Lightyear (2022)
บัซ ไลท์เยียร์
คะแนน
โกดังหนัง
หนังครอบครัวที่ดูง่าย ภาพสวย ได้เรียนรู้เรื่องราวของเวลาและการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและอบอุ่น สอดแทรกแง่คิดมากมายจนแอบน้ำตาซึม แถมอบอวลความเป็น lightyear ที่เคยรู้จักมาแต่เด็กๆ
คำคมจากภาพยนตร์
“To infinity and beyond!”
“สู่จักรวาลเวิ้งว้างอันไกลโพ้น!!”
เรื่องย่อ
นักบินอวกาศผู้มีความมุ่งมั่นและภักดีในอาชีพของตัวเอง การผจญภัยของบัซเริ่มต้นเมื่อเขาต้องติดอยู่บนดาวเคราะห์ร้างที่ห่างไกลจากโลกถึง 4.2 ล้านปีแสง "บัซ" และทีมจึงได้เร่งพัฒนายานอวกาศและหาวิธีการเพื่อพาทุกคนกลับสู่โลก วันหนึ่งในขณะที่พวกเขากำลังทดสอบยานอวกาศลำใหม่ เกิดเหตุผิดพลาดขึ้นทำให้บัซและซ็อกซ์ หุ่นยนต์แมวคู่ใจไปตกยังดาวปริศนาแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะที่บัซพยายามหาทางเอาตัวรอดและพาตัวเองออกจากดาวแห่งนั้น ต้องเผชิญกับกองทัพหุ่นยนต์เอเลี่ยนเซิร์ก ที่แสนโหดเหี้ยม แต่ในความโชคร้าย ยังมีความโชคดีที่ได้พบกับเพื่อนใหม่ร่วมผจญภัยไปพร้อมกันกับเขา
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Lightyear ก็หนังที่สานต่อเรื่องราวตัวละครที่แฟนๆหนังมากมายหลงรักอย่าง Buzz Lightyear มันคือการผจญภัยเส้นเรื่องใหม่ที่เป็นมากกว่าของเล่นของ Andy นี่คือนักบินที่ทะเยอทะยานอีโก้จัดชอบวันแมนโชว์ฉายเดี่ยว หนังพูดถึงการเติบโตที่ชีวิตมันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ คนเราไม่สามารถยึดโยงอะไรเดิมๆเหมือนเมื่อก่อน หนังเน้นความสนุกสนาน จะซึมจะซึ้งจะเศร้าคือมันมีครบถ้วนใครเป็นแฟน Pixar เติบโตมากับ Toy Story ไม่ควรพลาด
- สายหนังอนิเมชั่นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก
- สายหนังอนิเมชั่นรางวัล
- สายหนัง Pixar
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ตลอดระยะเวลา 20 ปี จากของเล่นนักบินอวกาศของแอนดี้ที่แฟนหนังจดจำมาวันนี้นี่คือตัวละครที่ได้โอกาสทำภาคแยกออกมาก่อนใครเพื่อน ด้วยเส้นเรื่องที่น่าสนใจ นักบินที่ชอบทำงานฉายเดี่ยวมั่นใจในตัวเองสูงที่เผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงจากสภาพสังคมหน้าที่การงาน ที่โลกเปลี่ยนแปลงไป แต่ Buzz ยังเชื่อมั่นกับความสามารถแบบเดิมๆ ภารกิจที่เขาทำก็เกิดล้มเหลวไม่เป็นอย่างที่หวัง มันเลยทำให้เขาต้องออกไปค้นหาความจริง หนังมาในสไตล์แบบหนังไซไฟอวกาศและดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจากเรื่อง 2001: A Space Odyssey พอสมควร พล็อตหนังไม่ได้มีความซับซ้อน นอกจากนั้นหนังก็ยังนำเสนอความสัมพันธ์ระหว่าง Buzz และ แมวคู่ใจนั้นคือ Sox ที่กลายเป็นตัวละครที่มาขโมยซีนอยู่เรื่อยๆ คาแรกเตอร์ของ Buzz ที่เป็นนักบินก็ถูกนำมาใช้ถูกนำมาเล่าเรื่องอยู่เป็นประจำเรียกว่าใช้งานได้คุ้มค่า แถมบทพูดอันเป็นเอกลักษณ์ยังคงถูกนำมาใช้งานอยู่เป็นประจำ เวลาทำภารกิจ มันเลยกลายเป็นลายเซนต์ไปในตัว
