Bad Boys for Life (2020)
คู่หูตลอดกาล ขวางทางนรก
คะแนน
โกดังหนัง
ยกระดับความมันส์ได้สนุกกว่า 2 ภาคแรก บทหนังเดินเรื่องได้แข็งแรง วายร้ายโหดน่ากลัวอันตรายแถมยังมีการสอดแทรกความสัมพันธ์ของคู่หูตำรวจ 2 คนนี้ได้ดีมาก
คำคมจากภาพยนตร์
“Bad boys, bad boys whatcha gonna do? Whatcha gonna do when they come for you?”
“แบดบอย แบดบอย คุณจะทำยังไง คุณจะทำยังไง เมื่อพวกเขามาหาคุณ?”
เรื่องย่อ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นมานานสักกี่ปี มันก็ไม่ได้มีผลสะท้านสะเทือนอะไรกับมิตรภาพอันแน่นแฟ้นของคู่หูสุดซ่าต่างขั้วระหว่างเพลย์บอย ไมค์ โลว์รีย์ กับแฟมิลี่แมน มาร์คัส เบอร์เน็ตต์ เลยแม้แต่น้อย พวกเขากำลังจะกลับมาร่วมงานกันเป็น "ครั้งสุดท้าย" เพื่อจัดการกับบุรุษตัวร้ายที่แส่มาหาเรื่องพวกเขา
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Bad Boys II นั้นก็เป็นแอคชั่นเนื้อหาจากบุค 90 เน้นตำรวจเป็นคู่หูดูโอ้ แต่ในภาคนี้ปรับเนื้อหาให้เข้ากับโลกยุคใหม่ที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังคงคอนเซ็ปต์สไตล์ในแบบดั้งเดิม บทหนังไม่ซับซ้อน ฉากแอคชั่นดูสนุกที่เล่นใหญ่ เพิ่มเติมด้วยคาแรคเตอร์คู่หูที่โดดเด่น น่าจดจำก็ทำให้กลายเป็นหนังที่ดูสนุกสุดเพลินอีกเรื่อง อีกทั้งยังได้เห็นการอาศัยความสร้างสรรค์ในการทำหนังแอคชั่นบ้าดีเดือดมันสะใจกว่า 2 ภาคก่อนทำให้หนังสนุกได้อยู่ ซึ่งถ้าใครชอบหนังแอคชั่นดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อนแบบ The Rock, Face/Off ก็น่าจะชอบ Bad Boys ได้ไม่ยาก
- หนังแอคชั่นตำรวจคู่หู
- หนังแอคชั่นเน้นสาดความมันส์
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนัง 2 ภาคแรก Bad Boys พูดถึงการทำงานของตำรวจคู่หูที่ไล่ล่าคนร้ายในไมอามี่ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมกับยาเสพติด ภาคนี้แทบจะไม่ได้เล่าเรื่องในสไตล์แบบนั้นตรงกันข้าม ระยะห่างของหนังที่หายไปนาน ทำให้พล็อตเรื่องถูกปรับเปลี่ยนปัดฝุ่นใหม่ให้มีความทันสมัยเข้ากับโลกยุคปัจจุบัน บทหนังไม่ได้ดูเชย พอพูดถึงตัวละครหนังจะเล่าเรื่องถึงความผูกพันธ์ของไมค์และมาร์คัสเป็นแกนหลักของเรื่อง ที่ทำงานเป็นตำรวจไล่ล่าโจรผู้ร้าย แต่สิ่งที่พวกเขาเข้าใจคือโลกยุคใหม่ อายุพวกเขาเพิ่มมากขึ้น พวกเขาไม่มีพลังที่จะไปบวกคนร้ายแบบสมัยวัยรุ่นอีกแล้ว สังขารที่เพิ่มขึ้นแรงก็น้อยลง ทำให้มาร์คัสที่มีชีวิตครอบครัวมีลูกมีหลาน มีภรรยา อยากหันหลังไปใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ต้องเสี่ยงตายกับอาชีพตำรวจอีกต่อไป ผิดกับไมค์ที่ครองตัวเป็นโสดซิ่งรถสปอร์ตสุดหรูไล่จับตามไล่ล่าคนร้าย
