ทวนความจำ Bond 4 ภาค ก่อนไปดู No Time To Die
สัปดาห์นี้แล้ว ที่เราจะได้ดูหนังที่หลายคนรอคอยแต่เลื่อนกันมาข้ามปีอย่าง Bond 25: No Time To Die กันสักที นับว่าเป็นอีกหนังที่แอดมินตั้งหน้าตั้งตารอสุดๆ ในฐานะของแฟนพยัคฆ์ร้าย 007 กันเลย ซึ่งความพิเศษของภาคนี้ก็คือจะเป็นภาคที่ส่งท้าย Daniel Craig ในบท James Bond ด้วยอายุที่มากขึ้นแต่ก็ทำหน้าที่สวมบทบาทนี้ได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด แม้ว่าจะโดนข้อครหามาตั้งแต่ช่วงเลือกนักแสดง แต่จากทุกภาคที่ผ่านมาจนถึงภาคนี้ก็ต้องบอกว่าคิดไม่ผิดจริงๆ
โดยเสน่ห์อีกอย่างของ Bond ชุดนี้นั้นก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องความต่อเนื่องของเรื่องราว ตั้งแต่ Casino Royale > Quantum of Solace > Skyfall > Spectre ที่มีการร้อยเรียงกันมาโดยตลอด อย่างตัวร้ายใน Casino Royale ก็ยังคงถูกพูดถึงมาในทุกภาคหลังจากนั้น การที่จะดูภาคนี้ให้รู้เรื่องและเต็มอิ่มนั้น จึงต้องอาศัยการทบทวนความจำกันสักหน่อย ซึ่งหากใครที่ไม่มีเวลาไปไล่ตามเก็บทั้ง 4 ภาคก่อนหน้า ทาง #โกดังหนัง เองก็ขออาสาสรุปเนื้อเรื่องมาให้แบบละเอียดยิบ และมีชื่อของทุกตัวละครสำคัญที่โผล่มาอย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้ผู้อ่านพลาดประเด็นสำคัญอะไรไป และจะได้ดูภาค No Time to Die ได้อย่างเต็มอิ่มขึ้น ใครที่ลืมๆ ไปแล้วก็ขอเชิญไล่อ่านกันได้เลย
Casino Royale (2006)
James Bond สายลับวัย 38 ปี ที่ทำหน้าที่รับใช้ชาติได้อย่างดีมาโดยตลอดจนได้เข้าตาหน่วยข่าวกรองอย่าง MI6 และได้รับมอบหมายภารกิจให้กำจัด Dryden หนอนบ่อนไส้ขององค์กร MI6 จากการที่เขาขายข้อมูลลับให้กับองค์กรก่อการร้าย เมื่อภารกิจสำเร็จ Bond จึงได้รับรหัสสายลับ 007 (Double-Os Seven) มาใช้
Bond ได้รับภารกิจต่อไปที่ Madagascar ในการไปตามจับนักวางระเบิดนามว่า Mollaka ด้วยความที่ลูกน้องทำงานพลาดเขาเลยต้องเปิดฉากไล่ล่าสุดเดือด จนเมื่อตามถึงตัวไปได้ถึงสถานทูตและโดนเจ้าหน้าที่รุมล้อมเขาก็เลยทำการสังหาร Mollaka ซะ ซึ่งเมื่อเขาหลบหนีออกมาได้และตรวจสอบของในกระเป๋าของ Mollaka ก็พบมือถือข้อความปริศนาล่าสุดว่า Ellipsis จึงรีบกลับไปยังบ้านของ M ที่อังกฤษเพื่อตรวจสอบที่มาของข้อความนั้น และพบว่ามันมาจาก The Ocean Club ในหมู่เกาะบาฮาบาส เขาจึงได้รีบเดินทางเพื่อไปหาเบาะแสต่อที่นั่น ในขณะที่ Le Chiffre นักฟอกเงินชื่อดัง ก็เพิ่งเห็นข่าวของ Bond พอดี
