11 หนังโคตรโดนครึ่งแรกปี 2022

ผ่านไปแล้วครึ่งทางของปี 2022 มีหนังดีๆมากมายจ่อคิวฉายโรง หรือออนแอร์ผ่านสตรีมมิ่งหลายๆเรื่องทำเงินเป็นกอบเป็นกำบางเรื่องได้ใจนักวิจารณ์ไปเต็มๆ ความชอบของแต่ละคนแตกต่างกันออกไปขั้นอยู่ที่เนื้อหาจะสื่อสารได้เข้าอกเข้าใจคนกลุ่มไหนมากกว่าแค่นั้น .

ภาพยนตร์ดีๆในครึ่งปีแรกมีงานดีๆเยอะแยะเต็มไปหมด ได้ดูได้ชมกันทุกสัปดาห์ ทั้งงานสากลหรืองานสเกลเอเชีย เมื่อสำรวจไล่เรียงหนังมากมายหลากหลายสไตล์ที่ได้ดูได้ชมผ่านหูผ่านตา เราพบว่ามีหนัง 11 เรื่องที่โคตรโดนใจเราไปเต็มๆ และมี Impact เมื่อได้ดูจบ บางเรื่องเป็นหนังนอกสายตาคนดูในไทย บางเรื่อง Message คมคาย จนเกิดกระแสปากต่อปากไปดูในโรง บางเรื่องเป็นหนังรางวัลคุณภาพ บางเรื่องก็ตรงกับชีวิตตัวเอง ส่วนจะมีเรื่องไหนเข้าตาบ้างไปเช็ครายชื่อกันได้เลย

1.Everything Everywhere All at Once

เอเวอลีน หวัง หญิงชาวจีน หญิงชาวจีนที่ตัดสินใจออกเดินทางมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในอเมริการ่วมกับสามี แต่เวลาผ่านไปชีวิตในฝันกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ธุรกิจร้านซักแห้งงที่ขาดทุนมานานหลายปี ชีวิตคู่กับสามี คี ฮุย ควน ที่แสนจืดชืด ความสัมพันธ์กับลูกสาว สเตฟานี่ ซู ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกัน การถูกกดดันจากผู้เป็นพ่อ รวมถึงสรรพากรสุดโหด ที่มาตามเก็บภาษีและขู่จะยึดร้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู๋ๆ เธอ ก็ได้มาเจอกับ ตัวตนที่อยู่ในหลากหลายชีวิต ณ พหุจักรวาล โดยแต่ละตัวตนต่างมีเป้าหมายในชีวิตแตกต่างกัน มีเส้นทางชีวิตที่เป็นทั้งคนดีและคนชั่ว และยังมีพลังที่เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อการมาอยู่ในโลกประหลาดนี้ได้ปรากฏศัตรูลึกลับที่หมายจะกำจัดตัวเธอในจักรภพอื่น ๆ ให้สิ้นซาก จนในที่สุด เอเวอลีนต้องยอมเผชิญหน้ากับสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

สำหรับ Everything Everywhere All at Once เป็นหนังคอมเมดี้ที่ดูง่ายมากๆ สอดแทรกวัฒนธรรมความเป็นเอเชียเอาไว้ได้มีความเป็นสากล หน้าหนังไม่ใช่หนังฮีโร่แบบที่หลายๆคนเข้าใจ สิ่งที่สื่อสารออกไปจะออกไปในทางชีวิตปัญหาความไม่เข้าใจกันของคนในครอบครัวที่มุมมองช่วงชีวิตความคาดหวังแตกต่างกัน เราคาดหวังว่าจะเป็นอย่างโน่นอย่างนี่แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่หวัง พล็อตเรื่องราวได้สนุกคาระวหนังดังมากมาย ถ้าชอบจะชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบดูไม่เข้าใจคงงงได้ หนังจึงเหมาะกับคนดูในสไตล์หนังตลก หนังนอกกระแส ถ้าเป็นคอหนังทั่วไปอาจไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมัลติเวิร์ส

2.The Worst Person In The World

จูลี่นักเรียนแพทย์ที่ยังตัดสินใจกับอนาคตไม่ได้ พบกับเรื่องที่ทำให้หัวใจไม่สงบ เมื่อเธอต้องเลือกระหว่าง แอคเซลหนุ่มอายุมาก นักเขียนการ์ตูนชื่อดังสุดเท่ กับ อีวิน หนุ่มน่ารักสุดซอฟ อารมณ์ดี แล้วครั้งนี้หัวใจเธอจะสงบที่ใคร


