Gran Torino (2008)
คนกร้าวทะนงโลก
คะแนน
โกดังหนัง
หนังกลิ่นอายลูกผู้ชายสไตล์คาวบอยในเมือง ที่สะท้อนภาพอเมริกันที่ต้องอยู่ร่วมกับต่างชาติ ทำออกมาได้เข้มข้น ครบรส กลมกล่อม จนต้องชื่นชมว่าเป็นหนังที่ดีมากๆ ของปู่คลิ้นท์เลย
หมวดหมู่ : | Drama |
สัญชาติ : | American |
กำกับโดย : | Clint Eastwood |
ความยาว : | 1 ชั่วโมง 56 นาที |
นักแสดงนำ : | Clint Eastwood, Bee Vang, Christopher Carley |
คำคมจากภาพยนตร์
“I’ll blow a hole in your face then go inside and sleep like a baby.” “ฉันจะเป่าหน้าแกให้เป็นหลุมซะ จากนั้นค่อยกลับไปในบ้านและนอนให้เหมือนเด็กทารกเลย”
เรื่องย่อ
วอลต์ โควัลสกี้ อดีตทหารผ่านศึกในยุคสงครามเกาหลี เขาเป็นมนุษย์ปู่ที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ใจแคบ และมองตัวเองเป็นที่ตั้ง รังเกียจทุกสิ่งรอบตัวไม่เอาใครเข้ามาในชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีครอบครัวชาวม้งที่เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน ก็ยิ่งสร้างความรู้สึกเหยียดเชื้อชาติที่มีต่อคนผิวเหลืองอย่างเขาเข้าไปใหญ่ แต่แล้ววันหนึ่ง เต๋า วัยรุ่นชายจากบ้านม้ง ก็ดันโดนกลั่นแกล้งให้ไปขโมยรถ Gran Torino สุดหวงของปู่วอลต์ แต่ก็โดนจับได้ ทางบ้านจึงส่งเขาให้เข้ามาช่วยงานทุกอย่างเป็นการไถ่โทษ จนทั้งสองบ้านจึงค่อยๆ ทำลายกำแพงอคติที่มีต่อกัน สู่การยอมรับกันและกัน
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Gran Torino นั้น น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบหนังสไตล์คาวบอยที่มีฉากหลังเป็นยุคใหม่ เพราะปู่ Clint ในเรื่องก็ไม่ต่างอะไรจากชายแก้กร้านโลกที่หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต จนได้พบกับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่เป็นมิตรภาพต่างวัย ต่างเชื้อชาติ ที่สนิทสนมจนควรค่าให้เข้าไปปกป้อง จึงไม่แปลกนักหากหนังจะมีพลังงานแบบแมนๆ มิตรภาพแบบผู้ชายอัดแน่นอยู่แทบทั้งเรื่องตามสไตล์หนังของปู่คลิ้นท์ ซึ่งหากใครชอบหนังอย่าง The Mule ของปู่แก่แล้วนั้น Gran Torino ก็นับได้ว่าโทนคล้ายๆ กัน เพียงแต่สร้างความอบอุ่นหัวใจ และเต็มไปด้วยรอยน้ำตามากกว่า
- สายหนังคาวบอยยุคใหม่
- สายหนังประเด็นเชื้อชาติ
- สายหนังปู่ClintEastwood
