Ant-Man and the Wasp: Quantumania (2023)

แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์: ตะลุยมิติควอนตัม

Ant-Man and the Wasp: Quantumania Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

เป็นหนังฮีโร่ที่ดูแล้วสนุกเกินคาด เปิดเฟส 5 Marvel ได้น่าสนใจ ฉากแอ็คชั่นโคตรสวย นักแสดงนี่แหละทำให้หนังมีเสน่ห์ โดยเฉพาะ โจนาธาน เมเจอร์ส ทำให้แคงน่ากลัวมากๆเลยละแก

หมวดหมู่ : Action Hero
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Peyton Reed
ความยาว : 2 ชั่วโมง 5 นาที
นักแสดงนำ : Paul Rudd, Jonathan Majors, Kathryn Newton

คำคมจากภาพยนตร์

"I don't have to win. We both just have to lose."
"ผมไม่ต้องชนะ แค่เราจะแพ้ไปด้วยกันก็พอ"

เรื่องย่อ

คู่หูซูเปอร์ฮีโร่ สก็อตต์ แลง และโฮป แวน ไดน์ ออกเดินทางร่วมกันอีกครั้ง ในฐานะ แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์ อีกทั้งทั้งยังได้ แฮงค์ พิม และ เจเน็ต แวน ไดน์ พ่อและแม่ของโฮป มาร่วมออกเดินทางตะลุยมิติควอนตัม พร้อมร่วมเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ ที่พวกเขาต้องก้าวข้ามขีดจำกัดพร้อมกับวายร้ายที่น่ากลัวอย่าง แคง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Ant-Man and the Wasp: Quantumania เป็นงานเปิดเฟส 5 Marvel ที่ออกแนวบันเทิงจัดจ้านโดนใจสาวก MCU แน่นอน แม้ว่าคุณภาพหนังอาจจะไม่ได้เร้าใจบทหนังซับซ้อน ออกแนวใส่ความตลกใส่ฉากแอ็คชั่นงานภาพที่ชวนว้าวเปิดเส้นเรื่องใหม่นำพาตัวละครใหม่มาสู่แฟรนไชส์ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้ามนุษย์มดมีเสน่ห์มีพื้นที่มีลูกเล่นที่จะเล่าเรื่องเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด แน่นอนว่าก็ต้องเหมาะกับคนที่ดู  Marvel โดยเฉพาะเหล่า Marvel Cinenmatic ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

  • สายหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่
  • สายหนังแอคชั่นบล็อกบัสเตอร์
  • สายหนังภาคต่อ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆหนังเรื่องนี้พยายามตีโจทย์ขยายเรื่องราวไปในวงกว้างมากขึ้น การสานต่อเรื่องราวมนุษย์มดในพื้นที่ใหม่เส้นเรื่องใหม่ โดยเฉพาะการที่มีตัวละครเพิ่มเข้ามา ไม่วนเวียนกับประเด็นเดิมๆของ สก็อตต์ แลง อีกต่อไป หลังจากที่ 2 ภาคแรก ออกแนวตลกน่ารัก รอบนี้เลยพุ่งทะยานไปกับฉากแอ็คชั่นกลิ่นอายแบบ Star Wars เน้นให้ตัวละครดิ้นรนเอาตัวรอดในมิติควอนตัม หน้าหนังภาคนี้เลยออกไปแนวไซไฟวิทยาศาสตร์ เน้นโปรดักชั่นที่อลังการ สีสันจัดจ้านเทคนิคงานภาพกลายเป็นสิ่งที่ทำให้หนังน่าดู เครดิตคงต้องยกให้ทีมเบื้องหลังที่เนรมิตรฉากหลังออกมาได้สวยงามดูแปลกตามากๆ บรรยากาศดูวังเวงไม่น่าไว้ใจ หรือกลุ่มตัวประกอบที่ถูกใส่เข้ามาเยอะแยะ กลายเป็นส่วนเติมเต็มที่ฮาดูตลกสร้างสีสันให้ผู้ชมได้เยอะ ค่อนข้างชอบลูกเล่นของหนังที่เน้นขาย พอล รัดด์ ในเรื่องมาก คือใช้งานได้คุ้มค่ามากๆคือพี่เขาเป็นนักแสดงสายตลกอยู่แล้ว พอมาเล่นเรื่องนี้ดูอบอุ่นเป็นทั้งคุณพ่อรักลูกสาว เป็นเสมือนหัวหน้าที่ต้องปกป้องแฟนคนรัก หรือการหยอดมุกให้คนดูได้ขำกร๊ากก็ยังมีให้เห็นมาตลอด

