วันนี้ทาง #โกดังหนัง จึงอยากที่จะรวบรวมหนังสไตล์ฮีโร่ที่แหวกแนว และมีความแตกต่างจากตลาดมาแนะนำกันสักหน่อย เผื่อใครที่กำลังเบื่อแนวแมสๆ แล้วจะลองหาฮีโร่ในแบบที่ไม่เหมือนใครกันดูบ้าง จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นลองมาดูกันเลย

1. Sky High (2005)

Will Stringhold เด็กหนุ่มวัยรุ่นที่มีพ่อ แม่ เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่มีสเกลพลังแข็งแกร่งที่สุดในโลก จึงเป็นเรื่องที่สร้างความกดดันกับเขามากๆ ที่เขาโตขึ้นมาโดยที่ยังไม่มีพลังอะไรเลย ทำให้การที่เขาถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียน Sky High ท่ามกลางบรรดาเพื่อนๆ ที่พลังพิเศษตื่นขึ้นมาแล้ว จนทำให้เขาต้องพยายามค้นหาพลังของตัวเองให้ได้ พร้อมทั้งเติมเต็มชีวิตรักในวัยรุ่นไปด้วย

ท่ามกลางหนังแนว Coming-of-Age และหนัง Superhero ที่มีอยู่มากมาย แต่กลับยังไม่มีใครเอาสองแนวนี้มาผสมผสานกัน จึงทำให้ผู้กำกับ Mike Mitchell จึงเอาสองไอเดียมารวมกันจนเกิดเป็น Sky High ที่ส่วนตัวมองว่าเป็นหนังที่ Underrated มากๆ อีกเรื่องหนึ่ง ด้วยความทั้งความกลมกล่อมในแง่ครอบครัว ความรัก และการเติบโตของวัยรุ่นได้อย่างลงตัว ประกอบกับฉากแอคชั่นโชว์พลังที่แม้จะใสๆ แต่ก็ดูสนุกเลยทีเดียว

2. Dredd (2012)

Dredd เจ้าหน้าที่ตุลาการมือดีใน เมกะซิตี้วัน ที่ทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ตัดสินโทษบรรดาคนที่กระทำผิดต่างๆ โดยวันหนึ่งเขาก็ได้รับภารกิจไปร่วมกับตุลาการสาวหน้าใหม่ อย่าง Anderson ในการบุกเข้าไปในตึก พีชทรี ความสูง 200 ชั้น เพื่อทำลายแก๊งยาเสพติดที่ึควบคุมกิจการโดย Ma-ma ที่สั่งให้เปิดตึกทั้งหมด เพื่อจัดการตุลาการทั้งหมดที่เข้ามาในนี้ Dredd และ Anderson จึงต้องฝ่าด่านแต่ละชั้นเพื่อทลายให้ถึงตัวการให้ได้

อีกหนึ่งตัวละครที่เป็น Iconic ของโลกภาพยนตร์ที่สร้างมาจาก Comic จากฝั่งอังกฤษ ที่ดีไซน์ตัวละครออกมาได้เท่มากๆ ทั้งตัวเครื่องแบบและหน้ากาก ประกอบกับเรื่องราวในโลกดิสโทเปียในอนาคตสุดเข้มข้น โดยมีการทำเป็นหนังมาแล้วถึง 2 เวอร์ชั่น ในฉบับแรกชื่อว่า Judge Dredd ในปี 1995 รับบทโดย Sylvester Stallone ที่ได้รับผลตอบรับไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็มีการทำใหม่ในชื่อ Dredd ตอนปี 2012 ที่ Karl Urban มารับบทนี้ได้ดุเดือด และสาแก่ใจแฟนๆ ยิ่งนัก

3. Hellboy (2004-2019)

Hellboy สิ่งมีชีวิตที่กำเนิดมาจากเปลวเพลิงนรก และทะลุประตูข้ามมิติมาตั้งแต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จากแผนของพวกนาซี โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เขาออกมาทำลายล้างโลก แต่สุดท้าย เขาก็ได้รับการเลี้ยงดู โดย Professor Broom จนเติบโตมาด้วยจิตใจที่ดี อีกทั้งเขาเองก็ยังได้สังกัดกับหน่วย BRPD หรือศูนย์กลางเพื่อค้นคว้า และป้องกันเหตุเหนือธรรมชาติ ที่คอยปกป้องโลกจากภัยร้ายต่างๆ ร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ ไปพร้อมๆ กับการสู้กับอารมณ์ร้อนของตัวเอง

