เรื่องย่อ

แอนนา เด็กสาววัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่มักมีปัญหาขัดแย้งกับ เทสส์ แม่ของเธอที่มีอาชีพเป็นนักจิตวิทยา อยู่เสมอ แล้ววันหนึ่งก็มาถึงจุดแตกหัก เมื่อแม่ของเธอนั้นห้ามไม่ให้เธอไปแสดงในวงดนตรีที่เธอซ้อมมานาน เพียงเพราะว่ามันตรงกับวันที่แม่ของเธอกำลังจะแต่งงานกับสามีใหม่ ที่แอนนาไม่ยอมรับพอดี เมื่อทั้งคู่ได้มีโอกาสได้ไปร้านอาหารจีนด้วยกัน และได้ Fortune Cookies จากหญิงชราคนหนึ่ง มันกลับส่งผลให้เธอและแม่สลับร่างกันในวันต่อมา ทางเดียวที่ทั้งคู่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ก็คือความเข้าใจกัน แต่มันคงไม่ง่ายไม่ขนาดนั้น

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Freaky Friday เหมาะสำหรับคอหนังสาย Family หรือหนังครอบครัวที่ดูได้ทุกเพศ ทุกวัยเป็นอย่างมาก ด้วยเนื้อหาที่ดูสนุก กับพล็อตเรื่องของการสลับร่างระหว่างแม่-ลูกที่นำไปสู่ความเข้ากันและกันมากขึ้น ในแบบที่ไม่มีพิษมีภัย ไม่มีมุขใต้สะดือหรือคำที่หยายคายเกินเบอร์ เลยทำให้มันเป็นหนังครอบครัวอีกเรื่องที่มีความน่ารักเฉพาะตัวเป็นอย่างมาก เหมาะกับนั่งจับเข่าดูกันทั้งครอบครัวเป็นอย่างดี เพราะน่าจะได้แง่คิดดีๆ ร่วมกันกลับไปด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งหากใครที่ชอบหนังครอบครัวฟีลกู้ด ที่มีแง่คิดเบาๆ ผสมกับความแฟนตาซีหน่อยๆ อย่าง 13 Going on 30, 17 Again แล้วนั้น Freaky Friday ก็เป็นอีกหนังสไตล์เดียวกันที่ควรเก็บเข้า List ที่ต้องดูเอาไว้ด้วยอีกเรื่องนึง

• สายหนังครอบครัวอบอุ่น
• สายหนังดูได้ทุกเพศทุกวัย
• สายหนังปัญหาชีวิตวัยรุ่น

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังตลกครอบครัวอีกเรื่องที่โด่งดังมากในยุคนั้น ด้วยความที่หนังใช้ดาราทั้งรุ่นใหญ่อย่าง Jamie Lee Curtis และดาราสาวดาวรุ่งในขณะนั้นอย่าง Lindsay Lohan (ที่ดันหลงผิดไปอย่างน่าเสียดาย) ประกอบกับเรื่องราวชวนหัว อย่างการสลับร่างแม่-ลูก ที่ถ่ายทอดออกมาได้น่ารักในแบบสไตล์ Disney โดยที่แฝงข้อคิดดีๆ ในเรื่องมุมมองที่ต่างวัยมาด้วย ก็เลยประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้ และเป็นที่รักของคอหนังสไตล์ครอบครัวเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดมีหนังอย่าง Freaky (2020) ที่ทำออกมาเหมือนเป็นการคารวะหนังเรื่องนี้ เพียงแต่เปลี่ยนการสลับร่างเป็นฆาตกรกับเหยื่อแทน

ด้วยความเป็นหนังของ Disney ก็แน่นอนว่าเนื้อเรื่องก็ดูไร้พิษภัย และมีความตลกเบาสมองอยู่มาก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหากับหนัง เพราะการเดินเรื่องที่สนุก มีการปูเรื่องราวในช่วงแรกให้เราได้เห็นอุปนิสัยอย่างเต็มที่ของทั้งสองตัวละครก่อน เพื่อให้คนจดจำการแสดงออกของพวกเขา พอถึงเวลาการสลับร่าง เราจึงได้เห็นลักษณะนิสัยที่เสมือนย้ายไปจริงๆ ในตัวนักแสดงทั้งสองเลย ซึ่งทั้งคู่ก็ถ่ายทอดในส่วนนี้ออกมาได้ดีมากๆ ซึ่งในช่วงกลางๆ เราอาจได้เห็นความวายป่วงในขณะที่คนแม่ไปใช้ชีวิตของวัยรุ่นในโรงเรียนเหมือนย้อนวัยตัวเองกลับไปอีกครั้ง ในขณะที่คนลูกก็ต้องไปทำงานเป็นจิตแพทย์ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้ และเป็นโอกาสที่ได้รู้จักแฟนใหม่ของแม่มากขึ้นด้วย

เมื่อผ่านความตลกบันเทิงในช่วงแรกไปแล้ว หนังก็กลับเข้าสู่โหมดดราม่าที่น่าสนใจ เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้เรียนรู้ความยากลำบากของชีวิตอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยปัญหาที่ต่างคนต่างต้องรับมือด้วยวิธีที่ต่างกันออกไป จนทำให้แม้ว่าหนังจะออกมาในรูปแบบสูตรสำเร็จสไตล์หนังครอบครัวที่คนก็น่าจะรู้อยู่ว่าหนังจะลงเอยไปในทางไหน แต่มันก็ยังมอบมุมมองครอบครัวที่ชวนอบอุ่นหัวใจ และได้หันกลับมามองถึงสมาชิกในบ้านตัวเอง เพื่อทำความเข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ที่เขาต้องเผชิญในแต่ละวันได้อยู่เหมือนกัน นับเป็นอีกหนังครอบที่ทำออกมาได้น่ารักมากๆ อีกเรื่องเลย