Holy Spider (2022)

ฆาตกรรมเภณีเมืองศักดิ์สิทธิ์

Holy Spider Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

เป็นหนังที่ชอบมาก มันทั้งดาร์คหดหู่สิ้นหวัง ตีแผ่ด้านมืดสังคมอิหร่านช่องว่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงที่โดนย่ำแย่จนไม่เหลือที่ว่างให้พวกเธออีกต่อไป

หมวดหมู่ : Crime Drama
สัญชาติ : Danish
กำกับโดย : Ali Abbasi
ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที
นักแสดงนำ : Zar Amir Ebrahimi, Mehdi Bajestani, Sara Fazilat

คำคมจากภาพยนตร์

"ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สมควรตายเพียงเพราะพวกเธอเป็นโสเภณี"

เรื่องย่อ

หนังดัดแปลงมาจากเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นจริงเมื่อ 20 ปีก่อน เรื่องราวของนักข่าวสาว ราฮิมี ที่เดินทางไปยังเมืองมัชฮัดเพื่อตามทำข่าวคดีฆาตกรต่อเนื่องซึ่งใน 1 ปีฆ่าโสเภณีไปกว่า 10 คน สื่อเรียกฆาตกรรายนี้ว่า “นักฆ่าแมงมุม” และเขาก็อ้างว่าการฆ่าโสเภณีคือภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์จากพระเจ้า ราฮิมีพยายามเปิดโปงฆาตกรตัวจริง แต่ปัญหาสำคัญก็คือทั้งตำรวจและผู้คนในเมืองกลับเข้าข้างฆาตกร เพราะแรงศรัทธาของศาสนาที่ตีค่าคำว่า “โสเภณี / กะหรี่ / หญิงขายบริการ” คืออาชีพที่ควรถูกลงโทษ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Holy Spider จัดเป็นหนังดราม่าฆาตกรรมที่ดุเดือดมาก บทหนังอาจธรรมดา แต่เพราะเป็นหนังที่พูดถึงความเลวร้ายสังคมชายเป็นใหญ่ในประเทศอิหร่าน ที่ผู้หญิงเป็นกลุ่มคนชนชั้นรองไม่มีสิทธิ์มีเสียง หนังจึงวิพากษ์วิจารณ์ได้แบบดุเดือดไม่แปลกที่เนื้อหาจะโดนแบนในบางประเทศ มันเป็นหนังอาชญากรรมฆาตกรรมที่มาด้วยพล็อตโจ่งแจ้งโหดร้าย คนที่ชอบเรื่องราวความโหดร้ายความจริงน่าจะดูแล้วหดหู่จนน่าสลดใจเพราะหนังจำกัดการชมในกลุ่มคนอายุ 20 ปี

  • สายหนังฆาตกรรม
  • สายหนังวิพากย์วิจารณ์สังคม
  • สายหนังระทึกขวัญ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

บอกเลยว่าถ้าหากสรุปหนังโดนใจแห่งปีเรื่องนี้จะติดอยู่ในโผแห่งปี 2022 แบบเอกฉันท์ หนังสามารถนำประเด็นที่ละเอียดอ่อนในสังคมอิหร่านเอามาพูดและขยายภาพให้เห็นในวงกว้างได้แบบชัดเจน สังคมอิหร่านเต็มไปด้วยความไม่เท่าเทียมแบบชัดเจน และเรื่องที่ถูกพูดถึงมากคือประเด็นเพศระหว่างผู้ชายและผู้หญิง เราคงรับรู้กันว่าผู้หญิงยังคงต้องใส่ผ้าคลุมออกไปไหนมาไหน เพื่อให้รู้ว่านี่คือผู้ใหญ่ ผู้ชายก็มีความชายเป็นใหญ่ หนังนำเสนอความรุนแรงที่เข้าขั้นดาร์คหดหู่สิ้นหวัง ผ่าน 2 ตัวละคร ระหว่างนักข่าวสาว ที่ต้องการทำหน้าที่สื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงเพื่อนำเสนอความจริงให้สังคมได้รับรู้ กับฆาตกรผู้ชายที่เดินหน้าไล่ฆ่าผู้หญิงขายบริการตามใจชอบ โดยแอบอ้างว่าคนเหล่านี้เป็นเป็นชนชั้นต่ำทำให้สังคมต่ำลงเรื่อยไม่เจริญ แล้วมีเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง