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ผลงานสุดเข้มข้นของปู่ Clint Eastwood อีกเรื่อง ที่แสดงถึงความ “กร้านโลก” ในการทำภาพยนตร์สมกับชื่อไทยของหนังจริงๆ เพราะ Gran Torino นั้น เป็นอีกหนังที่ดูเรียบเงียบ แต่กลับทรงพลัง มีความหนักแน่น และเต็มเปี่ยมไปด้วยความบันเทิงอย่างเต็มที่ แม้มันจะมีความเป็นกลิ่นอายแบบ “ลูกผู้ชาย” ตามสไตล์หนังของเขาก็ตาม แต่กลับเรื่องนี้ก็เป็นผลงานชั้นเยี่ยมอีกเรื่องของเขาที่ยากจะมองข้ามได้ อีกทั้งด้วยการแสดงเป็นคนแก่หัวรั้นสุดไม่น่าคบของตัวเองนั้น ก็เป็นอีกส่วนผลักดันให้หนังกลายเป็นหนังที่คนหลงรักจากคุณภาพเน้นๆ ได้ไม่ยากเลย
อีกทั้งตัวหนังเองยังสะท้อนภาพของกลุ่มชาวต่างชาติ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเอเชีย) ที่อพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่ในพื้นที่สังคมอเมริกันมากขึ้น หลายๆ บ้านต้องใช้ชีวิตร่วมกับคนต่างชาติ ซึ่งในหนังเรื่องนี้ก็สะท้อนความคิดของคนอเมริกันบางส่วนที่มีต่อชาวต่างชาติเหล่านี้ หนังเรื่องนี้มันเลยกลายเป็นเสมือนทูตสัมพันธไมตรี ที่จะมากระชับจับมือให้กับทั้งสองฝ่ายในการอยู่ร่วมกันอย่างเต็มที่ ผ่านทางตัวละครที่สุดโต่งอย่างปู่วอลต์ ที่มีความเป็นอเมริกันจ๋าในทุกๆ กระเบียดนิ้ว ทั้งการเป็นทหารเก่า รถยี่ห้ออเมริกัน รวมถึงธงชาติยิ่งใหญ่ ที่แสดงถึงความเป็นอเมริกันชนอย่างเต็มที่ ที่หากมองว่าตัวละครนี้ยังเปลี่ยนได้ ทำไมคนอื่นในอเมริกันถึงจะเปลี่ยนไม่ได้ล่ะ
นอกจากประเด็นที่เข้มข้นแล้ว อย่ามองว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังดราม่าจ๋าๆ เท่านั้น เพราะในความเข้มข้นของมัน ก็ยังมีพื้นที่ให้ใส่มุขตลกที่น่ารักๆ กับฉากแอคชั่นเข้าไปในหนังได้ด้วย แต่มันอาจจะไม่ใช่เป็นในเชิงแอคชั่นจ๋าชนิดที่ว่าระเบิดภูเขาเผากระท่อมกัน แต่เป็นฉากแอคชั่นที่เกิดจากการผลักดันไปตามเรื่องราวให้เกิดขัึ้น จนทำให้แม้ว่าจะมีไม่มาก แต่กลับสร้างพลังให้หนังได้มากเลยทีเดียว ส่วนที่ชอบที่สุดในหนัง เห็นจะเป็นความสัมพันธ์ของปู่วอลต์และหนุ่มม้ง ที่ต่างเป็นครูของกันและกันในแง่การใช้ชีวิต คนกร้านโลกก็สอนการใช้ชีวิตให้เด็กหนุ่ม ส่วนเด็กหนุ่มก็สะท้อนมุมมองของโลกยุคใหม่ให้กับเขา นับเป็นเคมีการแสดงผ่านบทสนทนาที่นำไปสู่มิตรภาพที่สวยงามมากจริงๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- สุนัขในเรื่องของตัวละคร ปู่วอลต์ นั้น จริงๆ แล้วก็เป็นสุนัขที่เป็นสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวปู่ Clint Eastwood เอง
- Scott Eastwood ก็เป็นอีกหนึ่งในนักแสดงของหนังเรื่องนี้ แต่มีชื่อใน End Credit ตามชื่อที่เกิดว่า Scott Reeves เลยไม่ได้เป็นรู้จักมากนักในตอนนั้น จนกระทั้งใช้สกุล Eastwood เหมือนกัน
- ทั้งเรื่องนั้นตัวละคร วอลต์ ใช้คำดูถูกเหยียดหยามคนอื่นถึง 53 ครั้ง...