GhostinSchoolMovie_00

รวม 7 หนังสยองขวัญไทยสุดเฮี้ยน ที่เกี่ยวกับนักเรียน นักศึกษา

ถึงแม้ว่าหนังไทยส่วนมากจะยังวนเวียนอยู่กับหนังผีและหนังตลกมากมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ก็ไม่มีชาติไหนที่เข้าใจ Sense of Humor หรือมุขที่เข้ากับสังคมเรา และความสยองที่สร้างบรรยากาศชวนสยองได้จากสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมได้เหมือนหนังไทยเช่นกัน และฉากหลังที่มักถูกใช้บ่อยๆ ก็เห็นจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยนี่แหละ เพราะว่ามันสามารถใช้กลุ่มดาราวัยรุ่นหน้าใสเข้ามาเป็นตัวดำเนินเรื่องได้

ซึ่งสัปดาห์นี้เพื่อต้อนรับหนังผีในมหาวิทยาลัยอีกเรื่อง ที่เสมือนเป็นภาคต่อกลายๆ ของมหา’ลัย สยองขวัญ เพราะเป็นการหยิบเอาตำนานความสยองของแต่ละมหาวิทยาลัยมาถ่ายทอดในรูปแบบของหนังสั้นเป็นตอนๆ แม้ว่าในเรื่องก่อนหน้าอาจจะมีจุดบกพร่องในเรื่องการปรับบทให้ต่างจากเรื่องเล่าไปอยู่บ้าง แต่สำหรับเทอมสองสยองขวัญก็ยังนับว่าเป็นหนังที่หยิบเอาเรื่องสุดหลอนของแต่ละมหาวิทยาลัย 3 เรื่อง มาใช้ได้อย่างน่าดูไม่น้อย วันนี้เราเลยอยากพอไปย้อนดูหนังสยองไทย ที่มีฉากหลังเป็นโรงเรียนหรือมหาลัยกันสักหน่อยว่าจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง

4 แพร่ง – ยันต์สั่งตาย (2008) – Phobia

กลุ่มเด็กนักเรียนที่ชอบรังแกคนอื่นกลุ่มนึง ที่กลั่นแกล้งลูกของหมอผีจนทำให้เขาทนไม่ได้อีกต่อไป เลยสร้าง ยันต์สั่งตาย ขึ้นมา จนทำให้ใครที่ไปสบตากับยันต์ชิ้นนี้จะต้องเผชิญหน้ากับสยองและตายตกไปตามกัน พวกเขาจึงพยายามหนีสุดชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอดจากหายนะในครั้งนี้ แต่ดูเหมือนเวรกรรมจะตามทันพวกเขาอย่างรวดเร็วเหลือเกิน

อีกหนึ่งตอนของหนังผีไทยในตำนานอย่าง 4 แพร่ง ที่พูดถึงทีไร ก็มักจะได้รับการพูดถึงว่าเป็นตอนที่คนชอบน้อยที่สุดของหนังเรื่องนี้ แต่จริงๆ ส่วนตัวเองก็รู้สึกว่าหนังทำออกมาได้ค่อนข้างสนุกเลย ทั้งจังหวะที่รวดเร็วเดินหน้ากระชับแบบไม่มีให้พัก ความโหดแบบนอนสตอป ที่เหมือนติดสปีดจากที่เพิ่งไต่มาจากตอนแรก การอัดจังหวะเข้มข้นแบบไม่ยั้งมือ ก็ทำให้มันทำได้ค่อนข้างเดือดดี และวางได้ถูกตำแหน่งของ 4 แพร่งมากๆ200 

มหา’ลัย สยองขวัญ (2009) – Haunted University

หมวย นักศึกษาสาวที่เข้ามาฝึกงานในกรุงเทพด้วยการเข้าร่วมกับมูลนิธิ แต่แค่ในคืนแรกเธอเองก็ได้รับแจ้งให้ไปมหาลัยแห่งหนึ่งจนได้พบกับเรื่องราวชวนสยองกับศาลในห้องน้ำหญิง และต่อจากนั้นเธอก็ยังต้องเดินทางไปช่วยนักศึกษาหญิงอีกคน ที่ถูกรุ่นพี่แกล้งให้ไปเข้าในลิฟท์แดงสุดหลอนของมหาลัย และในวันต่อมาทีมของเธอก็ยังพบกับศพสาวนิรนามในน้ำ เลยทำให้ต้องส่งไปยังโรงพยาบาลใกล้ๆ จนกระทั่งเรื่องสุดท้ายที่ดูเหมือนมันจะเกิดขึ้นกับตัวเธอเอง

