The Pianist (2002)

สงคราม ความหวัง บัลลังก์ เกียรติยศ

The Pianist Poster
10/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังถ่ายทอดผลพวงของสงครามที่กระทบต่อนักดนตรีชาวยิวออกมาได้อย่างทรงพลัง หดหู่ ชวนเศร้า บีบคั้น ทรมานจิตใจ ไปกับเรื่องราวเป็นอย่างยิ่ง

หมวดหมู่ : Biography Drama Music
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Roman Polanski
ความยาว : 2 ชั่วโมง 30 นาที
นักแสดงนำ : Adrien Brody, Thomas Kretschmann, Frank Finlay

คำคมจากภาพยนตร์

“They all want to be better Nazis than Hitler” “สิ่งที่พวกเขาต้องการนั่นก็คือการเป็นนาซีที่ดีกว่าฮิตเลอร์”

เรื่องย่อ

วลาดิซสลาฟ สปิลมัน นักเปียโนชาวโปแลนด์ เชื้อสายยิว ที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทั้งมีบ้านและครอบครัวที่แสนอบอุ่น แต่เมื่อโลกเข้าสู่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว ชีวิตของเขากลับต้องพลิกผันเป็นอย่างมาก เพราะทหารเยอรมัน หรือกลุ่มนาซี ได้บุกเข้ายึดประเทศโปแลนด์ และทำการกดขี่ชาวยิวจากพฤติกรรมต่างๆ อันโหดเหี้ยมอำมหิตที่ต้องจารึกเอาไว้บนหน้าประวัติศาสตร์

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Pianist เหมาะกับคนที่ชอบศึกษาประวัติศาสตร์ และเรียนรู้ความโหดร้ายจากสงครามแล้ว หนังเรื่องนี้คือตำราชั้นดี ที่พาคนดูให้ได้เห็นถึงภาพความรุนแรง ที่ชวนหดหู่ สิ้นหวัง จนพาเอาจิตตกไปกันได้ง่าย ซึ่งถ้าใครที่ไม่อยากมาดำดิ่งกับความรู้สึกเหล่านี้ ก็แนะนำให้ข้ามหนังเรื่องนี้ไปกันได้เลย เพราะหนังถ่ายทอดออกมาได้สมจริง และน่าเศร้าเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคนที่ใจแข็งพร้อมลุย และผ่านหนังผลพวงจากสงครามอันโหดร้ายอย่าง Schindler’s List, The Boy in the Striped Pajamas มาก่อนหน้านี้แล้ว The Pianist ก็คือการยกระดับความหดหู่ไปอีกขั้นกว่า 2 เรื่องที่แนะนำกัน

  • สายหนังผลพวงจากสงคราม
  • สายหนังดนตรีท่ามกลางสงคราม
  • สายหนังสงครามโลกครั้งที่ 2

 

รีวิว / สรุปเนื้อหา

อีกหนึ่งภาพยนตร์จากเรื่องจริงของ Wladyslaw Szpilman ที่สะท้อนความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชาวยิวต้องเผชิญกับสถานการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันแสนโหดเหี้ยม ผ่านการกำกับของ Roman Polanski ผู้กำกับสายหนังคุณภาพอีกคน ที่เป็นชาวโปแลนด์เหมือนกัน ซึ่งในเรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นหนังที่เกี่ยวกับสงคราม และมีฉากหลังเป็นสงคราม แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันกลับเป็นหนังที่เล่าถึงผลพวงจากสงครามที่ส่งผลกระทบต่อคนๆ หนึ่ง หรือผลกระทบต่อคนกลุ่มหนึ่งต่างหาก ด้วยการเล่าเรื่องราวที่เกาะไปกับตัวละครเอกตั้งแต่เริ่มเรื่องที่มีชีวิตปกติสุข ไปสู่สถานการณ์ที่ค่อยๆ เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นชวนหดหู่ไปกับเรื่องราว

ในเฉพาะในช่วงกลางๆ ไปจนถึงท้ายๆ เรื่องนั้น มีหลายเหตุการณ์ในหนังมากที่ทำเอาคุณดูต้องจุกจนน้ำตาไหล ไม่เพียงแค่เฉพาะชะตากรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับชีวิตตัวเอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงชาวยิวรอบๆ ข้างที่หนังทำให้เห็นว่าชีวิตพวกเขาก็พินาศไม่แพ้กัน เพียงเพราะเขาเกิดมาเป็นชาวยิวเท่านั้น หนังเต็มไปด้วยเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่ชวนบีบหัวใจมากมาย และเส้นทางของชีวิตชาวยิวในเรื่องก็ดูช่างไร้ความหวัง และหนทางในการที่จะกลับไปมีชีวิตปกติ ซึ่งการเล่าเรื่องของชาวยิวที่แอบลักลอบอาศัยอยู่ในพื้นที่ก็เป็นมุมที่เราไม่ค่อยเห็นนักในหนังสงครามประเภทนี้ เพราะส่วนมากเราจะเห็นการไปลงเอยของพวกเขา ที่ค่ายกักกันเสียมากกว่า

ซึ่ง Roman Polanski ก็ได้ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้มาอย่างเต็มเหนี่ยวไร้ซึ่งการประนีประนอม แต่ท่ามกลางภาพความรุนแรงทั้งหลาย แต่ฉากที่เจ็บปวดใจที่สุดกลับเป็นฉากที่ตัวละครเอกอย่าง Szpilman นั้น อยากจะเล่นเปียโนที่อยู่ต่อหน้า แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะกลัวว่าเสียงจะดังไปถึงหูทหารเยอรมัน ทั้งๆ ที่ดนตรีคือภาษาสากลที่ไม่ทำร้ายใคร แต่หากเขาเลือกเล่นไปมันอาจทำให้เขาเสียชีวิตได้ มันจึงเป็นสิ่งสะท้อนได้เลยว่าภายใต้การปกครองของพวกนาซีนั้น แม้แต่กิจกรรม หรือสิทธิพื้นฐานที่ไม่สามารถทำได้ ก็เรื่องที่่ชวนหดหู่ใจเสียเหลือเกิน นับเป็นอีกหนังผลพวงจากสงครามที่ถ่ายทอดความโหดร้ายได้เป็นอย่างมากจนคุณอาจจะไม่มีวันลืมมันไปได้เลย

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ในระหว่างการหาทำเลในการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ในกรุง Krakow นั้น ผู้กำกับ Roman Polanski ได้พบกับชายที่ได้ช่วยเหลือครอบครัวของให้รอดมาจากสงครามในช่วงนั้นมาได้
  • Adrien Brody เรียนรุ้ และฝึกเล่นเปียโนจริงๆ เพื่อความสมจริงในหนังเรื่องนี้
  • ตอนที่หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมนั้น ทางเจ้าตัวอย่าง Roman Polanski เอง ก็สามารถไปรับรางวัลนี้บนเวทีได้ เนื่องจากเขาถูกจับกุมด้วยข้อหาทารุณทางเพศพอดี ซึ่งในตอนนั้นก็เป็นดาราอย่าง Harrison Ford ที่ไปรับให้ และนำไปให้เขาในภายหลัง