เมื่อมาถึง Bond ได้ไปที่ Clubhouse เพื่อสืบหาเบาะแสทันทีจนรู้ว่าตัวผู้ส่งข้อความนั้น คือนักพนันนามว่า Alex Dimitrios เมื่อตกกลางคืนเขาเลยเข้าถึงตัว Alex ด้วยการดวลโป๊กเกอร์จนได้รถ Aston Martin มาครอง อีกทั้งยังได้ตัวแฟนสาวของ Alex มาด้วย ซึ่งในขณะนัวเนียกันนั้น Alex ก็ได้โทรมาบอกแฟนสาวเขาว่ากำลังจะเดินทางไปยัง Miami ต่อ Bond จึงรีบตามไป แต่กลับโดนจับได้เสียก่อนเลยฆ่า Alex ซะ และพบว่าในโทรศัพท์ก็มีข้อความปริศนาว่า Ellipsis เหมือนกัน จากนั้นเขาจึงรีบโทรออกไปยังเบอร์ล่าสุดและได้พบกับมือวางระเบิดอีกคน เลยได้ติดตามไปจนยับยั้งเหตุได้ทันพอดี พร้อมทั้งดัดหลังคนร้ายให้ตายอนาถ
หลังจากนั้น M ได้นักพบกับ Bond อีกครั้ง และพบว่าแฟนสาวของ Alex โดนเก็บไปแล้ว ซึ่ง M ได้บอกกับ Bond ถึงเรื่องของ Le Chiffre ว่ากำลังเข้าตาจน จากการที่เอาเงินทุนที่จะไปฟอกมาเล่นหุ้นจนเจ๊งหมด จึงต้องมีการจัดพนันโป๊กเกอร์ครั้งใหญ่ขึ้นมาที่ Casino Royale เพื่อหาเงินไปคืนลูกค้า M จึงส่ง Bond ที่มีทักษะโป๊กเกอร์ไปเข้าร่วม เพื่อหวังไม่ให้แผนระดมเงินของ Le Chiffre สำเร็จ ซึ่งในระหว่างเดินทางไปร่วมโต๊ะพนัน เขาก็ได้พบกับ Vesper Lynd เจ้าหน้าที่บัญชีของกระทรวงการคลังอังกฤษที่มาให้ Bond ยืมเงิน 10 ล้าน เพื่อเข้าวงพนัน
เมื่อเดินทางมาถึงทีมงานของ MI6 ก็ได้เตรียมรถหรูและอุปกรณ์สุดล้ำมาให้ Bond อย่างเสร็จสรรพ Bond และ Vesper จึงได้ไปพบกับ Rene Mathis สายลับอิตาลีที่พยายามลดอำนาจของ Le Chiffre อยู่ เพื่อเป็นการเคลียร์ทางให้ Bond ทำงานง่ายขึ้นโดยไม่มีอิทธิพลตำรวจมายุ่งเกี่ยว จนตกดึกแล้วเกมแรกก็ได้เริ่มขึ้น โดยที่ Bond เชื่อว่าสามารถจับไต๋ Le Chiffre ได้แล้ว จนเมื่อเกมได้ถึงช่วงพัก Le Chiffre ก็ได้พบกับนายพล Obanno ลูกค้ารายใหญ่ของเขาที่จะมาทวงเงินคืน และจับแฟนสาวของเขาเอาไว้ ส่วน Bond เองก็ดันโดน Obanno และลูกน้องจับพิรุธได้เลยเกิดการต่อสู้กันและ Bond ก็เป็นฝ่ายชนะ ส่วน Le Chiffre ก็รับปากว่าจะหาเงินมาคืนได้ทันภายในพรุ่งนี้เลยรอดออกมาได้ จากนั้นทั้ง Bond และ Le Chiffre ก็ได้กลับไปเล่นโป๊กเกอร์กันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในคืนนั้น Bond ได้กลับมาปลอบปะโลมใจ Vesper ที่เพิ่งผ่านประสบการณ์เห็นคนตายมาหมาดๆ จึงเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่