หนังใส่ความดาร์คที่ตรงๆจะแจ้งให้เห็นภาพชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันตลกตรงที่ฆาตกรแม่งก็ไล่ฆ่าผู้หญิงขายบริการขี่มอเตอร์ไซต์ไปตอนกลางคืนชักชวนให้ซ้อนท้ายแล้วก็หาจังหวะลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็นนำศพไปทิ้ง แล้วบอกว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากพระเจ้าทำสิ่งนี้ถูกต้องแล้ว หลักใหญ่ใจความสำคัญคือคนเรานี่ก็แปลกชอบเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งอารมณ์ชายเป็นใหญ่ แล้วยิ่งในสังคมมุสลิมในอิหร่านที่ผู้หญิงโดนจำกัดกรอบสิทธิเสรีภาพมันยิ่งไปกันใหญ่ ผู้หญิงโดนกดขี่ข่มเหง และยิ่งกับตัวฆาตกร นักว่าเป็นนักฆ่าที่ไหนได้แม่งก็คนธรรมดาที่มีชีวิตครอบครัวที่ก็ไม่ได้ยากลำบากอะไรด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกนึกคิดที่มีกลับลงมือทำร้ายคนอย่างเลือดเย็น พล็อตเรื่องมันดูหดหู่อึดอัด และผู้กำกับก็เล่าเรื่องในอารมณ์ที่ให้เห็นความตึงเครียดในสังคม การวางพล็อตเรื่องตัวละครนักข่าวผู้หญิง ก็เป็นอะไรที่เข้าขั้นกล้ามากๆ คือรู้อยู่แล้วว่า ผู้หญิงโดนกดทับ แต่ใช้ตัวละครนี้ที่มีอิสรภาพที่น้อยนิดกลับไปเป็นคนที่ตีแผ่ความเลวทรามได้อย่างถึงพริกถึงขิง ชอบที่สตอรี่เรื่องนี้มันกดดัน คาดเดาอะไรไม่ได้ หนังไม่มีจุดที่ดูผ่อนคลาย

อีกจุดหนึ่งที่ชอบมากคือหนังชวนตั้งคำถามว่าสิทธิเสรีภาพของคนไม่ว่าจะอยู่ประเทศก็สำคัญไม่แพ้กัน อย่างในอิหร่านฆาตกรคนนี้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ได้แย่ พอไปฆ่าคนกลับมีผู้ชายบางคนที่ออกโรงออกตัวสนับสนุน และบอกว่าดีแล้วที่ทำแบบนั้น ประเทศจะได้สูงขึ้น ต้องถามกลับว่า คุณต้องฆ่าผู้หญิงไปอีกเท่าไหร่สังคมถึงจะสูงขึ้นอย่างที่คุณเข้าใจ หรือคิดแบบนั้น ผู้หญิงก็มีความรู้สึกคิดเองเป็น ไม่มีใครอยากขายบริการ แต่บางคนไม่ได้มีทางเลือก เงื่อนไขในชีวิตมาก ฆาตกรผู้เสมอว่าตัวเองทำเพื่อศาสนาและบอกว่าพวกเธอเหล่านั้นสกปรก อะไรคือหลักฐานที่เขาอวดอ้างว่าตัวเองทำเพื่อสังคม แถมเจ้าหน้าที่บางคนก็สนับสนุนว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องอีก สรุปแล้วมันคืออะไรกันแน่ เพียงเพราะผู้หญิงโดนเหยียด โดนกระทำเพราะความต่างทางเพศแค่นี้จริงๆหรอเนี่ย อีกประเด็นหนึ่งคือการที่นักข่าวผู้หญิงกล้าลงมือกล้าเสี่ยงมันสื่อให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอิหร่านเองก็ปล่อยปะละเลย พอเรื่องแดงขึ้นถึงจะมาทำงาน หนังไต่ระดับความพีคไปเรื่อยๆ เพราะจะว่าไปสังคมอิหร่านไร้ความเท่าเทียมมานานแล้วสำหรับผู้ชายและผู้หญิง และทุกอย่างก็โยงใยเข้ากับการเมืองสภาพสังคมในประเทศจนไม่แปลกใจถ้าจะมีผู้คนมากมายขอหนีออกจากประเทศหนี และภาพของหนังจำลองได้แบบน่าหดหู่จริง

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังไม่ได้ฉายในประเทศอิหร่านเพราะโดนแบน
  • นี่คือหนังตัวแทนเดนมาร์กที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยม
  • Zar Amir Ebrahimi นางเอกของเรื่องต้องมาแสดงนำ ทั้งที่เธอเป็นแอ็คติ้งโค้ช เพราะไม่มีใครกล้ามารับบทนำ
  • หนังไปถ่ายทำที่ประเทศจอร์แดน