พาร์ทแอ็คชั่นถือว่าทำออกมาได้ดี Buzz เองเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย พาตัวละครไปเจอบททดสอบ ในเมื่อเขาไม่อยากมีเพื่อนฝูง ก็ต้องเปิดใจรับเพื่อนแปลกหน้าใหม่ที่ต้องมาช่วยกันแก้ปัญหาร่วมผจญภัยไปในตัวด้วย Buzz มันเลยทำให้ตัวละครเติบโตขึ้น รู้จักคำว่าสังคมเปิดรับสิ่งใหม่ๆมิตรแท้เพื่อนแท้มักเจอกันในเวลาที่ยากลำบาก คุณค่าของเวลาไม่ได้จำกัดที่ว่าเรารู้จักในช่วงไหนเวลาไหน ความผูกพันธ์ยาวนานมั้ย มันอยู่ที่ว่าเราจดจำสิ่งดีๆจากเขาได้มากน้อยแค่ไหนมากกว่า แล้วเราเปิดรับคนอื่นได้มากแค่ไหน ตรงนี้ Buzz เองได้เรียนรู้ว่าเรื่องบางอย่างเราเองก็ไม่ได้เก่งไปหมด มีหลายๆอย่างที่เราเองไม่รู้ทำด้วยตัวเองไม่ได้ บางครั้งมันต้องทำงานเป็นทีมฉายเดียวไม่ได้เสมอไป และเราเองก็ไม่สามารถตัดสินใครได้เลยว่า คนนี้ห่วยแตกไม่มีคุณภาพ รูปลักษณ์ตัดสินคนไม่ได้ บางทีเราต้องเปิดใจยอมรับผู้อื่นก่อนเป็นอันดับแรกเสียก่อน
ส่วนงานพากย์ที่ได้พ่อหนุ่ม Chris Evans มาเป็นคนดำเนินเรื่องราวแทนที่ Tim Allen ถือว่าเป็นการเลือกที่เหมาะ จาก กัปตันอเมริกามาเป็นกัปตัน Lightyear น้ำเสียงนุ่มลึกแต่ในเวลาเดียวกันก็มีความทะเล้นสนุกสนานเแต่งเติมให้ตัวละครนี้ลงไป มันเลยทำให้นี่คือ Lightyear ในมุมมองที่แปลกใหม่จากเวอร์ชั่น Toy Story เขาสามารถนำพาหนังไปได้สุดทางไม่มีความรู้สึกคิดถึงนักพากย์เก่าเส้นเรื่องเก่า ถือว่าสอบผ่านส่วนตัวละครอื่นๆมาช่วยเติมเต็มให้หนังสนุกตามไปด้วย Keke Palmer ในบท Keke Palmer หลานสาวเพื่อนสนิทของ Buzz ที่มีสกิลเอาตัวรอดหนีเก่ง และเป็นหญิงแกร่งที่มาเปิดมุมมองแปลกใหม่ให้กับยอดนักบินอวกาศได้เข้าใจโลกกว้างมากขั้น Taika Waititi ผู้กำกับหนังสายฮาที่มาร่วมพากย์เสียงเป็น Mo Morrison สร้างอารมณ์ขันได้มากๆ, Peter Sohn มาลงเสียงเป็นแมวเหมียว Sox ที่มาแต่ละซีนแต่ละฉากดูยังไงก็ขับเคลื่อนให้หนังตลกเมื่อเข้าฉากร่วมกับ Buzz, วายร้ายในเรื่องอย่าง Zurg ที่ได้ James Brolin มาให้เสียงก็น่าเกรงขามน่ากลัวปั่นป่วนให้หนังไม่ได้จบง่ายเดาง่ายจนเกินไป
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Angus MacLane เคยโดน Pixar ปฏิเสธไอเดียการทำหนังเรื่องนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง
- ฉากจูบ LGBT ใน Lightyear ทำหนังไม่ได้ฉายในซาอุ, ยูเออี เป็นหนัง Disney เรื่องที่ 4 ที่อดฉายเพราะผิดหลักข้อบังคับกฏหมายประเทศมุสลิม
- หนังโดนแบนไปแล้ว 14 ประเทศทั้วโลกเพราะฉากจูย LGBT
- Chris Evans หัวเสียมากที่บางประเทศแบน Lightyear หลังต่อต้านฉากตัวละคร LGBT จูบกัน
- Lightyear ใช้เวลาทำนาน 5 ปี
- Chris Evans และ Tim Allen คนที่พากย์เสียง Buzz Lightyear เกิดวันเดียวกัน 13 มิถุนายน
- Pixar เลือก Chris Evans มาพากย์เสียงเพราะอยากได้มุมมองอะไรใหม่ๆ