ในช่วงเช้า Mathis นั้นได้จัดการศพของ Obanno และลูกน้องไปไว้ท้ายรถของลูกน้อง Le Chiffre จนเข้าสู่การแข่งโป๊กเกอร์อีกครั้งและ Bond เป็นฝ่ายพลาดท่า เพราะสัญญาณของ Le Chiffre นั้นเป็นการลักไก่ปลอมจนทำให้ Bond ต้องสูญเงินทั้งหมด 10 ล้านจากที่เคยได้รับมา ทำให้ Bond ต้องกลับไปขอเงินจาก Vesper อีก 5 ล้านเพื่อกลับไปแก้มือ แต่ Vesper กลับไม่ยอม จึงตัดสินใจเดินไปฆ่า Le Chiffre ให้จบเรื่องเสียเลย แต่ในระหว่างนั้นเขากลับได้ผู้เล่นร่วมโต๊ะที่เผยตัวมาว่าเป็นสายลับ CIA มาห้ามเอาไว้ พร้อมทั้งมอบเงินให้ 10 ล้านเพื่อให้ Bond ลงสนามเล่นต่อ แลกกับให้ CIA เป็นคนจับ Le Chiffre เอง ทำให้ Bond ได้กลับมาร่วมโต๊ะอีกครั้ง แต่แล้ว Bond เองกลับโดนวางยาลงในเครื่องดื่มของเขา จนทำให้ Bond ต้องออกจากการแข่งและทำการรักษาตัวเองจากเครื่องมือในรถของเขา ในวินาทีความเป็นความตายนั้น ก็ได้ Vesper เข้ามาช่วยให้เขารอดกลับมาได้ จึงได้กลับมาที่โต๊ะเพื่อแข่งต่อ จนเมื่อจังหวะสุดท้ายที่ทุกคนออลอินกันหมดโต๊ะ รวมถึงตัว Bond เองก็ทุ่มหมดตัว ซึ่งผลออกมา Bond ก็เป็นฝ่ายชนะและได้เงินทั้งหมดไป
ระหว่างที่ Vesper ขอตัวกลับห้อง Bond กลับเริ่มเอะใจถึงความไม่ชอบมาพากลของ Mathis จึงออกมาและเห็น Vesper ถูกจับตัวขึ้นรถไปพอดี Bond จึงรีบซิ่งดตามไป แต่กลับพบ Vesper นอนอยู่กลางถนน จนเขาเองต้องหักหลบจนรถคว่ำบาดเจ็บสาหัส ทั้งคู่เลยถูก Le Chiffre จับตัวไปได้ จนทำให้ Bond นั้นถูกทรมานด้วยเอาปมเชือกฟาดไข่ไม่หยุด เพื่อให้บอกรหัสบัญชีเงินที่เพิ่งชนะมาได้ Le Chiffre จะได้เอาไปจ่ายหนี้ แต่สุดท้ายแล้ว Mr. White เจ้านายของ Le Chiffre กลับมายิง Le Chiffre ทิ้งเสียเอง แต่กลับไว้ชีวิต Bond กับ Vesper ให้รอดมาได้ เมื่อตืนขึ้นมานั้นเขาแจ้งให้หน่วยนำตัว Mathis ไปสอบสวนในทันทีจากที่ Le Chiffre บอกเอาไว้ว่าเขามีเอี่ยวในเรื่องนี้ จากนั้น Bond จึงทำการโอนเงินโดยให้ Vesper นั้นเป็นคนกดรหัสซึ่งเป็นชื่อของตัวเอง จนทั้งคู่ผูกพันกันมากยิ่งขึ้น
Bond และ Vesper ได้หนีไปอยู่ด้วยกันที่ Venice, Italy ทั้งคู่อยู่กันอย่างมีความสุขจนถึงขนาดที่ Bond ส่ง Email ขอลาออกไปยังหน่วย MI6 เพราะหวังจะใช้ชีวิตสงบสุขร่วมกัน Vesper แต่แล้วช่วงเวลาดีๆ ก็เหมือนจะอยู่ได้ไม่นาน เมื่อวันหนึ่ง Vesper บอก Bond ว่าเธอต้องออกไปทำธุระที่ธนาคาร แต่ Bond กลับได้รับสายจาก M ว่ากระทรวงการคลังอังกฤษกลับยังไม่ได้รับเงินคืน และเงินในบัญชีกำลังถูกถอนออกไป โดยที่โทรศัพท์ที่ Vesper ลืมเอาไว้นั้นกลับมีข้อความจากคนที่ชื่อ Getter ส่งมาเพื่อทำการนัดพบ Bond จึงรีบตามออกไปหา Vesper ในทันที และได้พบกับ Vesper กำลังส่งเงินให้กับชายที่ชื่อว่า Getter จนเกิดการปะทะกันขึ้น จนตึกถล่มลงมา Bond ได้กวาดล้างแก๊งของ Getter จนหมด โดยที่ Vesper ยังติดอยู่ในลิฟท์ที่กำลังจะจมน้ำ Bond ได้พยายามช่วยอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้จน Vesper จมน้ำตายไป
