแตกต่างจากซีรีส์ เกริ่นนำตัวละครที่มาที่ไปได้น่าสนใจโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเยอะ หนังมีลูกเล่นเยอะแยะเต็มไปหมดว่าง่ายๆคือทำการคารวะตำนานหนังฮีโร่มากมายของ DC โดยเฉพาะ สนุกสนานตื่นเต้นเร้าอารมณ์มันคือรสชาติความแปลกใหม่หวือหวามาก หนังไม่ได้ขายแอ็คชั่น แต่แฝงดราม่าและพูดถึงผลดีผลเสีย ผ่านตัวละครที่เผชิญหน้ากับอดีตที่เจ็บปวดยากที่จะลืมเป็นหนังฮีโร่ที่ครบเครื่องดีสุดในของ DC ในรอบหลายปี
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ในโลกที่เต็มไปด้วยหนังฮีโร่มากมาย และมาด้วยเทคนิคหลากหลายจักรวาล หลากหลายไทม์ไลน์ที่เรียกว่ามัลติเวิร์ส ดูเหมือนว่า หนังเรื่องนี้ก็มีแนวทางที่เล่าได้น่าสนใจที่สำคัญคือมีจุดยืนชัดเจนไม่ซ้ำซากจำเจกับหนังเรื่องไหนๆ หนังเองเล่าเรื่องด้วยไม่ต้องปูทางปูเรื่องราวอะไรเยอะ ซัดเนื้อหาตรงๆถึงฮีโร่หนุ่มคนหนึ่งที่ฉลาด ที่ต้องแบกรับกับปัญหาเรื่องพ่อแม่ที่เป็นตราบาปในชีวิต การได้ย้อนเวลาเพื่อไปหาคำตอบมันเลยเป็นการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง คนเราทุกคนย่อมอยากได้โอกาสที่ 2 เพื่อกลับไปแก้ไขอดีต แต่คนส่วนใหญ่ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างมีราคาที่ต้องจ่ายตามมา เมื่อคิดเปลี่ยนแปลงก็จะมีสิ่งต่างๆที่ได้รับผลกระทบตามมาด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลีกหนีมันพ้น พระเอกเลือกจะแก้และไม่ยอมรับความจริงยึดติดอยู่กับอดีต ชอบที่หนังฉายภาพชีวิตการเป็นฮีโร่สิ่งที่ยากที่สุดคือความเจ็บปวดและการสูญเสียที่ต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ ถ้าผ่านก้าวผ่านมันก็จะกลายเป็นรอยร้าวในชีวิต Andy Muschietti ผู้กำกับมือดีจากหนังนอกกระแสต้นทุนต่ำ ฉลาดและรู้เหลี่ยมรู้มุมที่จะสร้างสรรค์หนังให้มากกว่าแอ็คชั่นฮีโร่สู้กัน หรือปล่อยพลังพิเศษ หนังมีพาร์ทดราม่าที่เล่นซึ้งทำหน้าตาแตก หรือฉากตลกขบขัน การวางโครงเรื่องที่ตัวละครประกอบสมทบมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ และเอาใจแฟนๆหนังฮีโร่ฝั่ง DC ยกใหญ่ Easter Egg เพียบ เรียกว่าเต็มอิ่มจุใจ เชื่อว่าดูรอบเดียวคงไม่พอจริงๆ
แม้ว่าหนังจะทำออกมาได้สนุกสนาน แต่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่งานชิ้นนี้ไม่ได้เชื่อมโยงกับผู้คนมากสักเท่าไหร่ คือถ้าชอบก็ประทับใจไปเลย แต่ถ้าไม่ก็มองข้ามและผ่านไป ส่วนตัวคิดว่างานภาพวิชวลล้ำๆของหนังที่ตัดต่อออกมา ซึ่งในเวลาต่อมาผู้กำกับก็ยอมรับเองว่าจงใจทำให้เพี้ยน และโดนวิพากย์วิจารณ์ ภาพของหนังอาจดูเกินๆไปบ้าง สะท้อนถึงตัวตนที่กระวนกระวายอยากกลับไปแก้ไขอดีตอยากช่วยเหลือแม่ตัวเองของ The Flash ฉากสปีดฟอร์ช หรือแม้แต่การสร้างตัวละคร Barry Allen ที่แตกต่างกันสุดขั้ว มีเสียงทีคนละโทน คนละอารมณ์ ก็ทำให้คนดูสัมผัสถึงความใส่ใจของหนังออกมาได้มีมิติ เรียกว่าเป็นงาน DC ยุคดั้งเดิมที่มีความเจ๋งกว่างานเรื่องก่อนๆ โชว์ลูกเล่น CG ของ The Flash เยอะมากเรียกว่างัดทุกอย่างที่มีออกมาใช้เต็มภาพ แน่นอนว่างานภาพเทคนิคมุมกล้องงดงาม ไม่ Fake หลอกตาคนดู มันทำให้ผู้ชมได้สัมผัสฉากแอ็คชั่นโคตรฟินๆแน่นอนว่าคนที่โหยหาความมันส์ฉากสู้กันเรื่องนี้เต็มอิ่มจุใจมากๆ
พระเอกของเรื่องอย่าง Ezra Miller คู่ควรกับบทบาทนี้ทุกอย่าง แม้จะมีปัญหามากมายรุมเร้าข่าวฉาว แต่พอทำงานและแสดงออกมาเล่นออกมาได้ทะเล้นๆกวนๆ ยิงมุกตลอดเวลา สร้างอารมณ์ขันให้ผู้ชม เป็นตัวละคร The Flash ที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ ไม่แปลกใจที่ผู้กำกับออกโรงชื่นชมเขา การรับบท 2 คาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันสุดขั้วเป็นอะไรที่ยากมาก แต่เขาสอบผ่านฉลุย Michael Keaton นักแสดงจอมเก๋าวัย 71 ตำนาน Batman เมื่อ 30 ปีแล้ว การคัมแบ็ครอบนี้เท่ห์สุขุมเยือกเย็น ออกมาแต่ละฉากออร่าชัดเจน แฟนยุคเก่าจะชอบเขาแน่นอน, Sasha Calle หญิงสาวที่มาซัพพอร์ทเนื้อหาในพาร์ท Supergirl บทจะโหดก็โหดไปเลย อยากอ้อนวอนขอให้หนังเดี่ยวเพราะว่าเสียดายตัวละครนี้ไปต่อได้สบายเลย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Michael Keaton อ่านบทหนัง 3 ครั้งถึงจะเข้าใจเรื่องราว
- ไอเดีย Batman 3 คน มาจาก James Gunn
- Andrés Muschietti ผู้กำกับ กล่อมให้ Ben Affleck กลับมารับบท Batman อีกครั้ง
- Andrés Muschietti บอกว่า Ezra Miller เกิดมาเพื่อบท The Flash
- Tom Cruise ชอบหนังเรื่องนี้มาก และโทรไปหาผู้กำกับ Andrés Muschietti เพื่อชื่นชมที่สร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นมา
- Michael Shannon วายร้ายหลักในเรื่องเอ่ยปากชื่นชมการแสดงของ Ezra Miller
- Sasha Calle รับบทฮีโร่เพราะมี Gal Gadot หรือ Wonder Woman เป็นไอดอล
- หนังใช้งบไปมากถึง 220 ล้านเหรียญ
- หนังเวอร์ชั่นดั้งเดิมมีอยู่ 4 ชั่วโมง เพราะผู้กำกับเปิดโอกาสให้ Ezra Miller ด้นสดหน้ากล้อง