Blade (1998)

พันธุ์ฆ่าอมตะ

Blade Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังฮีโร่สายดาร์คในยุคแรกๆ ที่ใช้เรท R ไปกับความรุนแรงได้คุ้มค่า เป็นอีกฮีโร่แวมไพร์ ที่เท่ ดิบ ดีมากๆ

หมวดหมู่ : Action Hero Horror
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Stephen Norrington
ความยาว : 2 ชั่วโมง 0 นาที
นักแสดงนำ : Wesley Snipes, Stephen Dorff, Kris Kristofferson

คำคมจากภาพยนตร์

“What the hell makes you think you know about huntin’ vampires?”
“อะไรที่ทำให้แกคิดว่าแกรู้เรื่องเกี่ยวกับการล่าแวมไพร์กัน (วะ)?”

เรื่องย่อ

ในโลกที่มีแวมไพร์ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์ เบลด ชายที่เกิดมาด้วยสายพันธุ์ครึ่งมนุษย์ครึ่งแวมไพร์ จากการที่แม่ของเขาโดนแวมไพร์กัดเอาไว้ตอนท้องแก่ เมื่อเติบโตขึ้นมาเลยทำให้มีพลังที่เหนือมนุษย์ ควบคู่ไปกับความต้องการเลือดไม่ต่างจากแวมไพร์ทั่วไป เพียงแต่เขามีเซรุ่มที่ยับยั้งอาการอยากนี้ได้ วันหนึ่งเขาได้พบกับ ดร. คาเรน ที่ถูกแวมไพร์กัด เลยเข้าไปช่วยเอาไว้ และพากลับมาเพื่อให้ วิสท์เลอร์ เพื่อนของเขาหาทางช่วย ในขณะเดียวกันบอสตัวร้ายอย่าง ฟรอสท์ ก็มีแผนใหญ่สำหรับมวลมนุษย์ขึ้นไปอีก จนทำให้ เบลด ต้องกลับมาล้างพันธุ์แวมไพร์เหล่านี้ให้หมด

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Blade นั้น จริงๆ แล้วก็หนังฮีโร่อีกเรื่องจากยุค 90 นั่นแหละ เพียงแต่ด้วยตัวละครและฉากหลังของเรื่อง มันดันเป็นเรื่องเกี่ยวกับแวมไพร์ ก็เลยได้บรรยากาศแบบสยองๆ ปนเข้ามาด้วย ประกอบกับเรท R เลยทำให้หนังดูมีความรุนแรงอยู่ไม่น้อย เลยคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบหนังฮีโร่ที่รับกับความโหดได้ ซึ่งหนังจะค่อนข้างใกล้เคียงกับหนังตระกูล Underworld อยู่ไม่น้อย รวมถึงฮีโร่อย่างแบบ Spawn อะไรแบบนี้ ถ้าชอบแนวๆ 2 เรื่องที่ว่ามาก็ขอแนะนำเอาไว้เลย 

  • สายหนังฮีโร่ดาร์คๆ
  • สายหนังแวมไพร์
  • สายหนังแอคชั่นฮีโร่

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หากย้อนไปในตอนที่หนังออกฉายนั้น หนังคงมีกระแสไม่ต่างจากหนังฮีโร่ชั้นรองเกรดห่วยๆ ทั่วๆ ไป เพราะเป็นอีกยุคที่หนังจาก Comic นั้นตกต่ำเป็นอย่างมาก แต่หลังจากถูกสบประมาทเอาไว้กลับพลิกโผ เมื่อ Blade กลายเป็นหนังฮีโร่ที่ภาคเปิดตัวประสบความสำเร็จไปอย่างมากไม่แพ้หนังใหญ่เรื่องอื่นๆ ในปีนั้นเลย ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งมาจากการคัดเลือกนักแสดงอย่าง Wesley Snipes ที่เข้ากับบทบาทของ Blade ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งในการออกแบบตัวละคร เครื่องแต่งกาย อาวุธต่างๆ ก็ผลักดันให้ตัวละครดูเท่ และเป็น iconic ที่น่าจดจำมากยิ่งขึ้นไปอีก (จน Comic ยุคหลังๆ อ้างอิงจากตัวละครจากดาราในหนังแทน)

สำหรับในภาคแรกของ Blade นั้น เป็นได้รับการเขียนบทโดย David S. Goyer ที่มีผลงานเขียนบทให้กับหนัง Superhero จากค่าย DC เยอะมากในยุคหลังๆ (ซึ่งส่วนมากก็มีแต่คนด่า) แต่ตอนที่ทำ Blade นั้นเรียกได้ว่าเอาตัวรอดไปได้ ด้วยเนื้อเรื่องที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ของตัวเอกที่ตะลุยไปถึงตัวบอส แต่ความสนุกของหนังน่าจะเป็นในเรื่องของความเท่ของตัวละคร และฉากแอคชั่น ที่เอาศิลปะการต่อสู่ที่หลากหลายมาใช้ให้มันดูมีมูฟเมนท์ฉากต่อสู้ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น จนทำให้ Blade มีพื้นที่ที่โดดเด่นเหนือกว่า Hero ตัวอื่นๆ ที่ดูไร้อนาคตในช่วงนั้นอยู่มาก

ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้ Blade สามารถฉีกตัวเองออกมาจากฮีโร่ตัวอื่นๆ ได้ก็คือในจักรวาลของ เบลด นั้น เป็นโลกของแวมไพร์ จึงเต็มไปด้วยความสยอง และมอนเตอร์แปลกๆ อีก ซึ่งพอเอาสิ่งเหล่านี้มาใช้ในหนังมันก็เลยเพิ่มโทนความสยองขวัญ และความโหดขึ้นมาได้เหมือนกัน มันจึงเป็นส่วนผสมที่ไม่ค่อยเห็นนักในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทั่วๆ ไป และสร้างความแปลกใหม่ให้กับหนังได้เป็นอย่างดี จนไม่แปลกใจนักที่มันสามารถประสบความสำเร็จและคลอดภาคต่อออกมาได้อีก 3 ภาค ซึ่งก็นับว่าภาคแรกของหนังชุดนี้ก็เป็นการเปิดจักรวาลของโลกฮีโร่แวมไพร์คนนี้ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ตอนแรก Jet Li ได้รับข้อเสนอเป็นตัวร้ายในเรื่องอย่าง Deacon Frost แต่ดันติดคิว Letahl Weapon 4 พอดี แต่ดาราที่ได้เล่นอย่าง Stephen Dorff ก็ทำออกมาได้ดีไม่น่าผิดหวังเหมือนกัน
  • เนื่องจาก Blade เป็นหนังอีกเรื่องจาก Comic ของ Marvel ทำให้ Stan Lee ก็มีโอกาสได้เข้ามาเป็น Cameo ในเรื่อง แต่น่าเสียดายที่ฉากก็ถูกตัดออกไปซะงั้น