หลังเหตุการณ์นี้ M ได้โทรมาบอก Bond ว่า แท้จริงแล้ว Vesper มีคนรักอยู่แล้ว แต่คนรักโดนจับตัวไป พร้อมทั้งให้ Vesper ทำภารกิจนี้ไม่เช่นนั้นคนรักเขาจะตาย แต่เธอเองก็ตกหลุมรัก Bond ไปแล้วเช่นกัน ก่อนหน้านี้จึงต่อรองกับ Mr. White ให้ไว้ชีวิตของ Bond รวมถึงแอบทิ้งมือถือเอาไว้เพื่อให้ Bond นั้นตามเธอได้ อีกทั้งยังส่งต่อเบาะแสของ Mr. White ให้อีกแม้ว่าเธอจะสละชีวิตไปแล้ว จนทำให้ Bond มาออกตามล่าตัว Mr. White ที่เขาเชื่อว่าเป็นคนบงการทุกอย่าง
Quantum of Solace (2006)
หนังดำเนินเหตุการณ์ต่อจากภาค Casino Royale เมื่อ Bond ได้จับตัว Mr. White มาสอบสวนต่อ แต่ในระหว่างทางกลับโดนตามล่า แต่ Bond ก็เอาตัวรอดมาได้ เมื่อได้คุยกับ M เขาได้รับข่าวการตายของแฟนหนุ่มของ Vesper แล้วถึงได้พบว่าเป็นตัวปลอม อีกทั้งการสอบปากคำ Mr. White ก็พบว่ามีองค์กรสายลับเบื้องหลังจนาดใหญ่อยู่อีก แต่ทาง MI6 กลับไม่เคยรับรู้เลย ซึ่งในระหว่างสอบสวนนั้นก็กลับมี Mitchell สายลับอีกฝั่งมาแฝงตัวอยู่ และช่วยให้ Mr. White หลบหนี จนทำให้ Bond ต้องตามไล่ล่า และทำการสังหาร Mitchell ลงได้สำเร็จ แต่ Mr. White ก็กลับหนีไปได้อยู่ดี
เมื่อกลับมาที่สำนักงานนั้นทีม MI6 แล้ว M ได้หัวเสียมากๆ ที่ Mitchell เป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่กับเธอมาตั้ง 8 ปี กลับเป็นหนอนบ่อนไส้ได้ ทางทีมเลยติดตามเส้นทางการเงินจากธนบัตรของเขาเพื่อหาความเชื่อมโยงไปสู่ชายที่มีชื่อว่า Slate ที่ประเทศเฮติ เจอกันไม่ทันไร Bond ก็ได้พลั้งมือฆ่า Slate ไปแล้วจนยังไม่ทันได้สอบปากคำ เขาเลยทำการปลอมตัวเป็น Slate เพื่อรับกระเป๋าเดินทางและไปที่บริเวณหน้าโรงแรมแทน จนกระทั่งได้เจอกับ Camille Montes สาวสวยที่เรียกเขาขึ้นรถเพราะคิดว่าเขาคือ Slate แต่ออกมาได้ไม่ทันไรทั้งคู่ก็โดนตามล่า และเมื่อหนีพ้น และ Bond เปิดดูในกระเป๋าในนั้นก็พบปืนกระบอกหนึ่งกับรูปของ Camille เขาเข้าใจในทันทีว่า Slate ได้รับมอบหมายมาให้ฆ่าเธอ เมื่อ Camille เห็นเช่นนั้นก็หนี Bond ในทันที Bond จึงออกตามเธอมาจนถึงท่าเรือ
