Good Old Days (2022)
ร้านซื้อขายความทรงจำ
คะแนน
โกดังหนัง
ชอบเนื้อหาซีรีส์เรื่องนี้มาก มันโดนใจ การเล่าเรื่องช่วยย้ำเตือนและรำลึกความหลังเรามากๆ Message มันคมคาย นักแสดงแคสติ้งมาแต่ละตอนเล่นดีมากๆ คือตกหลุมรักแบบไม่ทันตั้งตัว
คำคมจากภาพยนตร์
"ยิ่งเราผูกพันกับบางอย่างมากแค่ไหน สุดท้ายก็ยิ่งเจ็บปวดเมื่อเรารักษามันเอาไว้ไม่ได้"
เรื่องย่อ
ร้านซื้อขายความทรงจำ เล่าเรื่องราวความทรงจำผ่านของ 6 ชิ้น โดยมีศูนย์กลางคือร้านขายของเก่า ‘Good Old Days’ ที่ ‘เฮ’ เจ้าของร้านจะให้ราคาของแต่ละชิ้นจากเรื่องราวเบื้องหลังเท่านั้น นำมาสู่เรื่องเล่าสะท้อนภาพความสัมพันธ์หลายรูปแบบของคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่แค่ความรักของคนหนุ่มสาว
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Good Old Days จัดเป็นซีรีส์ที่เป็นเสมือนเรื่องราวที่เล่าเรื่องผ่านความทรงจำ ความฝัน ความสุข ความทุกข์ของตัวละคร ผ่านร้านของเก่าที่มีคนมากมาย นำของมาขายให้เจ้าของร้านหนุ่มที่ชื่อว่า เฮ ที่รับซื้อของเก่าที่บันทึกเรื่องราวความสุขจำของผู้ขาย เนื้อหาแทบทุกตอนสะกิดใจเรามาก เพราะบางสิ่งบางอย่างเราเองก็หลงลืมมันไประหว่างทาง ทำให้เรานึกคิดถึงวันเก่าๆ แถม Message ก็คมคายมากๆ
รีวิว / สรุปเนื้อหา
พอมานั่งไล่ดูเราจะรู้สึกว่า พล็อตเรื่องง่ายๆ องค์ประกอบของซีรีส์จะพูดถึงชีวิตหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน ที่มีเวลาใช้ชีวิต แต่พวกเขากลับละเลยบางสิ่งบางอย่างไป ส่วนตัวแล้วค่อนข้างจะชอบ Our Soundtrack ที่พูดถึงเรื่องของความฝันกับความจริง เชื่อว่าเด็กหนุ่มทั่วไปจนถึงคนทำงาน ทุกคนต้องมีความฝันอยากจะเป็นนักดนตรี อยากทำฝันให้เป็นจริง แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง นักดนตรี นักร้อง คนทำเพลง เป็นอาชีพที่ไม่ได้มาง่ายๆ บางคนพยายามแล้ว ไม่เป็นไปตามฝันต้องทิ้งฝันไว้กลางทาง และไปทำงานใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เด็กหนุ่มฝันต่อลงมือทำเพราะคิดว่ามันดีที่สุด แต่เพื่อนสาวกลับรู้สึกแล้วว่าฝันกับความจริงมันไม่มีทางเกิดขึ้นได้ พยายามอย่างเดียวมันไม่พอ เมื่ออาชีพดนตรีไม่มั่นคง สุดท้ายฝันที่คิดไว้ก็ถูกสภาพสังคมที่ไม่เอื้อกลืนกินหายไป กลายเป็นเส้นทางที่สวนทางกันของ 2 ตัวละคร มันไม่ได้ผิดอะไร แต่เมื่อเงิน ปากท้อง ไม่ได้เอื้อให้กับฝันอีกต่อ คนคนหนึ่งต้องถอยออกมา
จริงๆแล้วแทบทุกตอน ก็พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ระยะทางเป้าหมายในชีวิตที่ผู้คนส่วนใหญ่ ต่างมีมุมมองความคิดเป็นของตัวเอง แต่ด้วยอายุความรับผิดชอบที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากฝันที่คิดเอาไว้ กลายเป็นว่าต้องประคับประคองเพื่อให้มีชีวิตรอด เหมือนในตอน Memories Of Happiness จากเพื่อนรักในต่างจังหวัดอยู่ชมรมถ่ายภาพ ทำกิจกรรมเพื่อโรงเรียน เพื่อถึงเวลาแยกย้ายไปเรียนต่อในมหาลัย จากรักในการถ่ายภาพ บันทึกฟิล์มเก่าๆ กลายเป็นว่าอีกคนไปทำงานร้านขายก๋วยเตี๋ยว อีกคนทำงานบริษัท เขาและเธอไม่มีวันกลับมาเจอกัน แต่ฟิล์มเก่าๆที่เก็บเรื่องราวสมัยเรียน นำพาพวกเขาและเธอรำลึกความหลังกัน ตัวละครในพาร์ทนี้มีความชอบคล้ายๆกัน แต่ด้วยภาวะหน้าที่ของครอบครัว ทำให้พวกเขาได้แค่มีความสุขด้วยกันตอนเป็นเด็กมัธยมที่ถ่ายรูปร่วมกัน แต่ชีวิตในปัจจุบันโดนกดทับจนไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น และพวกเขาเองก็รับรู้ได้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขาคือการใช้เวลาอยู่ด้วยกัน เป็นช่างภาพบันทึกความทรงจำตอนเป็นเด็กมัธยม ที่ไม่ต้องไปแบกรับปัญหาอะไรทั้งนั้น
มาพูดกันที่นักแสดงกันบ้าง แทบทุกพาร์ทเล่าเรื่องได้ดี แม้ว่าจะทำออกมาสั้นๆจบ 2 ตอน ถ้าในแง่ของการแสดงกลับชอบพาร์ทของ จอส-เวอาห์ แสงเงิน, น้ำตาล-ทิพนารี วีรวัฒโนดม และ เค เลิศสิทธิชัย 3 ตัวละครที่ชีวิตพบเจอความช้ำในชีวิต 2 คนแรกเป็นคนรักกัน แต่ชีวิตพบความล้มเหลวในเรื่องครอบครัวที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง คือมันก็ตรงกับสังคมยุคนี้พอนี้ ตอนคบกันจีบกันรักกันจะเป็นจะตาย พอเปลี่ยนมาใช้ชีวิตคู่มันไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด ประสบปัญหาภาระมากมาย วางแผนชีวิตก็ผิดพลาด เนื้อหาเลยเต็มไปด้วยทัศนคติที่ต่างคนต่างคิดเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ จนยากที่จะเข้าใจ สุดท้ายพวกเขาจึงได้เข้าใจชีวิตว่า เราทุกคนต่างสร้างความเจ็บปวดให้คนอื่นแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะมัวแต่มี Mindset ของตัวเองไม่ฟังใคร, ส่วนการแสดงของคนอื่น เช่น ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี และต้าเหนิง-กัญญาวีร์ สองเมือง แม้ว่าจะทำงานด้วยกันครั้งแรก แต่เคมีที่เข้ากัน 2 เพื่อนรักที่มีฝัน เขาและเธอมีดนตรีในหัวใจ หรือจะเป็น คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์ เจ้าของร้านขายของเก่าที่เป็นเสมือนคนนำพาเรื่องราวของเก่ามาเจอกัน จะว่าไปคริส เป็นตัวละครที่เชื่อมโยงเนื้อหาได้ดี จากตอนแรกไปจนถึงตอนที่ 4 เชื่อว่า พอถึงการแสดงของเขาในพาร์ทสุดท้ายน่าจะสรุปเรื่องราวได้ดีแน่ๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ได้รับแรงบันดาลใจและพัฒนามาจากหนังสือรวมการ์ตูนสั้น ชุด ชายผู้ออกเดินทางตามเสียงของตัวเอง และ บทกวีชั่วชีวิต ของ สะอาด
- นี่คือการแสดงเรื่องสุดท้ายของคุณสมบัติ เมทะนี
- ต้าเหนิ่ง กับ ไบร์ท วชิรวิชญ์ สนิทกันตอนถ่ายทำเพราะทั้งคู่พูดคุยกันผ่านไลน์