…

ผลงานต้นฉบับมาจาก Comic ของ Mike Mignola ที่สร้างสรรค์ตัวละครจากนรกตัวนี้ขึ้นมาในปั 1993 ผ่านสำนักพิมพ์ชื่อดังอย่าง Dark Horse Comics ที่สร้างความแตกต่างจาก Hero ในยุคนั้นเป็นอย่างมาก จากการเอาปีศาจมาเป็นตัวเอก แถมยังสังกัดองค์กรที่คอยเฝ้าระวังสิ่งเหนือธรรมชาติบนโลกนี้ ซึ่งสำหรับหนังก็มี 2 เวอร์ชั่น โดยเซตแรกเป็นของผู้กำกับชื่อดังอย่าง Guillermo del Toro และได้ดาราอย่าง Ron Perlman ที่สมกับบทบาทนี้มากๆ จนสร้างออกมาได้ถึง 2 ภาค ในขณะที่ปี 2019 ก็มีการรีบูทตัวละครนี้ใหม่อีกครั้ง แม้ว่าจะได้ดาราดังอย่าง David Harbour, Milla Jovovich และ Ian Mcshane มาร่วมแสดง แต่ก็ไม่สามารถกู้คุณภาพของหนังได้เท่าไรนัก

4. Mystery Men (1999)

การรวมตัวของเหล่าฮีโร่โนเนม 7 คน ที่มีพลังแปลกๆ เหมือนใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ เช่น มิสเตอร์ฟิวเรียส ชายผู้จะมีพลังเมื่อมีอารมณ์โกรธ, มนุษย์พลั่ว ที่ใช้พลั่วเป็นอาวุธ, เดอะโบว์เลอร์ สาวผู้ใช้โบว์ลิ่งวิญญาณเป็นอาวุธ, เดอะสพลีน มนุษย์ตด, มนุษย์ล่องหน ที่มีพลังหายตัวได้เมื่อไม่มีใครมองเขา (เพื่อ…), ชายผู้ปาส้อมได้อย่างแม่นยำ และสุดท้าย เดอะสฟิงก์ ซึ่งพวกเขาทุกคนต้องมาเผชิญกับยอดวายร้ายที่หวังจะทำลายเมือง

…

อีกกลุ่ม Superheroes จากค่าย Dark Horse Comic ที่สร้างความแปลกใหม่โดยการไม่ใช้ Hero มาดเท่ๆ หรือมีพลังพิเศษดีๆ แบบใครเขา แต่กลับเป็นการรวมพลังของคนแปลกๆ กับพลังที่ดูใช้อะไรไม่ได้เท่าไรนัก หนังเลยออกมามีธีมที่วายป่วงไม่น้อย ทั้งความบ้าบอ เฮฮา อีกทั้งยังมีพาร์ทดราม่าได้น่าสนใจด้วย ใครที่เบื่อฮีโร่สไตล์เท่ๆ กันแล้ว ลองจัดเรื่องนี้กันได้ บันเทิงแบบพิสดารดีจริงๆ

5. The Invincible (2021)

Mark Geryson เด็กหนุ่มลูกชายซุปเปอร์ฮีโร่ที่เก่งระดับโลกอย่างออมนิแมน ที่เพิ่งได้รับพลังพิเศษเป็นของตัวเองเมื่อตอนอายุ 17 ปี จนได้เข้าร่วมเป็นฮีโร่เพื่อค่อยๆ เรียนรู้พลังตัวเองและปกป้องโลกแบบพ่อของเขา โดยที่ไม่รู้ว่าพ่อของเขาเองดันมีความลับดำมืดบางอย่างในวงการฮีโร่อยู่

..

แม้ว่าฉากหน้าของ The Invincible จะดูเหมือนอนิเมชั่นฮีโร่วัยรุ่นที่พยายามค้นหาตัวเอง ทั้งชีวิตส่วนตัว และการใช้พลังเพื่อปกป้องโลก แต่จริงๆ แล้วนั้น The Invincible คืออนิเมชั่นที่มีความโหด ดิบ เถื่อน เลือดสาด สมองไหล ไม่แพ้ The Boys เลย ซึ่งไม่เหมาะกับเด็กเป็นอย่างมาก แต่สำหรับคอฮีโร่ที่ Hardcore แล้ว นี่คืออีกผลงานจากค่าย Image Comics ที่ตอบสนองความต้องการของสายโหดเป็นอย่างดี รวมถึงทีมพากษ์ก็มาจากนักแสดงชั้นดีที่มีผลงานมาเยอะมากๆ

6. Hancock (2008)

จอห์น แฮนค็อก หรือชื่อในวงการฮีโร่ว่า แฮนค็อก เขาเป็นฮีโร่ที่อยู่ในสถานะเหมือนคนเร่ร่อนที่เมาไปวันๆ แม้ว่าจะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนอยู่บ้าง แต่สุดท้ายแล้วผลที่ออกมาก็มักทำให้ทุกอย่างพังยับเยินเสียหายไปมากกว่าเดิมทุกครั้ง จนทำให้เขาเองไม่เป็นที่ยอมรับและต้อนรับในสังคม จนกระทั่ง เรย์ สามีของภรรยาเก่าของ แฮนค็อก จึงได้เสนอตัวจะช่วยแก้ไขภาพลักษณ์ที่เขาเป็นอยู่ เพื่อเป็นการตอบแทนจากการที่ได้รับการช่วยเหลือเอาไว้ จนทำให้เกิดเป็นเรื่องราวสุดวุ่นวายขึ้นมา