สำหรับ The Worst Person In The World เป็นหนังรักรอมคอม Coming Of Age ที่เนื้อหาตรงใจคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน กระเทาะเปลือกมุมมองผู้หญิงที่แสว่งหาความรักผู้ชายที่ใช่มาครองในชีวิต ภายใต้ความสัมพันธ์ที่จริงจังสอดแทรกปัญหาชีวิตรักที่ไม่ได้สวยงามมุมมองคนช่วงชีวิตทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา หนังดูเข้มข้นแต่สนุกสนานมีความตลก ดราม่า ตึงเครียดจนปวดตับกับความรัก โรแมนติก พาคนดูไปสำรวจความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นและสัมผัสถึงความน่ากลัวของความไม่แน่นอนในชีวิต ไม่เว้นแม้แต่เรื่องราวของการค้นหาตัวตน ผสมผสานกับเรื่องราวของความต่างระหว่างวัยและการผันเปลี่ยนของสังคมได้อย่างลงตัว

3.Broker

ซังฮยอน เจ้าของร้านซักรีดที่เป็นอาสาสมัครทำงานให้โบสถ์ใกล้บ้าน ใครๆ ต่างก็มองว่าเขาเป็นคนใจบุญ แต่ลับหลังนั้นเขาและ ดงซู ลูกน้องคนสนิทกลับขโมยเด็กจากกล่องทารก ไปขายต่อในตลาดมืด (กล่องนี้นั้นโบสถ์ทำไว้เพื่อให้พ่อแม่นำลูกทารกที่ตนไม่พร้อมเลี้ยงดูมาวางไว้) ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีแทบทุกครั้ง จนกระทั่ง โซยอง คุณแม่วัยสาวคนหนึ่งดันเปลี่ยนใจกลับมาเอาลูกน้อยของเธอคืน ซังฮยอนและดงซูจึงต้องพยายามโน้มน้าวให้หญิงสาวนั้นเปลี่ยนใจ ในขณะเดียวกันตำรวจหญิงสองคน ซูจิน และ อี ก็กำลังสะกดรอยตามแก๊งค้าเด็กและหมายจะจับกุมซังฮยอนให้ได้คาหนังคาเขา!


สำหรับ Broker นั้นเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังของ Hirokazu Koreeda ที่มักพาคนดูไปสำรวจถึงเบื้องลึกของจิตใจมนุษย์ ก่อนที่จะลากคนดูมายำด้วยความเศร้า หดหู่กับเนื้อแท้บางอย่างอยู่เสมอ ซึ่งกับเรื่องนี้ เรามองว่ามันเป็นมุมที่มีความซอฟ และปลอบปะโลมจิตใจมากกว่า แม้ว่าจะมีความเจ็บปวดแฝงอยู่ก็ตาม แต่ในบางช่วงมันก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นไปกับคำว่าครอบครัวได้อย่างบอกไม่ถูก

4.X

การกลับมาของคนทำหนังผีของ Ti West ผลงานใหม่ในรอบ 10 ปี หยิบไอเดียหนังสแลชเชอร์ (หนังไล่เชือดไล่ฆ่า) มาผสมผสานกับหนังโป๊ เรื่องราวที่เกิดในเท็กซัสปี 1979 เจ้าของเป็นสามีภรรยามีอายุ แต่เมื่อกองถ่ายหนังโป๊ที่มีผู้กำกับและคนเขียนบทเป็นคู่รักพร้อมนักแสดงและทีมงานได้เข้าไปพัก แอบถ่ายทำหนังโป๊ฮาร์ดคอร์ในบ้าน และถูกเจ้าของบ้านจับได้ ความสยดสยองแบบสโลวเบิร์นก็เกิดขึ้น

สำหรับ X นี่คือสยองขวัญต้นทุนต่ำที่พล็อตเรื่องโคตรมันส์ แถมฉลาดมากในการสร้างเรื่องราวและหยิบจับ 2 สิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้มาอยู่ในเรื่องเดียว ความระทึกขวัญและหนังโป๊ ผัวเมียแก่คลั่งศาสนาแต่ตึกดึกมีเพศสัมพันธ์กันสนุก ส่วนคนอีกกลุ่มมาใช้สถานที่โดยไม่รู้เลยว่ามีความผิดปกติอะไรบ้างอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขา กลายเป็นเรื่องราวที่โดนใจผู้ชมในอเมริกา ที่ทำพล็อตแหวกแนวฉีกขนบธรรมเนียนการสร้างภาพยนตร์สไตล์นี้ไปเต็มๆ

