Snowpiercer (2013)
ยึดด่วน วันสิ้นโลก
คะแนน
โกดังหนัง
หนังที่กัดจิกเสียดสีสภาพสังคมที่แบ่งชนชั้นได้แบบชาญฉลาด
Message คมคายมอบให้คนดูได้คิดตามตลอดเวลา
ผลงานหายนะโลกแตกที่มีความแปลกใหม่ พีคตั้งแต่ต้นจนจบ
คำคมจากภาพยนตร์
"That's what people in the best place say to the people in the worst place." "นั่นคือคำพูดของคนที่อยู่สุขสบาย พูดกับคนย่ำแย่"
เรื่องย่อ
เรื่องราววันโลกแตกที่มนุษย์ผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายบนโลกต้องมาร่วมอาศัยชายคารถไฟคันเดียวกัน วิถีชีวิตแต่ละกลุ่มถูกแบ่งออกเป็นชนชั้น พวกเศษเดนจะได้อยู่ท้ายขบวนต้องทนอยู่สภาพความโหดร้าย ทารุณ และคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่ ต่างจากพวกหัวขบวน ที่พวกเขาเองก็ไม่รู้มาก่อนว่ามีอะไรกันแน่ แต่เชื่อมั่นว่าจะต้องดีกว่าสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่นี้ คาแรกเตอร์เคอร์ติสของคริส อีแวนส์ ก็คือแกนนำที่พร้อมจะปลดแอกความเป็นอยู่ ด้วยการวางแผนแหกขบวนรถไฟ เพื่อมุ่งหน้าไปยังหัวขบวนและเปลี่ยนแปลงชีวิตคนท้ายขบวนให้ดีกว่า
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Snowpiercer เป็นหนังที่น่าจะเหมาะกับทุกคนที่ยังอยู่ในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงเช่นนี้ คิดว่าตอนดูแต่ละคนน่าจะสนุกและอินกับประเด็นของหนังได้ไม่ยาก ยิ่งเราสนใจประเด็นสังคมมากแค่ไหนก็จะยิ่งเห็นภาพของความเหลื่อมล้ำได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสามารถสนุกไปกับหนังได้อย่างเต็มที่เลย หนังกัดจิกเสียดสีความไม่เท่าเทียมในสังคมได้แบบเจ็บแสบ มันคืองานสำคัญที่ทำให้ บงจุนโฮ ได้รับการจับตามองในอุตสาหกรรมหนัง
- สายหนังรางวัลคุณภาพ
- สายหนังดราม่าเสียดสีสังคม
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังสะท้อนคำว่าการแบ่งชนชั้นไว้ได้คมคาย คนกลุ่มสุดท้ายอยากดิ้นรนเพื่อไปในสถานที่ที่ดีกว่า และต้องต่อสู่กับด่านต่างๆเหมือนเกมที่ต้องตะลุยสู้กับปัญหา ผ่าน 1 ด่านก็เจออีกภารกิจรออยู่ การนำเสนอเล่าเรื่องได้น่าสนใจ ซ่อนปมปัญหาเอาไว้ให้มันดูลึกลับซับซ้อน และปล่อยให้ผู้ชมได้คิดตามว่าจุดนี้เกิดอะไรขึ้น มีข้อคิดอะไรที่เกิดระหว่าง เราเองก็ต้องเอาใจช่วยตัวละครไปด้วยทำให้หนังเรื่องนี้ดูสนุกและตื่นเต้น แถมยังได้ซาวด์ประกอบมาบิ๊วอารมณ์ทำให้เกิดความฮึกเหิม มันเหมือนหนังที่มีรสชาติแปลกใหม่
.
เนื้อหาของหนังแก่นแท้คือการเสียดสีสังคมยุคปัจจุบัน การแบ่งชนชั้น ทำออกมาได้เห็นภาพชัดเจน และเข้าถึงอารมณ์ตัวตนการเป็นมนุษย์ได้ดีเยี่ยม มันเหมือนสภาพของสังคมจริงๆที่เราจับต้องได้ ยิ่งการใช้เหตุการณ์ก่อปฎิวัติในหนังมาขยี้ให้เรื่องราวใหญ่โตและใกล้จะถึงความแตกหักในที่สุด ยิ่งทำให้กลับมามองสภาพแวดล้อมบ้านเรา เรียกได้ว่าตรงกับสถานการณ์ในเวลานี้ ช่วงท้ายมีจุดพลิกผันและทำให้เรารู้สึกขนลุกมาก หากใครดูเรื่องนี้แล้วจะรู้สึกไม่ต่างจากผม
.
ฟากนักแสดงเรียกว่ามีแต่ตัวท็อปๆ ทั้ง คริส อีแวนส์ ที่เป็นหัวใจหลักของเรื่องรับหน้าที่คนปลดแอ๊ก เขาทำให้เราทึ่งในบทบาทนี้ปล่อยอารมณ์ออกมาเต็มที่ทำให้เราเชื่อสนิทใจว่าเขาไม่ใช่ Captain America มาก่อน ไม่แปลกใจทำไมเขาถึงชื่นชมผลงานหนังของ บอง จุง โฮ อีก เพราะผลงานเรื่องนี้ทำให้พ่อคริสได้เล่นหนังที่มีไอเดียแปลกใหม่จากผลงานก่อนๆ ส่วนตัวละครอื่น มีอิมแพ็คกับหนัง จะมามากหรือน้อย แต่มีคาแรกเตอร์ที่น่าจดจำ ทั้งเจมี่ เบล, จอห์น เฮิร์ท, เอ็ด แฮร์ริส, ออคตาเวีย สเปนเซอร์ และ ทิลด้า สวินตัน ทำให้หนังดูสนุกมันพีคมากเลยละคุณ เพราะนักแสดงเหล่านี้ที่รับส่งบทกันได้ดี
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ผลงานหนังภาษาอังกฤษเรื่องแรกจากการกำกับของ Bong Joon-ho
- หนังดัดแปลงมาจากนิยายภาพจากฝรั่งเศส เรื่อง Le Transperceneige
- Bong Joon-ho พบกับนิยายภาพเล่มนี้มาตั้งแต่ปี 2006
- Chris Evans ประทับใจฝึมือการกำกับของ Bong Joon-ho ถึงขนาดว่าอยากทำงานด้วยกันอีกครั้ง
- โปรตีนในหนัง ทำมาจากสาหร่ายทะเล น้ำตาล และเจลาติน