Hancock นั้นคือหนังที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังเบื่อหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในแบบเดิมๆ ที่ต้องเป็นคนดี ต้องช่วยเหลือคนอื่น กลายมาเป็นชายเร่ร่อนขี้เมา ที่ทำแต่เรื่องวุ่นวายจนคนเกลียดขี้หน้า ซึ่งก็เป็นการพลิกโฉมคำว่าฮีโร่ที่เรารู้จักกันไปเลย ซึ่งในส่วนอื่นๆ ของหนังก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ตามมาตรฐาน ทั้งฉากแอคชั่นที่ดูสนุก มีปมตัวละครที่น่าสนใจ แต่ที่น่าเสียดายหน่อยก็คือมันดันผสมกันแบบไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไรนัก โดยรวมก็ถือว่าดีที่ได้เห็นในมุมว่าถ้าคนธรรมดามีพลังพิเศษจะเป็นอย่างไร

7. Kick Ass (2010)

Dave เด็กหนุ่มลูสเซอร์ ที่อยากจะเป็นฮีโร่กับเขาบ้าง เลยจัดแจงตัดชุดในฐานะ “Kick Ass” เพื่อออกไปต่อสู้กับคนไม่ดีในสังคม โดยที่ตัวเองไม่มีความสามารถอะไร ก็เลยโดนยำกลับมาอยู่เสมอ จนกระทั่งเขาได้พบกับฮีโร่ศาลเตี้ยพ่อลูกอย่าง Big Daddy และ Hit Girl ที่ฝึกฝนความสามารถ เพื่อต่อสู่กับเหล่าร้ายอย่างจริงจัง เขาเลยได้มีโอกาสไปเข้าร่วม เพื่อต่อกรกับ แฟรงค์ ดี อามิโก้ และลูกชายคริส แก๊งมาเฟียที่ชั่วร้ายในนิวยอร์ค

Kick-Ass นั้นคือหนังสไตล์ฮีโร่อีกเรื่อง ที่อาจจะไม่ได้โดดเด่นในเรื่องพลังพิเศษเหนือมนุษย์อะไร แต่กลับเล่าเรื่องฮีโร่ในแบบติดดิน และมีความเป็นมนุษย์ที่อยากช่วยเหลือคนอื่นเป็นอย่างมาก ผ่านคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจแต่ละตัวในเรื่องที่กระจายบทได้ดีและมีมุมเด่นเป็นของตัวเอง นับเป็นจุดแข็งจากต้นฉบับงานเขียนของ Mark Millar จากค่าย Image Comics มากๆ ซึ่งใครที่คาดหวังความจัดใหญ่อลังการ และสเกลพลังจัดเต็มนั้น อาจจะไม่ได้อย่างที่หวัง และอาจต้องผายมือไปทางค่าย Marvel และ DC แทน

8. The League of Extraordinary Gentlemen

Allan Quatermain อดีตมือปราบฝีมือดี ที่เกษียณตัวเองไปแล้ว กลับต้องมารวบรวมทีมเหล่าคนที่มีพลังพิเศษกันอีกครั้ง ทั้งจาก มนุษย์อมตะ, มือปราบสุดเก๋า, แวมไพร์สาว, มนุษย์ล่องหน, โจรสลัด และมนุษย์พลังยักษ์ เพื่อมาเผชิญหน้ากับวายร้ายสุดโหดนามว่า Fantom ที่หวังก่อสงครามและความวุ่นวาย จนทำให้ทุกคนต้องมารวมพลังเพื่อจัดการเขา และนำความสงบกลับคืนมา

…

ผลงานที่ดัดแปลงมาหลวมๆ จากนักเขียนการ์ตูนชื่อดังอย่าง Alan Moore ที่มีผลงานดาร์คๆ อย่าง The Killing Joke และ Watchmen แต่กลับเรื่องนี้เน้นที่แฟนตาซีที่ไม่มืดหม่นเท่าไรนัก แต่ก็ได้บรรยากาศโกธิคๆ หน่อยด้วยความที่ย้อนยุคในสไตล์ยุโรป รวมถึงพลังของแต่ละคนก็ดูไม่ธรรมดาเลย แต่น่าเสียดายที่หนังอาจจะมีช่วงอืดๆ เยอะไปหน่อย กับการโชว์พลังที่ไม่มาก จนสุดท้ายก็กลายเป็นหนังแป้กในตลาดส่งท้าย Sean Connery ให้เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของชีวิตไป แต่ถึงอย่างไรก็นับว่าหนังมีแฟนคลับอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว