The Ice Road (2021)

เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง

The Ice Road Poster
6.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

ลุง Liam เก๋าเกมปล่อยของเต็มที่ฝ่าวิกฤติขนอุปกรณ์ข้ามถนนน้ำแข็งที่เสี่ยงอันตราย ลุ้นระทึกตัวแทบเก็งตลอดทั้งเรื่องแทบจะใจหายใจคว่ำไปเลย

หมวดหมู่ : Action Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Jonathan Hensleigh
ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
นักแสดงนำ : Liam Neeson, Amber Midthunder, Benjamin Walker

คำคมจากภาพยนตร์

"Enough with money business for now, it’s about time we revenge on the person who betrayed us."
"เรื่องเงินพักไว้ก่อน เวลานี้ขอแก้แค้นคนที่หักหลังพวกเรา"

เรื่องย่อ

ไมก์ คนขับรถบรรทุก 18 ล้อตกอับ ได้รับจ็อบเฉพาะกิจการติดต่อให้ทำงานเมื่อเหมืองเพชรใต้ดินวินนีเพ็ก ที่อยู่ทางตอนเหนือของแคนาดาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็งเย็นยะเยือก เกิดเหตุพายุหิมะจนทำให้เหมืองถล่มปิดตาย คนงาน 26 คนต้องติดอยู่ในเหมือง หน้าที่ของเขาคือการขับรถบรรทุก ซิ่งข้ามมหาสมุทรเยือกแข็งระยะทางกว่า 300 ไมล์ ที่กำลังจะละลาย ฝ่าภูมิประเทศและภูมิอากาศที่โหดร้ายอย่างกับนรกภายในระยะเวลาจำกัดเพียง 30 ชั่วโมง เพื่อขนของไปช่วยคนงานในเหมืองใต้ดินให้รอดตาย ซึ่งนอกจากพวกเขาจะต้องต่อสู้กับภัยธรรมชาติแล้ว ยังต้องต่อสู้กับกลุ่มคนไม่หวังดีที่ปั่นป่วนระหว่างเดินทาง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Ice Man ถ้าหากเป็นแฟนหนังสายลุง Liam Neeson ที่หวังว่าจะได้เห็นแนวทางแบบบู๊แหลกอาจต้องผิดหวัง นี่ไม่ใช่หนังสู้แต่เน้นดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก เน้นพล็อตเรื่องง่าย ตัวละครเสียสละ ทำงานแข่งกับเวลา ไม่ได้เป็นงานที่เน้นบู๊เอามันส์ให้สะใจ แต่เป็นหนังสไตล์แก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือคน ต่อสู่กับปัญหารอบด้านที่ผู้ร้ายไม่ใช้อาชญากรรม แต่เป็นสภาพอากาศความหนาวเย็น ใส่ฉากซิ่งรถบรรทุกที่ดูเอามันส์แทน

  • สายหนังความเร็ว
  • สายหนังอาชญากรรมเนื้อเรื่องเข้มข้น
  • สายหนังบู๊สไตล์ป๋าเลียม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

บอกได้เลยว่าลุ้นแทบใจหายใจคว่ำไม่คิดว่า ลุง Liam จะมีทีเด็ดในหนังใหม่ เรื่องก่อนๆบู๊น้อยเน้นดราม่าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มารอบนี้สไตล์ใกล้เคียงแต่เปลี่ยนโทนหนังมาเป็นการฝ่าภารกิจอันตรายเสี่ยงตายขับรถบรรทุกบนทางน้ำแข็ง บรรยากาศที่เยือกเย็นเลยทำให้การเดินทางนี้หฤโหดเป็น 2 เท่า ไหนจะต้องมาต่อสู้กับภัยธรรมชาติแล้ว ชีวิตต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย ยังต้องมาต่อสู้กับกลุ่มคนปริศนาที่หวังเอาความเดือดร้อนของคนอื่นมาเป็นเกาะกำบังเพื่อหวังผลประโยชน์อะไรบ้างอย่าง หนังมีจังหวะจะโคนที่ลุ้นระทึก เราไม่สามารถคาดเดาเลยว่าฉากเสี่ยงตายจะโผล่มาช่วงไหน จะโดนแจ็คพ็อตเมื่อไหร่ แถมยังมีตัวละครบางคนที่ดูเหมือนดีแต่ข้างในร้ายกาจแทรกซึมมาอยู่ในทีมครั้งนี้

การเล่าเรื่องสนุกมากน่าตื่นตาตื่นใจ ฉากรถบรรทุกจมน้ำในหนังเป็นอะไรที่ทุ่มเทมาก ทีมงานเล่นใหญ่เอาให้มันเต็มที่ไปเลย แถมฉากแอ็คชั่นไล่ล่าการใส่ซาวด์ประกอบที่ปลุกเร้าอารมณ์ลงไปเลยทำให้หนังไม่ดูเนื่อย เราชอบบทลุง Liam ที่แสดงออกถึงความเป็นผู้ใหญ่ปกป้องน้องชายที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เขาเลือกจะพาน้องมาลุยงานด้วยเพราะไม่อยากปล่อยให้อยู่โรงบาล ฉากแอ็คชั่นมีให้เห็นเป็นระยะ หนังไต่ระดับความพีคไปเรื่อยๆ ว่าลุงจะแก้ปัญหายังไงเพื่อให้รถบรรทุกไปให้ทันช่วยเหลือผู้คน รวมถึงการรับมือกับแก๊งค์จอมแสบที่หวังจะทำลายแผนการไม่ให้รถบรรทุกไปช่วยเหลือคนให้ทัน อีกนัยยะหนึ่งที่หนังแฝงว่า หนังใส่ปัญหาความเหลื่อมล้ำของกลุ่มคนในแคนาดาที่มีการกดขี่ข่มคนพื้นเมืองชนเผาจากนายทุนที่พยายามจะขัดขวางเลยกลายเป็นว่าองค์ประกอบหนังนำเสนอเรื่องได้น่าตรงประเด็นมาก เพราะคนจนยังคงโดนรังแกอยู่วันยังค้ำไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหน

ส่วนนักแสดงคงไม่มีใครจะดีเด่นไปกว่าลุง Liam Neeson อีกแล้ว เรื่องนี้ได้เห็นแกซิ่งแบบจัดเต็มอาจไม่ถึงขั้น The Fast แบบ Vin Diesel แต่ฉากเสี่ยงตายบนทางน้ำแข็งก็ลุ้นแบบใจหายใจคว่ำหัวใจแทบวายเลย วางพล็อตเสี่ยงกันแบบนี้เลยหรอ แล้วไหนจะมีประเด็นดราม่าไว้ใจเพื่อนร่วมทางแปลกหน้าในภารกิจเสี่ยงอีกค่อยจับผิดกันไปต่างๆนาๆ พาร์ทดราม่าช่วยเหลือคนรอบข้างของลุง Liam ดูจะโดดเด่นกว่าซีนแอ็คชั่น กลายเป็นหนังที่น่าดูเรื่องหนึ่งไปเลย แล้วลุ้นเหนื่อยๆจริง แต่คุ้มค่าเหมาะกับแฟนหนังที่อยากดูงานแอ็คชั่นที่เร้าใจประจำสัปดาห์นี้

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังถ่ายทำที่แคนาดา
  • ทางน้ำแข็งในเรื่องเป็นของจริง
  • ประเทศไทยได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรง เพราะที่อื่นชมผ่าน Netflix