Alice In Borderland 2 (2022)

อลิสในแดนมรณะ

Alice In Borderland 2 Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

ฉากแอ็คชั่นโหดดุดัน อาจไม่หวือหวาเท่าซีซั่นแรก เน้นการสำรวจจิตใจตัวละครเป็นหลัก บรรยากาศเครียดมาก ให้เกียรติมังงะต้นฉบับ เป็นงาน Survival ที่แฟนๆไม่ควรพลาดจริงๆ

หมวดหมู่ : Crime Thriller
สัญชาติ : Japanese
กำกับโดย : Shinsuke Sato
ความยาว : 8 Episodes
นักแสดงนำ : Kento Yamazaki, Asahina Aya, Tao Tsuchiya

คำคมจากภาพยนตร์

“การใส่เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่สังคมกำหนด แต่ในทางชีวภาพมันไม่มีความจำเป็น การใช้ชีวิตตามธรรมชาติของเรา คือรูปแบบที่แท้จริงของมนุษย์ชาติ”

เรื่องย่อ

หลังจากที่อาริสุ และเหล่าผองเพื่อนอย่าง อุซางิ คุอินะ อัน และชิซึยะ ได้เคลียร์ไพ่ตัวเลขได้หมดแล้ว เรื่องราวต่อจากนี้จึงจะเป็นการเคลียร์เกมไพ่ แจ็ค แหม่ม คิง เพื่อเร่งไขปริศนาเรื่องราวในดินแดนมรณะให้ได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Alice In Borderland 2 เป็นเสมือนภาพทีี่อยู่ขั้วตรงข้ามกับ Squid Game ที่ไม่ได้เน้นดราม่าความเหลื่อมล้ำต่อสู้เพื่อเงินรางวัลหรือปล่อยให้คนมาฆ่ากัน ตรงข้ามมันคือเกมที่ดิ้นรนเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่กดดันบีบขั้น เนื้อหาสะท้อนความเลวร้ายของคนด้วยกันเอง เห็นแก่ตัวเอาตัวรอด แม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก่อนหน้าก็ตาม คนที่ชอบนอกจากจะเป็นสาย Survival แล้วคงต้องชอบมังงะต้นฉบับหรืองานสายญี่ปุ่น เพราะพล็อตเรื่องเน้นฉากแอ็คชั่นมันเดือดสะใจมากทำให้เราอินไปกับเกม

  • สายหนังพันธุ์โหด
  • สายหนังญี่ปุ่น
  • สายหนังดัดแปลงจากมังงะ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าหากใครไม่เคยดูซีซั่นแรกมาก่อนแนะนำว่าควรไปดูก่อนเลย เพราะเนื้อหาเชื่อมโยงเข้าหากันไม่อย่างนั้นอาจจะขาดความเข้าใจแน่ๆ ส่วนตัวค่อนข้างชอบสิ่งที่ผู้กำกับนำเสนอพยายามยึดโยงโครงเรื่องจากมังงะต้นฉบับลงไป พยายามให้เกียรติเนื้อหาเป็นหลัก ใจความสำคัญคือดิ้นรนเอาตัวรอด แน่นอนว่าฉากแอ็คชั่นคิวบู๊ฉากหนีตายของตัวละครคือหัวใจหลักของซีซั่นนี้ เราจึงได้เห็นฉากมันส์ๆที่เข้าขั้นโหดดิบเลือดสาด ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง มันเลยทำให้เราชอบเพราะรู้สึกว่าหวือหวามาก อะไรที่ไม่จำเป็นก็พยายามตัดออกมาไป ไม่ต้องพูดเยอะเน้นเนื้อหา แต่รู้สึกว่าเกมทำออกมาง่ายจนเกินไป เหมือนกับว่าไอเดียที่ใช้จริงๆมีน้อยมากและไปกับซีซั่นแรกหมดไปแล้ว ทำให้เกมในซีซั่น 2 แต่ละด่านผ่านง่ายเกินไป เหมือนจะหนักไปทางเน้นบทพูดบทดราม่า คำคมวลีเยอะๆแทน

นอกจากนี้เรารู้สึกว่าพล็อตเรื่องจริงๆสนุกแค่การเรื่องกับการเอาตัวของตัวละคร เน้นสำรวจจิตใจคน ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อหาเน้นที่พระเอกจริงๆ เราจึงได้เห็นมิตรแท้ เพื่อนจอมปลอม ตัวละครที่เสแสร้งในเรื่อง วัดใจตัวละครกันไปเลย ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วงแรกพีคมาก แต่หลังจากนั้นคุณภาพดร็อปลงไป แล้วก็กลับมาสนุกในช่วงใกล้จบ คือถ้าเป็นคนเบื่อง่ายไม่ชอบความดราม่าจริงๆ อาจไม่ดูต่อ แต่อยากให้ดูกันยาวๆ เพราะช่วงท้ายมันมีความเครียดลุ้นระทึกจริงๆส่วนงานสร้างภาคนี้ค่อนข้างดีกว่าซีซั่นแรก งานภาพหรือการเรียบเรียงภาพทำออกมาสวยมาก ทำให้เราได้ลุ้นเข้าไปอยู่ในเกมจริงๆ ค่อนข้างชอบการปรากฏตัวของ Tomohisa Yamashita หรือ Yamapi คือไม่ได้หมายถึงฉากโป๊ แต่การแสดงและประเด็นที่สื่อสารออกไป ก็พูดเรื่องจริงในสังคมทั้งนั้น ขอไม่พูดมากไปกว่านี้เดี่ยวเข้าข่ายสปอยล์จ้า

มาถึงการแสดงของกลุ่มดารานำภาคนี้พัฒนาขึ้นเยอะ Kento Yamazaki พระเอกที่เติบโตขึ้นมีความรู้สึกนึกคิดมีความเจ็บปวดมีบาดแผล มีความอ่อนหัดในการตัดสินใจอ่อนต่อโลกทำให้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหามากมาย แต่ที่ชอบมากคือ Asahina Aya สาวเซ็กซี่ที่ยังคงสวมบิกีนี่ฟ้าท่อนบนกับยีนส์รัดรูปกระชากใจเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือคราวนี้เราจะได้เห็นน้องมากขึ้นและชวนหลงรักมาก ซีซั่นนี้ตัวละครผู้หญิงมีเสน่ห์น่ามองแทบทุกคนน่าประทับใจมากเล่นดีทั้งฉากดราม่าฉากแอ็คชั่นจนไม่กล้าละสายตาไปไหนเลยจริงๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Tomohisa Yamashita หรือ Yamapi ถ่ายฉากโป๊โดยไม่ได้ใช้ CGI
  • Asahina Aya ชีวิตจริงเป็นสาวแท้ แต่ในเรื่องต้องรับบทเป็นสาวข้ามเพศ