อีกหนึ่งหนังที่หยิบเอาตำนานหลอนของแต่ละมหาวิทยาลัยเอามาเล่าใหม่ ปรับเนื้อหาต่างๆ เข้าไป จนทำให้หลายๆ คนก็อาจจะบ่นกันอยู่ไม่น้อยว่าทำไมถึงเอาเรื่องในมหาลัยของพวกเขาไปเปลี่ยนเนื้อหาได้ขนาดนี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าในแง่ความหลอน ความน่ากลัวก็มีอยู่ไม่น้อย ทั้งการสร้างบรรยากาศต่างๆ ในแต่ละตอน และด้วยความที่เรื่องราว Original มันก็มีความขลังอยู่ไม่น้อย เลยทำให้ทั้ง 4 ตอนต่างก็มีความดีความชอบเป็นของตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่ค่อยตรงกับเรื่องที่เล่ากันมาสักเท่าไรก็ตาม

เด็กหอ (2006) – Dorm 

ชาตรี เด็กหนุ่มอายุ 12 ที่กำลังเข้าเรียน ม. 1 ในโรงเรียนประจำสายชลวิทยา เพราะดันไปรู้ความลับบางอย่างของพ่อเขา เลยทำให้พ่อเขาจึงพยายามส่งไปอยู่ที่ไกลๆ เพื่อไม่ต้องเกี่ยวข้องกันอีก เมื่อได้เข้ามาเรียนเขากลับปรับตัวได้ยาก เพราะไม่มีคนยอมรับ หรืออยากเป็นเพื่อนกับเขา จนกระทั่งเขาได้เจอกับวิเชียร เด็กหนุ่มที่อยู่ในสภาพคนไร้ตัวตนเหมือนกัน เลยเกิดเป็นมิตรภาพ ท่ามกลางเรื่องราวสุดหลอนจากเรื่องเล่าภายในโรงเรียน

หนังผีมิตรภาพแบบก้าวข้ามผ่านวัยอีกเรื่องของไทยที่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างดีในช่วงที่ออกฉาย ทั้งในแง่ของบรรยากาศลึกลับซับซ้อนภายในโรงเรียน เรื่องราวสุดหลอน ผสมผสานกับดราม่าชีวิตเด็กที่ต้องเรียนรู้และเติบโตขึ้นไปในอนาคต มันเลยออกมาเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเป็นอย่างดี ในส่วนเคมีดาราอย่าง แน็ก ชาลี และ ไมเคิล ศิรชัช ที่เป็นตัวเอกของเรื่องก็เข้ากันมาก หากจะพูดถึงหนังไทยเกี่ยวกับเพื่อนดีๆ สักเรื่องอาจจะต้องมีหนังอย่างเด็กหอติดไว้แน่ๆ

เพื่อนเฮี้ยน.. โรงเรียนหลอน (2015) – Thirteen Terrors

เมื่อทุกโรงเรียนต่างก็มีเรื่องราวและเรื่องเล่าสุดหลอนที่เคยเกิดขึ้น จนทำให้มีการเล่ากันมาแบบปากต่อปาก จนทำให้นักเรียนบางคน และบางกลุ่มนั้น ต้องเผชิญกับตำนาน และความลับที่มีโรงเรียนจนทำให้ยากที่จะลืม และที่แย่ไม่กว่านั้น พวกเขาอาจไม่เหลือชีวิตไปเล่าต่อด้วยซ้ำ

จะเรียกว่าเป็น Hormones เวอร์ชั่นหนังผีก็คงไม่ผิดนัก เพราะขนกันมาทั้งทีมนาดาว ที่ปรับโทนให้หลอนกันสุดฤทธิ์จากทีมผู้กำกับมากความสามารถ จนทำให้แต่ละตอนนั้นเต็มไปด้วยความน่าสนใจ น่าติดตาม และความน่ากลัวแบบสุดขีด นับตั้งแต่ตอนเปิดอย่าง วนิดา ที่ว่าด้วย เรื่องเล่า ถ้าใครเจอ หัวของวนิดาในช่องใต้โต๊ะ จะต้องตามหาหัวจริงๆ ของเธอให้เจอภายในสองวัน ไม่งั้นจะมีอันเป็นไป ก็ทำออกมาได้น่ากลัวเหลือเกิน แถมตอนสุดท้ายอย่างคืนสีน้ำเงิน ก็ยังไปตัดมาจากหนังที่ได้มีโอกาสไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน อย่าง “อนธการ” ด้วย เรียกว่าครบรสทั้งความคุณภาพและความน่ากลัวกันเลย

รับน้องสยองขวัญ (2005) – Scared

นักศีกษาเฟรชชีปีหนึ่งจากคณะนิเทศศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ต้องออกเดินทางไปรับน้องนอกสถานที่ แต่แล้วความซวยก็บังเกิดเมื่อรถบัสที่พวกเขาเดินทางมานั้นกลับเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางขณะกำลังข้ามสะพานไม้เก่าๆ จนทำให้หลายๆ คนต้องเสียชีวิตไปกับเหตุการณ์นี้ ทำให้คนที่เหลือจึงต้องพยายามเอาชีวิตรอดท่ามกลางป่าลึก ที่ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่าง หรือใครบางคนกำลังพยายามเอาชีวิตพวกเขาอยู่