5.The Batman

สองปีของการออกท้องที่ในฐานะแบทแมน และสร้างความหวาดกลัวเข้าสู่จิตใจของอาชญากร ได้ทำให้บรูซ เวย์น ถลำเข้าสู่ด้านเงามืดของเมืองก็อทแธม เมื่อมีพันธมิตรไม่กี่คนที่ไว้ใจได้ ซึ่งในจำนวนนั้นก็คืออัลเฟร็ด เพนนีเวิร์ธ กับผู้หมวดเจมส์ กอร์ดอน ท่ามกลางเครือข่ายเจ้าหน้าที่และบุคคลระดับสูงที่คอรัปชั่นของเมือง นักปราบอธรรมผู้ฉายเดี่ยวได้สร้างตัวเองเป็นตัวแทนของการล้างแค้นหนึ่งเดียวในหมู่พี่น้องประชาชนในเมือง

สำหรับ The Batman กลายเป็นหนังฮีโร่ที่มาด้วยรสชาติอารมณ์ความรู้สึกที่แปลกใหม่ เหมือนหนังจะมาโดยโทนที่ดาร์คแล้วเล่าให้อยู่ในโทนสืบสวนสอบสวน ภาพของหนังจึงค่อนข่้างไม่เหมือนอัศวินรัตติกาลแบบก่อนๆ หน้าหนังทำได้สนุกเติมเต็มเรื่องราวที่ไม่เหมือนมีหนังฮีโร่เรื่องไหนทำมาก่อนของค่าย DC มีความเป็นคนเจ็บปวดเป็นจับต้องได้ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ยิ่งหนังเสียดสีเรื่องราวความเหลื่อมล้ำเรื่องชนชั้น นักการเมืองเลวๆดูจะเป็นประเด็นที่จับต้องได้ผู้ชมมากมายไม่ต้องไปตีความอะไรเยอะ หนังดูได้ทุกกลุ่มเพียงแต่ฉากแอ็คชั่นไม่ได้เยอะมากเน้นเรื่องราวแบบหนังยุค 70 ที่ทำออกมาประยุกต์กับเนื้อหาโลกยุคใหม่ที่ได้ลงตัวน่าสนใจมาก

6.Nightmare Alley

หนังดัดแปลงมาจากนิยายใของ วิลเลี่ยม ลินด์เซย์ เกรชแฮม เรื่องราวในปี 1946 นักต้มตุ๋นหนุ่มทรงเสน่ห์ผู้ตกอับอย่างสแตนตัน คาร์ไลล์ ผู้กำลังเตรียมแผนการครั้งใหม่ในการต้มตุ๋นมหาเศรษฐีสุดอันตราย โดยมีความช่วยเหลือจากจิตแพทย์หญิงลึกลับ ที่อาจจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจและอาจนำภัยครั้งยิ่งใหญ่มาสู่ชีวิตของเขา

สำหรับ Nightmare Alley จัดเป็นหนังจิตวิทยาทริลเลอร์ที่สนุกมาก พล็อตเรื่องนำประเด็นการหลอกหลวงของกลุ่มคน 2 อาชีพที่หากินในสไตล์ที่แตกต่างกันมาเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อผลประโยชน์หลอกใช้อีกฝ่ายเป็นเครื่องมือ หนังค่อยๆเล่าเรื่องได้เหนือชั้นกระเทาะเปลือกทัศนคติตัวละคร คนที่ชอบหนังที่มาในสไตล์ซับซ้อนบทหนังเล่นได้มีชั้นเชิง แถมชำแหละความเลวร้ายของผู้คนที่ไม่ว่ายุคสมัยไหนอาชีพไหนก็ทำเพื่อตัวเองและเหยียดอีกฝ่าย เป็นหนังย้อนยุคที่บทหนังตื่นเต้นตลอดเวลาสะกดคนดูได้อยู่หมัด คอหนังที่ชอบสไตล์ย้อนยุค งานภาพสวยๆ บทหนังที่มีชั้นเชิงให้คิดตามน่าจะเทใจให้หนังเรื่องนี้ไปเต็มๆ

7.Cha Cha Real Smooth

แอนดรูว์ หนุ่มที่เรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ทำงานอยู่ร้านฟาสต์ฟู้ด กับได้โอกาสมาเป็นดีเจและเอนเตอร์เทนเนอร์ในงานพิธีมิสซาบาร์บ ของชาวยิว และที่นั่นทำให้เขาได้พบกับ โดมิโน คุณแม่ยังสาวที่มาพร้อมกับลูกติดของเธอ ที่มีภาวะโรคออทิสติก แม้ว่าเขาใจรู้สึกตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่ความสัมพันธ์มันไม่ได้ง่าย เพราะปมความรักของเขาที่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยประสบความสำเร็จเลยสักครั้งเดียว