Camille กลับมาหา Dominic Greene นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเจ้าของบริํษัท Greene Planet ที่อยู่ในองค์กรเดียวกันกับ Mr. White ซึ่ง Dominic ดันจับได้พอดีว่า Camille นั้นเข้าหาตัวเองเพราะต้องการล้างแค้นให้กับพ่อของเธอที่เป็นกองกำลังฝ่ายต่อต้านของประเทศโบลิเวีย Dominic เองจึงส่งต่อ Camille ให้กับ Medrano เพื่อจับตัวเธอไปข่มขืน แต่ Bond ที่แอบสังเกตการอยู่นั้นเห็นท่าไม่ดีจึงติดตามไปไปช่วยเหลือเธอออกมาจนได้ แตก็โดนเรือของ Medrano และลูกน้องไล่ล่าอย่างดุเดือด สุดท้ายก็หนีออกมาได้
Bond ได้ส่งตัว Camille ที่หมดสติให้คนอื่นช่วยเหลือ ส่วนตัวเองนั้นเช็คข้อมูลกับ M ถึงข้อมูลของ Dominic และพบว่า CIA นั้นปิดบังข้อมูลบางอย่างของวายร้ายคนนี้อยู่ M จึงตัดสินใจให้ Bond นั้นติดตามไปที่ออสเตรียโดยที่บนเครื่องของ Dominic นั้นกลับมีสายลับอย่าง Felix (เจ้าหน้าที่ CIA ที่เคยให้เงิน Bond เล่นโป๊กเกอร์ในภาค Casino Royale มาด้วย เพราะหวังจะจับ Dominic เหมือนกัน)
Bond ได้ติดตาม Dominic มาถึงโรงละครหรูแห่งหนึ่ง และปลอมตัวมาเข้าร่วมในงาน Bond ได้สังเกตว่าที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ประชุมลับขององค์กรที่ Dominic อยู่ ผ่านการสื่อสารในวิทยุเคลื่อนที่ระหว่างชมการแสดง Bond จึงตัดสินใจป่วนการสนทนา เพื่อจับตาดูว่ามีใครที่ไหวตัวลุกออกจากที่นั่งบ้างก่อนที่จะถ่ายรูปไปให้ทีมตรวจสอบต่อ ในขณะที่ Mr. White นั้นกลับไม่หลงกลง่ายๆ หลังนั้น Bond ก็ได้หนีออกมาจากการตามล่า พร้อมๆ กับที่ทางทีม MI6 นั้น ได้รับข้อมูลผู้เกี่ยวข้องแบบเต็มๆ และพบว่า 1 ในคนที่ตามล่า Bond จนโดนลูกน้องของ Dominic ฆ่าตายนั้นเป็นเจ้าหน้าที่อารักขาของ Guy Haines ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอังกฤษที่เป็นสมาชิกองค์กรลับด้วย
Bond มาขอความช่วยเหลือจาก Mathis รวมถึงมาขอโทษเขาที่เข้าใจผิด เพราะหลังการสอบสวนคร้ั้งก่อนนั้นพบว่า Mathis เป็นอีกหนึ่งผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่หนอนบ่อนไส้อย่างที่ Bond คิด ซึ่งแม้ Mathis จะไม่ค่อยเต็มใจ แต่ก็ให้ข้อมูลกับ Bond เป็นอย่างดี พร้อมทั้งติดตามมาช่วยเหลือในภารกิจนี้ต่อ หลังจากทั้งคู่มาถึง Bolivia ก็ได้พบกับ Fields เจ้าหน้าที่สาวสวยประจำกงศุลอังกฤษ และพาตัว Bond มาโรงแรมที่เอาไว้ให้พวกเขากักตัว แต่สุดท้าย Bond ก็เปลี่ยนที่ตามใจตัวเอง และได้กับ Fields เป็นที่เรียบร้อย ในตอนค่ำ Mathis ได้เอาบัตรเชิญมาให้ Bond เพื่อเข้าร่วมงานระดมทุนนักอนุรักษ์ของ Dominic
