เรื่องย่อ

โทนี่ สตาร์ค ต้องการที่จะปัดฝุ่นโครงการเพื่อสันติสุขของชาวโลกขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดไว้ และเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ผู้ทรงพลังอย่าง ไอรอนแมน, กัปตันอเมริกา , ธอร์ , ฮัลค์, แบล็ค วิโดว์ และ ฮอว์คอาย ต้องเผชิญกับบททดสอบอันยิ่งใหญ่โดยมีชะตากรรมของโลกแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อ อัลตรอน สุดยอดวายร้ายได้ถือกำเนิด มีเพียง เหล่าอเวนเจอร์ส เท่านั้นที่จะสามารถหยุดยั้งเขาและผนการอันชั่วร้ายของเขาได้ ความวิตกกังวลของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ยอดนักสู้และการกระทำที่ไม่คาดคิดได้นำไปสู่มหากาพย์การผจญภัยระดับโลกที่ไม่มีใครเหมือน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Avengers Age Of Ultron นั้น เป็นหนังฮีโร่ที่สานต่่อเรื่องราวจากจักรวาล MCU หลังจากที่เราไปรู้จักตัวละครเดี่ยวภาคแยกทั้ง Thor, Captain America และ Iron Man แน่นอนว่าคนดูหนังฮีโร่เรื่องนี้ต้องไล่ตามเก็บให้หมด แม้ว่าหลายฝ่ายจะพูดกันว่าภาคนี้มันไม่น่าตื่นเต้น แต่ฉากแอ็คชั่นงานสเปเชียล เอฟเฟ็คส์ที่จัดมาอลังการ แฟนหนังจะได้ดูฉากแอ็คชั่นเอามันส์แบบสะใจไปเลย

• สายหนังแอ็คชั่นซุปเปอร์ฮีโร่
• สายหนังแอ็คชั่นบล็อกบัสเตอร์

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เวลาดูหนังบู๊หนังตลาด เรารู้สึกว่ามันไม่มีอะไรให้เราต้องใช้สมองคิดตามมากอยู่แล้ว บู๊ล้างผลาญทำลายมหานครนิวยอร์กเต็มที่ แต่ปรากฏว่าผิดคาดไม่ได้มาบู๊เอามันหรือพังตึกเอาสะใจเหมือนที่เคยดู แต่เรื่องนี้มีทฤษฎีให้เราต้องคิดตามไปกับโทนี่ สตาร์ค แล้วก็โยนเข้าเนื้อหาที่ออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์ทั้งฉากแอ็คชั่นที่หนักแน่นด้วย Long Take โชว์คุณภาพตัวละครแต่ละคนไปเลย ยิ่งเยอะการวางคิวบู๊มันเลยง่าย ได้เห็นความแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา แถมฉากแอ็คชั่นทำให้คนดูร้องว้าว CGI ภาคนี้แม่งจัดเต็มมากๆ ทุกซีนดูสวยงาม ฉากสโลว์ยังน่าจดจำเหมือนเดิม เก็บรายละเอียดดีงามมาก ถึงว่าผลาญ budget กันไปขนาดนั้น ก็คุ้มอยู่ และซาวด์ประกอบที่มิกซ์มาก็ใช้งานได้ ให้อารมณ์หนังดีมากๆ

หนังมีพัฒนาการตัวละครที่ดี มีบทบาทกับหนังและทีม Avenger ไม่ได้มีใครโดดเด่นน้อยเกินไป ทุกคนถูกวางคาแรกเตอร์ลงตัว สร้างสีสันได้มากทั้งในแง่ของฉากแอ็คชั่น แบ่งตัวละครฝั่งดีและฝั่งร้ายกันไปเลย การใส่มุกตลกภาคนี้ดูดีขึ้นไม่ได้ไร้สาระ บทพูดที่ให้นักแสดงทำให้เราขำได้ นอกจากนี้การเติมเต็มตัวละครใหม่เข้ามาทำให้หนังเดินหน้าโดยไม่ต้องกลับไปหามุกเก่าจากภาคเดิม แฝดนรก vision, อัลตรอน และด็อกเตอร์โชว์ แถมหนังยังพาเราทัวร์ไปในหลายๆโลเคชั่นภาพที่ออกมาเลยแปลกใหม่

นอกจากนี้หนังเรืองนี้มันยังสะท้อนเนื้อหาสงครามในยุคปัจจุบันลงไป และแอบเสียดสีสหรัฐอเมริกาที่ชอบทำตัวเป็นตำรวจโลก และหนังไม่ได้มุ่งความเป็นฮีโร่ที่กำจัดวายร้าย แต่ยังเพิ่มภารกิจให้ต้องปกป้องผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก แถมหนังยังได้เห็นภาพความกลัวในจิตใจตัวละครหลัก ทำให้เรารู้ว่าโลกยุคใหม่คนพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปจนกลายเป็นภัยร้ายที่แอบแฝงจนคนคาดไม่ถึง จุดที่ทำให้หนังพัฒนาไปไกลคือตัวละครเหล่าฮีโร่ที่ได้ดาราแม่เหล็กมาร่วมพลังกันถ้วนหน้า Robert Downey Jr., Chris Evans, Chris Hemsworth, Scarlett Johansson, Mark Ruffalo ได้แสดงฉากแอ็คชั่นปล่อยมุกตลกให้เราได้ขำอีกตั้งหาก