ส่วนตัวค่อนข้างชอบการปรากฏตัวของ แคง มากๆ รู้สึกว่า Marvel ตั้งใจมาขายตัวละครนี้โดยเฉพาะตอนที่เห็นจากตัวอย่าง วางมาให้ดูน่ากลัวน่าเกรงขาม แบบที่ค่ายปูมาว่าวายร้ายคนใหม่ที่น่ากลัวกว่าธานอส หนังมองหาลูกเล่นใหม่ๆมาขายผู้ชม การแสดงของ โจนาธาน เมเจอร์ส ดูลึกลับซับซ้อนมีหลายมิติดี ไม่ได้ดูตลกเพี้ยนไร้สาระแบบตอน Loki ตรงข้ามเลยเขาไม่ได้เป็นนักแสดงสายคอมเมดี้ แต่เขามีทักษะการแสดงที่เข้าขั้นดีมากๆ ไม่แปลกใจที่ปีนี้มีผลงานใหม่เยอะแยะเต็มไปหมด สีหน้าแววตาเล่นได้ดี เพราะตัวละครนี้คือคนที่มีปมและใช้ชีวิตหลากหลายมิติ มันเลยเป็นงานหนักมากที่ต้องดึงอารมณ์ออกมา เปรียบเสมือนระเบิดเวลา เป็นการเปิดตัวที่ไฉไลมากกว่าตอนซีรีส์ Loki ด้วยซ้ำ รอคอยการของคุณพี่มากๆ คิดว่าเรื่องต่อๆไปเราจะได้เห็นอินเนอร์ของเขาที่มากกว่านี้อีกนะ ไม่แปลกใจที่หลายๆเสียงยกย่องให้เขาคือดาราที่น่าจับตามองในปี 2023 แค่บทแคงก็กินขาดไปแว้ว

อีกคนที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือน้อง แคทเธอรีน แอนท์แมน ที่เข้าสู่จักรวาล MCU ถูกจับตามองเป็นพิเศษน่ารักมีเสน่ห์ เปิดพื้นที่ให้เห็นเด็กสาวที่มาปั่นป่วนเรื่องราวในภาคใหม่ การวางโครงเรื่องให้เธอดูซุกซน ออร่าของน้องเฉิดฉายมากๆ ถือว่าเป็นการเปลี่ยนตัวละครที่เหมาะสม เธอสามารถเล่นได้เข้าขากับนักแสดงคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น พอล รัดด์, อิแวนเจลีน ลิลลี, ไมเคิล ดักลาส และ มิเชลล์ ไฟเฟอร์ ด้านตัวละคร M.O.D.O.K. ที่หยิบนักแสดงจากภาคแรกอย่าง คอรี่ย์ สโตลล์ กลับมาอีกครั้ง มาขโมยซีน เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆหนังได้เพียบ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • นี่คือหนัง Marvel เรื่องแรกที่นักวิจารณ์ให้คะแนนใน Rotten Tomatoes น้อยที่สุด
  • มีการเปลี่ยนแปลงตัวละคร Cassie Lang ลูกสาว Scott เป็นครั้งที่ 3 และเป็นทาง Kathryn Newton มาแสดงนำ