ระหว่างที่ Dominic กำลังคุยงานนั้น Camille ก็กลับปรากฏตัวขึ้นแบบไม่ได้คาดคิด ในขณะที่ Camille จะโดน Dominic จัดการ Bond ก็เข้ามาช่วยเอาไว้พอดี โดยมี Fields เข้ามาคอยช่วยเหลือจน Bond และ Camiile ขับรถหนีออกมาได้ แต่ก็เจอตำรวจตรวจสอบรถเสียก่อน เมื่อเปิดท้ายรถกลับเจอ Mathis โดนจับมัดอยู่ และถูกตำรวจนั้นยิงทิ้งในทันที จน Mathis ตายพร้อมทั้งฝากฝังกับ Bond อโหสิกรรมกับสิ่งที่ผ่านมาของทั้งคู่รวมถึงกับ Vesper ด้วย หลังจากนั้น Bond และ Camille ต่างหนีมาที่เช่าเครื่องบินส่วนตัว เพื่อจะไปตามหาโครงการของ Dominic ต่อ แต่่ระหว่างทางกลับโดนเครื่องบินของทหาร Bolivia สอยร่วงเสียก่อน จนทั้งคู่ต้องกระโดดร่มหนีลงมาที่ถ้ำท่ามกลางทะเลทราย ก่อนที่จะหาทางกลับมาที่โรงแรมได้
เมื่อกลับมาถึง Bond ได้รับข้อความจาก Fields ว่าให้หนีไป เมื่อเห็นท่าไม่ดีจึงขึ้นไปตรวจสอบที่ห้อง และได้พบกับ M และทีมของเธอมารออยู่แล้ว ก่อนที่จะพบว่า Fields กลายเป็นศพตายอนาถจากการถูกฆ่ากรอกน้ำมันเข้าร่างจนตาย ซึ่ง M มองว่า Bond ทำให้คนรอบตัวต้องเสียชีวิตเยอะเกินไป รวมถึงความหุนหันพลันแล่นที่เหมือนเป็นการทำภารกิจเพื่อล้างแค้นส่วนตัว จึงทำการสั่งพักงาน Bond ก่อนที่ Bond จะเอาตัวรอดออกมาได้เหมือนเคย โดยที่ M เดือนเขาเอาไว้ว่า CIA ได้หมายหัวเขาเอาไว้แล้ว จากหลักฐานปลอมต่างๆ จน Bond ได้มาเจอ Camille อีกครั้งและพากันหนีออกมา โดย Bond นั้น ขอนัดคุยกับเจ้าหน้าที่ CIA อย่าง Felix เพื่อปรึกษา เพราะคิดว่าน่าจะไว้ใจได้ Felix นั้นยอมบอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับนายพล Medrano ให้กับ Bond พร้อมปล่อยให้ Bond หนีจากการตามล่าจากเจ้าหน้าที่ CIA
วันต่อมา Bond และ Camille ได้เดินทางมาตามข้อมูลที่ Felix ให้ไว้ ถึงการนัดพบของนายพล Medrano และ Dominic ที่กำลังเจรจาธุรกิจกันอยู่ หลังเจรจาเสร็จสิ้น Bond และ Camille ก็บุกเข้าไปในที่พักทันที และถล่มทุกอย่างจนราบเป็นหน้ากลอง โดยที่ Medrano ก็ ถูก Camille ฆ่าล้างแค้นจนสำเร็จ ส่วน Dominic ยอมเปิดเผยชื่อองค์กร Quantum ของตัวเอง ก่อนที่จะถูก Bond เอามาปล่อยกลางทะเลทรายพร้อมให้น้ำมันเอาไว้ 1 กระป๋อง
หลังจบภารกิจนี้ ทั้งคู่ได้แยกย้ายกัน โดยที่ Bond นั้นออกมาตามล่าอดีตแฟนหนุ่มของ Vesper ที่อยู่ในองค์กรอย่าง Quantum เช่นกัน Bond เจอเขาอยู่กับสาวคนใหม่ที่กำลังจะโดนหลอกด้วยมุขสร้อยคออันเดียวกัน แต่ Bond กลับเลือกให้ทีมงานเข้าไปจับ แทนที่เขาจะลงมือฆ่าด้วยตัวเอง จนสร้างความแปลกใจให้กับ M อย่างมาก ที่เห็น Bond ระงับอารมณ์ของตัวเองได้ จน M เรียกให้เขากลับมาทำงานอีกครั้ง แต่ Bond กลับบอกว่าเขายังไม่เคยออกสักหน่อย