สำหรับหนังเรื่องนี้พล็อตเรื่องโดนใจคนจบใหม่ไปเต็มๆ เราจะเลือกทำอะไรดีละ ในเมื่อเป้าหมายชีวิตก็ไม่มี มันเลยต้องไปลองไปเรียนรู้ เพียงแต่ว่าการเป็นคนเริ่มต้นวัยทำงานมันไม่เคยมีอะไรที่ง่ายเลย นี่คือวัยที่กำลังสร้างตัวเอง ที่ต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ ไหนจะเป็นความจริงที่โหดร้ายที่ไม่มีพื้นที่ให้ได้ตามหาความฝันของตัวเอง ไม่มีอิสระเพราะโดนสังคมกดทับอีก หนังถูกฉาบหน้าไว้ด้วยความเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่เนื้อหาเรียบง่ายอ่อนโยนมากๆ

8.Top Gun Maverick

หลังจากรับราชการเป็นนักบินระดับท็อปของกองทัพเรือมานานกว่า 30 ปี พีท ‘มาเวอริค’ มิทเชลล์ กลับมาสู่ที่ซึ่งเหมาะสมกับเขา เขากลับมาเป็นนักบินทดสอบผู้กล้าหาญและหลีกหนีจากความก้าวหน้าทางการงาน เขากลับมาฝึกหน่วยท็อปกันเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในรูปแบบที่ไม่เคยมีนักบินที่ยังมีชีวิตอยู่เคยเห็นมาก่อน มาเวอริค ต้องเผชิญหน้ากับ เรือโทแบรดลีย์ แบรดชอว์ หรือ “รูสเตอร์” ลูกชายของ เรือโทนิค แบรดชอว์ หรือ “กูส” เพื่อนของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาต้องพบกับอนาคตที่ไม่แน่นอนและอดีตที่ตามหลอกหลอน มาเวอริคต้องเผชิญกับความกลัวที่ฝังลึกอยู่ และปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้ร่วมบินต้องเสียสละอย่างที่สุด

สำหรับ Top Gun Maverick น่าจะเป็นหนังระดับคุณภาพของ Top Cruise ที่เข้าใกล้คำว่าสมจริงมากที่สุดทำให้การชมหนังเรื่องนี้มันพาคนดูทะเยอทะยานไปยนเวหาจริงๆแบบที่ดูแบบสตรีมมิ่งให้ไม่ได้ เสียงเครื่องบินบรรยากาศบนฟากฟ้ามันสุดยอด หนังเหมาะกับคนดูทุกเพศทุกวัย ไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนหนังสายแมสหรือสายอินดี้ พล็อตหนังธรรมดา แต่เรื่องราวความตื่นเต้นบนเครื่องบินรบ F18 ที่นักแสดงได้ไปมีส่วนร่วมมันสะกดคนดูเฮลั่นโรงโดยที่เราไม่ต้องคาดเดากับเรื่องราวอะไรเลย หนังมาแบบเอนเตอร์เทนคนดูโดยเฉพาะ

9.It’s a Summer Film

เด็กหญิงมัธยมปลายผู้หลงไหลในหนังซามูไร และ หนังย้อนยุคตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แต่เธอกลับไม่มีโอกาสที่จะได้สร้างหนังซามูไรที่โรงเรียนของเธอเพราะชมรมหนังที่เธออยู่สนใจทำแค่หนังแนวโรแมนติกดราม่ามากกว่า วันหนึ่งเท้าเปล่าได้พบกับรินทาโร่ เด็กหนุ่มปริศนาผู้ที่เหมาะสมตามอุดมคติกับบทซามูไรตัวเอกของหนังที่เธอจะสร้าง เท้าเปล่ากับเพื่อนสนิทของเธอสองคน โฟมว่ายน้ำ(ฉายา) และ บลูฮาวาย(ฉายา) ก็ได้ชักชวนรินทาโร่มาเป็นพระเอกในหนัง อีกทั้งเธอยังรวบรวมทีมงานและนักแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ทว่าระหว่างการถ่ายทำนั้นเท้าเปล่าได้ค้นพบว่ารินทาโร่เป็นผู้เดินทางข้ามเวลา!

