เรื่องย่อ

เหยิน คือสายลับที่ทาง สารวัตรหวง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝีมือดี ส่งเขาไปให้เป็นสายของแก๊งมาเฟียใหญ่ฮ่องกงที่มีชื่อว่า หานเซิน โดยที่ไม่มีคนอื่นในหน่วยงานล่วงรู้ความลับนี้อีก เพื่อป้องกันความลับรั่วไหล ในขณะเดียวกันทางฝั่ง หานเซิน เอง ก็แอบส่งสายลับอย่าง หมิง มาอยู่เป็นวงในของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเช่นกัน ในตอนแรกต่างฝ่ายต่างไม่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่อีกฝ่าย แต่ด้วยความที่ดันเป็นสายเหมือนกันทั้งคู่ เลยมีจุดที่ทำให้ทั้งคู่ต่างมองกันออก และต่างต้องวางแผนเดินเกมหักเหลี่ยมเฉือนคมกันโดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Infernal Affairs นั้นคือหนังอีกเรื่องในตำนานหนังตำรวจฮ่องกงอยู่แล้ว คือถ้าใครชอบแนวๆ หักเหลี่ยมเฉือนคมกันนี่ไม่ควรพลาด และด้วยตัวบทที่สดใหม่ กับการที่ต่างฝ่ายต่างส่งสายลับเข้าไปในอีกฝ่ายได้อย่างชวนลุ้น เพราะแต่ละคนจะต้องงัดเล่ห์เหลี่ยมไหวพริบมางัดกันสุดฤทธิ์ เพราะถ้าใครพลาดก่อนก็หมายถึงความตาย ทำให้ใครชอบหนังฮ่องกงสไตล์เจ้าพ่อ หรือเคยดูหนังอย่าง The Departed ที่เป็นการรีเมคจากเรื่องนี้ไปแล้ว ก็อยากขอฝากต้นฉบับฮ่องกงแบบนี้ไว้ในอ้อมใจ เพราะแม้ตัวบทจะเหมือนกัน แต่ต้องบอกว่าโทนฮ่องกงมันทำให้หนังออกมาเป็นคนละฟีลเลยจริงๆ

• สายหนังหักเหลี่ยมเฉือนคม
• สายหนังอาชญกรรมสุดระทึก
• สายหนังตำรวจฮ่องกง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

น่าจะเรียกได้อย่างเต็มปากว่า Infernal Affairs เป็นหนังสไตล์ตำรวจฮ่องกงที่ชอบแบบมาวินเป็นนัมเบอร์วันมากๆ จากเรื่องราวอันสุดตึงเครียด กับเกมการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมเฉือนคม กับการเอาตัวรอดจากสถานะที่ตรงข้ามกับตัวเองอย่างสุดขั้ว รวมถึงยังได้เห็นความยากลำบากของการใช้ชีวิต ความรู้สึกนึกคิดที่มันเริ่มเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครอย่าง เหยิน ที่เริ่มต้นมาด้วยอุดมการณ์ของการเป็นตำรวจ แต่การที่ต้องเข้าไปเป็นสายโดยที่ไม่มีใครรู้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของแก๊งมันเลยเป็นการบ่อนทำลายสภาพจิตใจเขาลงไปในทุกที

ไม่ต่างอะไรกับส่วนของหมิง ที่แม้ว่าจะเริ่มแบบโจร แต่การได้มาเป็นตำรวจก็เริ่มเปลี่ยนแปลงความคิดบางอย่างของเขาไปอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน มันเลยส่งผลให้ ตัวหนังไม่ได้สนุกแค่การเล่นบทแมวจับหนูกันแบบสุดระทึกเท่านั้น แต่ยังลงไปถึงสภาพจิตใจของตัวละครทั้งสองที่ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี จากความสับสนตัวจนของตัวเองที่แปรเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ และยิ่งได้ซุปตาร์ชื่อดังของทางฝั่งฮ่องกงทั้งสองคนอย่าง หลิวเต๋อหัว และ เหลียงเฉาเหว่ย มาเป็นคู่แบบนี้แล้ว ยิ่งผลักดันให้บทบาทของทั้งคู่ไปสุดระดับปรอทแตกเลยทีเดียว

ด้วยความดีงามของมันตามที่บอกมา ทำให้ตัวหนังเองถูกสร้างต่อมาอีกเป็นไตรภาคสองคนสองคม ที่พาคนดูย้อนอดีตไปรู้จักกับพวกเขามากขึ้น รวมถึงการนำไปรีเมคใหม่ในฉบับของ Hollywood ในชื่อ The Departed ที่ได้ผู้กำกับชั้นอ๋อง อย่าง Martin Scorsese มาทำก็รับประกันเชื่อมือได้จนได้คะแนนใน imdb เยอะกว่าต้นฉบับไปอีก แถมยังคว้าออสการ์มาได้ถึง 4 รางวัล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ยังอยากให้สัมผัสฟิลลิ่งต้นฉบับของฮ่องกงกันอยู่ดี เพราะด้วยบรรยากาศต่างๆ ทำให้รสชาติหนังออกมาไม่เหมือนกันจริงๆ แม้ว่าจะบทเดียวกันก็ตาม