กราฟชีวิตที่มาถึงจุดเปลี่ยนเพื่อนรักที่มีอารมณ์ความรู้สึกคิดกันไปคนละแบบ แนวทางไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แน่นอนว่าความน่าสนใจของหนังคือ ไมค์โดนท้าทายจากโจรปริศนาที่มีเรี่ยวแรงที่มากกว่า สดกว่าหนุ่มกว่า การโดนเหยียดหยามแบบนี้ทำให้มือปราบไมอามียอมไม่ได้ และเขาไม่ต้องการถูกปรามาศว่าเป็นตำรวจตกยุครอวันเกษียณ พอหนังเปลี่ยนคาแรกเตอร์ตัวละครหลักเจอคู่ต่อกรที่สมศักดิ์ศรีมันเป็นเรื่องที่น่าสนุกดีตรงที่ว่า Bad Boys 2 ภาคแรก ไม่เคยมีอะไรแบบนี้และวนเวียนด้วยพล็อตแบบเดิมๆบ้าระห่ำใส่ฉากบู๊เยอะๆ แต่ภาคนี้ทำให้เราได้เห็นว่า เทคโนโลยีมีอิทธิพลมากต่อการไล่จับไล่ล่าคนร้ายหรือการทำงานเป็นทีม วิธีการของไมค์แทบจะเป็นเรื่องเก่าๆมาก เมื่อได้เห็นการทำงานของเด็กรุ่นใหม่ที่ทำงานเป็นทีมแกะรอยด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หนังจึงมีมุมมองใหม่ๆลูกเล่นใหม่ๆให้ผู้ชม ผสมปมเปไปกับฉากแอ็คชั่นที่เมามันส์ผสมผสานกับความคอมเมดี้ตลกลงไป กลายเป็นว่าทุกอย่างไปได้สวย
ถ้าจะบอกว่าบทหนังมีส่วนสำคัญทำให้หนังเรื่องได้การแสดงที่มีคุณภาพก็คงไม่ใช่เรื่องที่เกินใจเกินไป วิลล์ สมิธ และ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ ยังกลับมาพร้อมกับการสร้างสีสันเรียกอารมณ์ขันให้ผู้ชมได้อมยิ้มมีจังหวะนรกที่ทำให้ผู้ชมได้ผ่อนคลายไม่ได้ใส่หนักแค่ฉากแอ็คชั่น หรือการคลี่คลายปมในหนังก็ทำให้เห็นว่าพวกเขาเป็นตำรวจเก๋าประสบการณ์อายุมากขึ้น ไหวพริบดีแก้เกมรู้ตัวว่าเป็นรองไม่พยายายมเสียเหลี่ยมให้ใครมาหยามเกียรติพวกเขา หนังทำให้เห็นว่าพวกเขาพร้อมจะปรับตัวกับโลกยุคใหม่ นอกจากนี้หนังยังเปิดพื้นที่ให้เราได้เห็นตัวละครใหม่ๆ ที่มาสร้างสีสัน จาค็อบ สคิปิโอ นักฆ่าจอมโหดที่มาห่ำหั่นกับไมค์ และ มาร์คัส ได้น่ากลัวสร้างความสั่นสะเทือนให้ 2 ตัวละคร เป็นคู่ต่อกรที่ดูสมน้ำสมเนื้อ ฉลาดเหนือชั้นกว่าตำรวจหลายเท่า หรือการเปิดตัวละครหญิงเพิ่มเข้ามา Paola Núñez กลายเป็นหญิงแกร่งที่น่าดูน่าชม
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Will Smith ได้ค่าตัวไป $17 million ล้านเหรียญ ส่วน Martin Lawrence ได้ค่าตัว $6 ล้านเหรียญ