อีกหนึ่งหนังไทยที่เล่นกับการเอาชีวิตรอดของกลุ่มนักศึกษาได้อย่างน่าสนใจ เพราะหนังสร้างปริศนาและชวนติดตามได้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง ว่าการตายของแต่ละคนที่เกิดขึ้นมันมาจากอะไรกันแน่ เพราะหลายอย่างก็ดูเหมือนอุบัติเหตุ เหมือนการกระทำจากบุคคล ไปจนถึงสิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆ ประกอบกับการตายสุดโหดที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีในสมัยนั้นเลย แถมหนังยังมีตอนจบที่น่าจดจำ จนทำให้แม้ว่าหนังจะผ่านไปนานแล้ว รับน้องสยองขวัญ ก็ยังเป็นหนังที่หลายคนจำได้ และยังพูดถึงกันอยู่เลย  

เด็กใหม่ (2018 – 2021)

แนนโน๊ะ เด็กสาวปริศนาที่เข้าไปเป็นนักเรียนใหม่ในโรงเรียนต่างๆ เพื่อที่จะสะท้อนความเลวร้ายของระบบ และผู้คนที่อยู่ในโรงเรียน ที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนต้องได้รับการลงทัณฑ์อย่างสาสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเอาไว้

ปรากฏการณ์ซีรี่ส์ไทยที่ทำให้ใครๆ ก็รู้จัก คิตตี้ ชิชา ในฐานะ แนนโน๊ะ ด้วยความที่บทเธอเปรียบเสมือนปีศาจร้ายที่เข้ามาลองใจมนุษย์ พร้อมกับเสียงหัวเราะอย่างสะใจทุกครั้งเมื่อได้เห็นเหยื่อได้รับผลจากการกระทำก็ทำให้เป็นที่น่าจดจำไม่ยากนัก อีกทั้งด้วยเนื้อหาที่เสียดสีสังคมไทยอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะในแวดวงระบบการศึกษาที่มีเรื่องให้เล่นอยู่เพียบ ประกอบกับงานศิลป์ดีๆ อย่างในซีซั่น 2 ก็ทำให้มันเป็นซีรี่ส์ไทยอีกเรื่องที่รู้สึกชอบอยู่ไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่าจะไปชอบประเด็นแก้แค้นแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันก็เถอะ

เทอมสองสยองขวัญ (2002)

อีกหนังผีในรั้วมหาวิทยาลัยเรื่องล่าสุด ที่เหมือนจะเป็นภาคต่อกลายๆ ของ มหา’ลัยสยองขวัญ ที่หยิบเอาตำนานผีดังของละมหาวิทยาลัยมาปรับและเล่าใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย จนทำให้ใครที่อยากเห็นตำนานเหล่านี้ ออกมาโลดแล่นในฉบับภาพยนตร์แล้ว ก็รอติดตามกันได้เลย โดยเรื่องย่อของทั้ง 3 เรื่องก็มีดังนี้ 

7.1 เชียร์ปีสุดท้าย

เมษา นักศึกษาปีหนึ่งของมหาลัยแห่งหนึ่ง ที่เข้ากิจกรรมเชียร์ที่เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นสำหรับน้องเฟรชชี่ในทุกๆ ปี โดยในระหว่างร่วมกิจกรรมนั้น เธอกลับได้ยินเสียง และเห็นอะไร “บางอย่าง” ในห้องเชียร์จนทำให้เธอต้องกรีดร้องออกมา จนทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเพื่อนๆ นั้นแย่ลง เพราะมองว่าเธอเป็นคนแปลก จากการที่มองเห็นวิญญาณที่คนอื่นมองไม่เห็นได้

7.2 เดอะซี

แทน นักศีกษาแพทย์ปีหนึ่ง มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ในหอพักในคืนวันสถาปนาของมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นคืนที่มีคำเล่าว่าเป็นวันที่วิญญาณจะออกมาเพ่นพ่านในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะ ผีนักศึกษาแพทย์ ที่จะกลับมานอนที่ เตียงซี ในทุกๆ ปี ซึ่งเตียงที่ว่าก็ดันของ แทน เพราะมีตัวอักษร C อยู่ที่เตียงของเขา จนทำให้ในค่ำคืนที่ควรจะสงบ เขากลับต้องพบกับความหลอนที่สุดในชีวิต

7.3 ตึกวิทย์เก่า

กอล์ฟ ชายหนุ่มที่จะเอาของมาส่งให้ มีน พี่สาวของเขาที่มหาวิทยาลัยในยามค่ำคืน แต่ความพังก็คือเขาดันเลี้ยวเข้าไปผิดตึก ไปเข้าที่ตึกวิทย์เก่าอันเป็นตำนานสยองขวัญที่เลื่องลือจนไม่มีใครกล้าเข้าไป เพราะเป็นตึกที่มีชุดครุยที่ไม่รู้ว่าเป็นของใครตั้งอยู่ และในทุกๆ ปีในช่วงจะจบการศึกษาและรับปริญญาก็ต้องมีคนตายอย่างเป็นปริศนาทุกครั้ง จนทำให้ กอล์ฟ ที่หลงเข้าไปแล้ว ต้องหาทางเอาชีวิตรอด ออกจากตึกนี้ไปให้ได้