Sick Of Myself (2022)

ซิค ออฟ มายเซลฟ์

Sick Of Myself Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

คือหนังที่เต็มไปด้วยความประชดประชันสังคมวัยรุ่นหิวแสง เหมาะกับผู้คนยุคนี้มาก กล้าคิดกล้านำเสนอกล้าวิจารณ์ได้อย่างสนุก

หมวดหมู่ : Comedy Drama
สัญชาติ : Norwegian
กำกับโดย : Kristoffer Borgli
ความยาว : 1 ชั่วโมง 35 นาที
นักแสดงนำ : Kristine Kujath Thorp, Eirik Sæther

คำคมจากภาพยนตร์

"Most narcissists are successful"
"คนหลงตัวเองส่วนใหญ่มักประสบความสำเร็จ"

เรื่องย่อ

ซิงเนอและโธมัส คู่รักที่คบหากันด้วยความสัมพันธ์ที่อธิบายไม่ได้ พวกเขารักกัน แต่ก็หมั่นไส้กัน และก็แอบชิงดีชิงเด่นกันอยู่ลึกๆ วันหนึ่งโธมัสเกิดมีชื่อเสียงขึ้นมาในฐานะศิลปะอินสตอลเลชั่น ซิงเนอจึงรู้สึกอิจฉา เธอจึงหาทางทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะเขาให้ได้ และวิธีการของเธอก็คือ สร้างบุคลิกขึ้นมาใหม่ที่ใครเห็นก็ต้องหันมามอง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Sick Of Myself เป็นหนังตลกแบบดาร์คๆที่เนื้อหาตรงใจคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน กระเทาะเปลือกมุมมองคนยุคนี้ที่หวังแจ้งเกิดโอ้อวดได้รับการยอมรับจากสังคม โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิดดีหรือร้าย แคร์เพียงแค่ทำอะไรต้องเด่นต้องดัง ต้องเป็นคนจริงตัวจริงเท่านั้น หนังจะค่อยๆสะท้อนความสัมพันธ์ที่จริงจังสอดแทรกปัญหาชีวิตรักของคนยุคนี้ที่ก็สนใจแต่ตัวเอง มันจึงเหมาะกับคนยุคนี้มากๆ ที่นับวันหิวกระหายอยากเป็นคนดัง หนังตีความในมุมมองที่เรียบง่าย

  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังรางวัล
  • สายหนังโรแมนติก

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ตอนดูจบไม่มีความรู้สึกว่า The Worst Person In The World มีอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แม้แต่นิดเดียว มีแค่โปรดิวเซอร์หนัง และ เมืองออสโล เมื่องที่น่าอยู่น่าใช้ชีวิตอันดับ 1 ของโลก แค่นั้น เพราะเรื่องนี้เล่าในมุมมองที่พูดถึงวัยรุ่นยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เมื่อโลก Internet เติบโต มีแพลตฟอร์มมีช่องทางมากมาย คนเรามันก็แสว่งหาอะไรเพี้ยน เพื่อโอ้อวด ให้ตัวเองโด่งดัง หาวิธีแปลกๆ มาสร้างคอนเทนต์หาพื้นที่บนโลกโซเขียลมีเดีย เพื่อพยายามสร้างตัวตนให้คนอื่นเข้ามาดู แย่งชิงพื้นที่ สวยหรู ความคาแรกเตอร์ความแปลกใหม่ ชายหญิงคู่หนึ่งเป็นแฟนกันคบกัน ผู้ชายมีชื่อเสียงในฐานะศิลปินมีคนจ่อคิวขอสัมภาษณ์ ส่วนหญิงมีชีวิตเป็นพนักงานร้านกาแฟธรรมดา เธอรู้สึกว่าเธอด้อยค่าเหลือเกินคบกับแฟนแต่อีกฝ่ายมีคนเข้าหาตลอดเวลา ช่วงแรกของหนังคือการไปสำรวจตัวละคร นางเอกเริ่มคิดอยู่ตลอดเวลา จะทำยังไงดีวะเพื่อให้ตัวเองได้รับความสนใจกับเขาบ้าง คนเรานี่ก็แปลกอย่าง ไม่แสว่งหาไม่สร้างสรรค์อะไรดีๆ แล้วยังชอบโอ้อวดหาอะไรทำเพี้ยนๆ เธอพยายามเต็มที่เพื่อจะทำร้ายตัวเองหลายครั้ง คนบ้าอะไรอยู่ดีไม่ว่าดีจะหาเรื่องให้ตัวเองบาดเจ็บ หลงตัวเอง ทะเยอทะยาน หิวแสงกระหายที่จะชนะแฟนจนไม่สนใจผลเสียที่ตามมา

นางเอกอยากให้คนสนใจ ซึ่งมันเริ่มมาจากการที่เธอไม่เคยได้รับความสนใจจากแฟนหนุ่มสักเท่าไหร่ จนเกิดเป็นความน้อยใจขี้อิจฉา แต่กล้าพยายามที่ไปทำร้ายร่างกายตัวเอง มันคือความคิดที่บ้าบอสิ้นดี คนเรานี่แปลกคนกันไม่ปรับความเข้าใจกัน แต่ชอบมาคุยกันในวันที่เจอปัญหาใครสักคนบาดเจ็บ เธอได้รับความสนใจแต่มันแลกมากับร่างกายที่เต็มไปด้วยแผล แน่นอนว่าเธอไม่คิดอะไรใช้ชีวิตไปวันๆขอเพียงแค่ มีคนสนใจก็พอแล้ว เพราะเห็นว่า ถ้าเป็นอะไรไปเกิดโรคประหลาดขึ้นมากับตัวเองแล้วคงมีคนสนใจ แค่นี้ก็ฟินแล้ว หนังมันค่อยๆวิจารณ์ผู้คนในยุคนี้โดยเฉพาะชีวิตรักที่มักสร้างภาพโอ้อวดกันว่าเป็นอย่างโน่นเป็นอย่างนี่ แต่แก่นแท้เนื้อในแม่งปลอม หาสาระที่ดีไม่ได้ ตบหน้าด้วยพฤติกรรมที่เลวร้ายของคนที่เป็นสิ่งที่ซับซ้อนอยากจะเข้าใจได้จริงๆ หนังใส่ความตลกลงไปมันเลยทำให้มีความดาร์คพอสมควร คนเราเป็นแฟนกันคบกันต้องอาศัยความเข้าใจกันไม่ใช่การมาเอาชนะกัน การมาโอ้อวดว่าใครเด่นดังกว่า หรือมาหาผลประโยชน์จากอีกฝ่ายแบบนี้มันไม่เรียกว่าความรักแล้วละ เมื่อมองดูภาพของหนังเรื่องนี้เราจึงเห็นว่ามันสะท้อนประเด็นความมักง่ายความสัมพันธ์ของคนยุคนี้เอาไว้เยอะมาก ซึ่งต้องชื่นชมผู้กำกับ Kristoffer Borgli ที่ใช้เวลา 90 กว่านาทีเล่าเรื่องได้สนุกไม่แปลกใจเลยว่าทำไมค่ายหนังในอเมริกาถึงชักชวนไปทำหนัง Hollywood

หนังดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ บทหนังที่เขียนมาดี หาจุดเชื่อมโยงของคนหิวแสงคนขี้อิจฉา ที่หาวิธีที่คิดสั้นและเสี่ยงกับตัวเองแล้ว การแสดงของคู่พระนางก็ฟาดฟันอารมณ์ดุเดือดไปมา Kristine Kujath Thorp นางเอกผู้สร้างเรื่องที่เราพึ่งได้เห็นผลงานเธอไปจากเรื่อง The Burning Sea ที่เรื่องนี้ทุ่มเททุกอย่างออกมาปล่อยพลังของการแสดงออกมาจนได้คาแรกเตอร์หญิงสาวที่โกหกปลิ้นปล้อน ส่วนพระเอก Eirik Sæther แฟนหนุ่มผู้ชายที่ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากตัวเองทำงานศิลปะแค่นั้น นอกจากคู่พระนางที่ช่วยให้หนังตลกแล้ว โปรดักชั่นการนำเสนอเรื่องราวของหนังเรื่องนี้มันค่อนข้างดูน่าติดตาม การลำดับภาพของหนังมันดูน่าไปเที่ยวที่เมืองออสโลมาก มีมุมมองที่สว่างทั้งที่หนังมันเต็มไปด้วยความหม่นหมองของตัวละคร ซาวด์ประกอบที่มาทำให้เนื้อหาด่ำดิ่งลงไปอีก

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • นี่คือหนังที่ได้รับคำชื่นชมมากๆในเทศกาลหนังเมืองคานส์ปี 2022
  • ตัวละครนางเอกซิงเนอร์ ผู้กำกับได้แรงบันดาลใจมาจากหนัง The Fly
  • Eirik Sæther พระเอกชีวิตจริงเป็นศิลปิน