Bangkok Breaking: Heaven and Hell (2024)
ฝ่านรกเมืองเทวดา
คะแนน
โกดังหนัง
ดีในแง่ของพาร์ทแอ็คชั่น การสร้างตัวละครพี่ดู๋สัญญาได้น่าจดจำ น่าเสียดายที่สำรวจปมด้านมืดได้ไม่น่าสนใจ
หมวดหมู่ : | Action |
สัญชาติ : | Thai |
กำกับโดย : | Kongkiat Komesiri |
ความยาว : | 2 ชั่วโมง 27 นาที |
นักแสดงนำ : | Sukollawat Kanarot, Sanya Kunakorn, Atitaya Tribudarak |
คำคมจากภาพยนตร์
"ชีวิตหนูมาถึงจุดนี้เพราะชาไข่มุกแค่แก้วเดียวเนี่ยนะ"
เรื่องย่อ
วันชัย อาสาสมัครกู้ภัยที่กลายเป็นเจ้าหน้าที่กู้ชีพเต็มตัว แต่แล้วชีวิตของเขาก็ต้องพลิกผัน เมื่อเขาต้องไปปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์จลาจลม็อบเคหะ และด้วยการตัดสินใจที่ผิดพลาด ซึ่งส่งผลให้เพื่อนร่วมงานต้องบาดเจ็บสาหัส จนถูกสั่งพักงานอย่างไม่มีกำหนด ก่อนจะเบนเข็มชีวิตหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นไรเดอร์ส่งอาหาร ทว่าเขาดันเข้าไปพัวผันกับเหตุการณ์ลักพาตัวลูกสาวผู้มีอิทธิพล จนทำให้พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากเคหะชุมชนรวมใจ สถานที่ซึ่งถูกควบคุมโดยแก๊งนักเลงสุดโฉดไปให้สำเร็จ
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Bangkok Breaking จัดเป็นหนังแอ็คชั่นที่เหมาะสำหรับคนที่มองหาหนังมันส์ๆกระตุ้นความตื่นเต้น หนังเป็นผลงานที่ผู้กำกับใส่ทุกความต้องการจัดหนักในสถานการณ์วันหายนะคนดวงสวยอารมณ์หนีการไล่ล่าแล้วดันไปเจอโจร อาชญากรตามล่า ความสนุกคือตัวละครหลักต้องมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรเป็นใจสักอย่าง โจรลักพาตัว คนกู้ภัย พยาบาลหญิงที่มีีทักษะมุมมองความคิดต่างกันสุดขั้ว ความสนุกคือหนังไม่ได้เล่นท่ายาก ดูง่ายดูเพื่อความสนุกโดยเฉพาะ
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ถ้าไม่นับเวอร์ชั่นซีรีส์ การหยิบตัวละครวันชัย มาเผชิญหน้ากับหายนะวันซวยๆ ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจ หนังมาพร้อมบรรยากาศแอ็คชั่นที่บ้าระห่ำ หนังเรื่องนี้น่าจะจัดหนักตามสไตล์พี่โขม ก้องเกียรติ พอได้ทุนสร้างที่สูงก็เนรมิตรฉากสร้างซีนแอ็คชั่นเดือดๆได้ตามใจชอบ ฉากไล่ล่าทั้งบนรถ หรือในดงสลัม เรียกว่าเป็นการจัดหนักที่เอาให้สะใจไปเลย การคิดซีน การสร้างตัวละครเลยทำได้ตามใจชอบ แตกต่างจากข้อจำกัดเวลาสร้างหนังฉายโรง พล็อตจึงมาด้วยรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มคนเบี้ยล่างในสังคมที่ต้องอยู่ภายใต้อันตราย โจรอยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่รับงานลักพาตัวลูกผู้มีอิทธิพล อดีตหน่วยกู้ภัยที่ต้องกลายเป็นไรเดอร์จำเป็น พนักงานฝึกหัดที่คิดว่าได้เริ่มต้นอาชีพใหม่จะพบกับงานที่สบาย พวกเขาต้องร่วมชะตากรรมเพื่อเอาตัวรอดจากเคหะเสื่อมโทรมที่เบื้องลึกเบื้องหลังคือย่านนรกสั่งสมไปด้วยธุรกิจมืดของนายทุน หนังเซ็ตติ้งโลเคชั่นชานเมืองกรุงเทพกลายเป็นสลัมที่อารมณ์เหมือนละแวกอเมริกาใต้ยังไงยังนั้น