สำหรับ It’s a Summer Film เป็นหนังวัยรุ่นที่คงจะโดนใจคนทำหนังไปเต็มๆ การเป็นทีมงานสร้างหนังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่งานที่สนุก หนังจึงเจาะลึกการทำงานของคนเบื้องหลังที่ฝันอยากทำหนัง งบไม่ได้เยอะ ทำเพราะใจรักล้วนๆ ภาพหนังจึงดูสนุกเหนื่อยล้าระหว่างทางการ แต่ในเวลาเดียวกันหนังก็เปิดพื้นที่ให้เราได้คิดว่าชีวิตเราต้องการอะไรในเมื่อเลือกจะทำสิ่งที่รักที่ชอบสิ่งทีี่ได้กลับมาคือความสุขที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้ คนที่มุ่งมั่นเพื่อความฝันมากกว่าจะเดินตามกระแสสังคมคงมีแรงใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป คนทำหนังคนที่ใช้ชีวิตเพื่อความฝันนี่คือหนังที่ควรค่าแก่การดูเลย

10.The Northman

เจ้าชายแอมเล็ธ ที่โชคชะตาชีวิตแปรผันอย่างกะทันหัน หลังจากที่ เฟียล์เนอร์ ผู้มีศักดิ์เป็นท่านอาแท้ ๆ ของเขาได้ทำการสังหารและลอบปลงพระชมน์พระบิดาต่อหน้าต่อหน้าเขา พร้อมกับแย่งบัลลังก์ขึ้นเรืองอำนาจแทน ทำให้เขาต้องจรลีหนีไปจากแผ่นดินและตั้งปฎิณาณตนว่าจะกลับมาแก้แค้นให้พ่อและช่วยแม่ให้จงได้

สำหรับ The Northman เป็นหนังดราม่าล้างแค้นที่ต้องดูแล้วทำความเข้าใจ เพราะไม่ใช่งานที่เล่าเรื่องแบบง่ายๆ แต่หนังปูเรื่องราวความแค้นความหลังตัวละครที่ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากบทกวี มีความไซไฟ ผสมผสานกับอารมณ์หนังย้อนยุคที่มีความละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าดูหนังเรื่องนี้แล้วเข้าใจคือจะชอบไปเลย แต่ถ้าดูแล้วไม่ชอบคืองงและปล่อยผ่าน พล็อตเรื่องนำเสนอได้แบบละเมียดละไม แถมลูกเล่นที่หนังใส่ลงไปก็ชั้นเชิงเหลือร้าย คอหนังทั่วไปจึงไม่ค่อยเหมาะกับการดูหนังเรื่องนี้ เพราะต้องใช้ความเข้าใจความอดทนที่ค่อนข้างสูงมากๆ

11.Elvis


ภาพยนตร์จะพาไปสำรวจชีวิตและดนตรีของ เอลวิส เพรสลีย์ ผ่านมิติความสัมพันธ์แสนซับซ้อนกับผู้จัดการนิสัยลึกลับ ผู้พันทอม ปาร์คเกอร์ เรื่องราวจะเจาะลึกไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง เพรสลีย์ และปาร์คเกอร์ ตลอดเวลา 20 ปี ตั้งแต่ เพรสลีย์ เริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปจนถึงตอนที่มีแฟนคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางพื้นเพเบื้องหลังของวัฒนธรรมที่กำลังพัฒนาและการสูญเสียความไร้เดียงสาในอเมริกา ในขณะเดียวกันก็มีอีกหนึ่งบุคคลสำคัญและมีอิทธิพลต่อชีวิตของ เอลวิส อย่างมาก นั่นก็คือ พริสซิลลา เพรสลีย

สำหรับ Elvis เป็นหนังชีวประวัติที่เล่าเรื่องได้แปลกใหม่มีเอกลักษณ์ชัดเจน ไม่เน้นที่มุมมองตัวเอง แต่เน้นไปที่คนคุ้นเคย จึงมีเนื้อหาที่ไม่เหมือนผลงานหนังนักดนตรีคนอื่นๆ ที่สำคัญผู้กำกับ Baz Lurman คือนักทำหนังมิวสิคัลที่ฝีมือดีหาตัวจับได้ยาก ปรุงแต่งเรื่องราวที่โดดเด่นของ Elvis บทแผ่นฟิล์มได้มีเสน่ห์ ดึงศักยภาพนักแสดงออกมาได้เจ๋ง ทั้งที่ดารานำแทบไม่มีใครรู้จักมาก่อน ปูพล็อตราชาร็อกแอนด์โรลให้คนทั่วไปเข้าใจได้ไม่ยาก