Her (2013)

รักฉันฟังชัดๆ

Her Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังที่สะท้อนแง่บวกและแง่ลบการใช้โซเชียลมีเดีย
ถ่ายทอดความรู้สึกเหงาอ้างว้างทุกข์และสุข
ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ วาคิน ฟีนิกซ์

หมวดหมู่ : Drama Romantic
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Spike Jonze
ความยาว : 2 ชั่วโมง 6 นาที
นักแสดงนำ : Joaquin Phoenix, Scarlett Johansson, Amy Adams

คำคมจากภาพยนตร์

"I think anybody who falls in love is a freak. It's a crazy thing to do. It's kind of like a form of socially acceptable insanity." "การตกหลุมรัก คือความเสียสติอย่างหนึ่งที่สังคมยอมรับได้"

เรื่องย่อ

เรื่องราวของหนุ่มนักเขียนผู้โดดเดี่ยว ที่ทำงานบริษัทรับจ้างเขียนจดหมาย ซึ่งเขาสามารถบอกเล่าสื่อสารความรู้สึกให้กับทุกๆคนที่เขามองชีวิตผ่านและรับจ้างเขียนจดหมายให้ได้ แต่สำหรับตัวของเขาเองกลับสื่อและบอกออกมาไม่ได้จนเกิดเป็นปัญหา และทำให้เขาไปตกหลุมรักโอเอส โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เรียกตัวเองว่า “ซาแมนธา”

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Her คือการหนังรักดราม่าคุณภาพที่หยิบไอเดียการที่คนเราติดโซเชียลมีเดีย มาเล่าให้เห็นถึงโทษพิษภัยที่ตามมาจนทำให้คนเราหมกหมุ่นตัดขาดปัญหาชีวิตตัวเองไม่ได้ ตัวละครเหมือนภาพสะท้อนของคนที่ไม่รู้จักการปล่อยว่าง เขาทำให้ตัวเองติดอยู่ในวังวนแบบเดิมและหาทางออกไม่ได้ หนังย้ำเตือนให้เรารู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมากไปมันไม่ดีกับตัวเราเองเลย เนื้อหามันดำดิ่งไปกับความทุกข์เกินไปจนตัวละครเริ่มหลอกตัวเองและหาทางออกไม่เจอ หนังเหมาะกับคนที่ต้องการรู้เท่าทันการใช้สื่อออนไลน์เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือไฮเทคที่นับวันเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลจนเราแทบตามไม่ทัน

  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังโรแมนติก
  • สายหนังที่ชอบวาคิน ฟีนิกซ์

รีวิว / สรุปเนื้อหา

Her เหมือนเป็นกระจกสะท้อนให้เราเห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่อีกฟากหนึ่งมันโตแค่นั้น แต่ไม่ได้พัฒนาจิตใจของมนุษย์ตามไปด้วย หนังไม่ได้มุ่งประเด็นของการว่าร้ายโลกโซเชียล แต่มองในหลากหลายมุมที่ทำให้เราเข้าใจว่า ทุกอย่างมักจะมีด้านดีและด้านร้ายเสมอ อยู่ที่ว่าเราพาตัวเองไปอยู่ตรงไหน ใช้ถูกวิธีมากแค่ไหน หนังเล่าเรื่องได้ยอดเยี่ยมในแง่ของการพาผู้ชมไปสัมผัสด้านมืดและด้านสว่างแห่งความเหงาในเวลาเดียวกัน โทนหนังทำให้เราเข้าใจถึงสภาพจิตใจของตัวละคร  เหงาก็เหงาได้สุดยอด มีความสุขก็ชวนอมยิ้มซะเหลือเกิน พระเอกล้มเหลวกับการใช้ชีวิตคู่ แน่นอนว่าคนมันมีความรู้สึกเหงา การพึ่งพาโซเชียลมีเดียย่อมเป็นทางออกที่ดีทำให้เขาได้มีสัมพันธภาพในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาได้เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าเขาจะต้องจมปรักอยู่กับความโดดเดี่ยวอีกครั้ง เพราะระบบปฎิบัติการอัจฉริยะที่เขาซื้อมานั้น สามารถตอบโจทย์ทุกอย่างในชีวิตของเขาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังกลายเป็นเพื่อน จนกระทั่งคนรักได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แม้จะไม่มีตัวตนก็ตาม

สิ่งที่เจอเขาดูมีความสุขกับเทคโนโลยีแต่มันก็มีโทษที่มาทำลายเขาโดยที่ไม่รู้ตัว โลกแห่งความเป็นจริงที่เขาจะต้องเผชิญ มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด เขาเองก็ต้องสูญเสียความเป็นจริงบางอย่างไป หากตกหลุมรักกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งมันกระทบต่อสภาพจิตใจของพระเอกมาก ดูแย่สิ้นหวัง เพราะเขาเป็นเอามากกับเรื่องนี้บทหนังไม่ได้ทำให้เราเข้าใจว่าโซเชียลนั้นรุนแรง แต่ทำให้เห็นภาพในหลากหลายแง่มุม ทุกอย่างมันจะมีด้านดีและด้านร้ายเสมอ อยู่ที่เราว่าจะพาตัวเองไปอยู่ ณ จุดไหน อะไรไม่จำเป็นไม่สำคัญมากพยายามละทิ้งไปซะบ้าง เพื่อให้ชีวิตได้เจอสิ่งใหม่ๆที่ไม่ใช่เทคโนโลยี ไม่แปลกใจที่หนังได้ออสการ์สาขาบทดั้งเดิมยอดเยี่ยม

วาคิน ฟินิกซ์ ในบทที่เราไม่ค่อยได้เห็นมากเท่าไหร่ กลับตีความออกมาเป็นธีโอดอร์ได้อย่างน่าประทับใจ เราได้เห็นหลากหลายแง่มุมที่เขาต้องเก็บอารมณ์เก็บความรู้สึกที่มีทั้ง เหงา เศร้า รัก แฮปปี้ มีความสุข ทุกข์ ระทม อมความเจ็บปวดและรวดร้าว ไม่ว่าจะแง่มุมไหน ก็สะท้อนภาพออกมาได้ชัดเจน เป็นหนึ่งในบทมาสเตอร์พีซ ส่วนสการ์เลต โยแฮนสัน แม้เธอจะมาแค่เสียงแต่มีผลกระทบต่อตัวละครหลักมาก แต่เรากลับรู้สึกว่า เธอมีตัวตนจริงๆ หาใช่แค่คอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังถ่ายทอดหลากหลายอารมณ์ผ่านเสียงได้อย่างลึกซึ้งและเข้าถึงตัวละคร

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • สไปก์ จอนซ์ ผู้กำกับเขียนบทหนังเองทั้งหมด
  • รูนีย์ มาร่า ภรรยาของวาคิน ฟินิกซ์มาร่วมแสดงหนังเรื่องนี้
  • เดิมทีเสียงพากย์ซาแมนธา ไม่ใช่เสียงของ สการ์เลต โยแฮนสัน ก่อนจะมาเปลี่ยนในภายหลัง
  • หนังคว้ารางวัลออสการ์ 2014 ในสาขาดัดแปลงบทยอดเยี่ยม