จุดเด่นของงานพี่โขม คือการสร้างตัวละครที่มีคาแรคเตอร์น่าจดจำซึ่งเป็นจุดเด่นของเขาในงานยุคแรกๆและเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีโดยเฉพาะในรายของพี่ดู๋ สัญญา ที่พลิกมุมมองใหม่ๆได้น่าสนใจ ที่สำคัญเราจะได้เห็นมิติตัวละครสิญจ์ 1 นัดที่มีความเก่งกาจ อ่อนแอ แต่ในเวลาเดียวกันก็เป็นคนที่พร้อมปกป้องคนรอบข้าง ซึ่งกลายเป็นว่าโดดเด่นกว่านักแสดงคนอื่นๆ ในแง่ของการแสดงพี่ดู๋ ไร้ข้อกังขา และเป็นความสะใจที่พี่โขม ทำได้อีกแล้วกับการสร้างภาพพี่ดู๋ในมิติใหม่ๆ ที่สำคัญคือเหล่าตัวละครในเรื่องนี้ก็กลมกลืนเข้าไปกับหนังได้ เช่นพี่เดย์ ไทเทเนียม ที่เป็นหัวโจกที่น่าเกรงขาม จริงๆพี่เดย์แสว่งหางานแบบนี้และเข้าทางแกมากๆ ณัฐ ศักดาทร ที่มาในมาดนักฆ่ารับใช้คนรวยที่สลัดภาพนักร้องชายหนุ่มหุ่นล้ำ มายด์ 4EVE ที่ถูกหยอดเข้ามาในเรื่องให้มีจังหวะตลกเข้าไปอีก ที่เดิมเป็นผู้หญิงรักสวยรักงามเห็นแก่ตัว แต่พอเจอสถานการณ์เลวร้ายมันทำให้มุมมองการใช้ชีวิตเธอค่อยๆเปลี่ยนไป ส่วนพี่เวียร์ หนังค่อยๆฉายภาพคนที่ทำหน้าที่ปกป้องช่วยเหลือคนที่บาดเจ็บสื่อสารให้เห็นถึงความสำคัญของอาชีพกู้ภัย ต่อให้เป็นโจรเป็นคนไม่ดียังไงก็ต้องช่วยให้มีชีวิตรอดเลือกปฏิบัติไม่ได้เด็ดขาด
อีกจุดที่ชอบมากคือการวางโครงเรื่องทำให้ได้เห็นมิติใหม่ๆของการสร้างฉากโลกโสมมอันดำมืด ในเมืองกรุง ค้ายาและค้ามนุษย์ เรียกว่านี่มันคือแหล่งอาชญากรดีๆนี่เอง หนังสร้างบรรยากาศได้น่าสนใจแค่รู้สึกเสียดายที่หนังสำรวจตรงนี้น้อยเกินไป ทั้งที่จะว่าไปเมื่อหนังกล้าทำประเด็นแอ็คชั่นหยอดความด้านมืดในสังคมไทย แต่กลับไม่กล้านำเสนอเชิงลึกได้มากพอ ทั้งที่ที่มีม็อบ การประท้วง การสร้างสถานการณ์เรียกร้องความสนใจสร้างความโกลาหล ภาพนี้เกิดขึ้นไม่นานมานี้ในสังคมไทย แต่หนังเองกลับละเลยหลีกเลี่ยงปัญหาในสังคมไทย ไม่กล้านำเสนอประเด็นนี้มากพอ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- พี่ดู๋ สัญญา แปลงโฉมเป็นสิญจ์ 1 นัด ทุกครั้งวันละ 2 ชั่วโมง
- ชีวิตจริง พี่ดู๋ สัญญา มีงานอดิเรกคือการยิงปืน และเป็นสิ่งที่เขาชอบมากๆ
- ไม่มีใครในกองถ่ายจำ พี่ดู๋ สัญญา ในลุคของ สิญจ์ 1 นัด และต้องใช้เวลาหลายวันกว่าที่ทีมงานจะรู้ว่าเป็นพิธีกรชื่อดังมาแสดงบทบาทนี้