Skyfall (2012)
เรื่องราวเริ่มขึ้นต่อจากภาคก่อน 6 ปี Bond ได้มาทำภารกิจชิงข้อมูลสายลับกลับคืนมา แต่เหตุการณ์กลับวุ่นวายเมื่อมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาและ Moneypenny จึงต้องออกสานต่อภารกิจให้สำเร็จ Bond นั้นไล่ตามคนร้ายขึ้นไปบนหลังคารถไฟ และต่อสู้กันอย่างชุลมุน ทาง Moneypenny ที่กำลังเล็ง Sniper รอช่วยเหลืออยู่ ก็ถูก M ให้คำสั่งในการยิงแม้ว่าจะเสี่ยงโดน Bond ก็ตาม และสุดท้ายกระสุนที่ยิงออกไปกลับโดน Bond เต็มๆ จนตกไปยังแม่น้ำ ส่วนคนร้ายกลับหนีเข้าอุโมงค์ไปได้พอดี
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไป 3 เดือน Bond ถูกระบุว่าเสียชีวิตไปแล้ว และ M ก็จะถูกสั่งปลดจากตำแหน่งโดย Gareth Mallory ประธานหน่วยราชการลับและความมั่นคงประเทศ เนื่องจากเธอทำภารกิจผิดพลาดแถมเสียเจ้าหน้าที่ตัวเองอีก ในระหว่างที่นั่งรถออกนั้นแผนกของคิวได้เห็นการเข้าถึงข้อมูลแบบแปลกๆ และมาจากห้องทำงานของ M ภายในหน่วยงาน MI6 เอง และ M ก็ได้รับข้อความว่าให้สำนึกถึงบาปที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ ซึ่งไม่ทันไรนั้น M ก็ได้เห็นเหตุระเบิดในหน่วยงานของตัวเองแบบต่อหน้าต่อหน้า
ในขณะที่ Bond กำลังลบอดีตของตัวเองกำลังพักผ่อนและใชัชีวิตใหม่ที่ริมทะเลแห่งหนึ่ง ก็ได้เห็นข่าวที่สำนักงานโดนระเบิดพอดีและได้พบว่ามีสมาชิกในองค์กรของเขาเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เขาจึงตัดสินใจกลับมาหา M อีกครั้ง เมื่อเคลียร์ใจกันเรียบร้อย Bond ก็ได้เดินทางไปที่ฐานทัพใหม่ของ MI6 และทำงานทดสอบสมรรถภาพการเป็นสายลับอีกครั้ง Bond ได้เอาเศษกระสุนจากตัวออกมาเพื่อให้ทีมงานตรวจสอบเพิ่มเติม และพบว่ามันคือกระสุนไทเทเนียมที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวและมีแค่ไม่กี่คนที่มีไว้ในครอบครอง ซึ่ง Bond ก็ระบุตัว Petris ที่เป็นคนที่ยิงเขาได้ในทันที M จึงสั่งให้เขาไปที่เซี่ยงไฮ้ เพื่อสอบสวนข้อมูลว่าเขาทำงานให้ใคร จากนั้นก็พร้อมให้สังหารได้เลย หลังจาก Bond ออกไป M ก็เพิ่งจะบอกกับ Tanner ว่าแท้จริงแล้ว เขาไม่ผ่านการทดสอบก่อนหน้านี้
Bond ได้มาพบกับ Q คนใหม่ในวัยละอ่อน และได้รับอาวุธปืนที่สแกนลายนิ้วมือให้มีแต่เฉพาะ Bond เท่านั้นที่ใช้ได้ รวมถึงวิทยุสื่อสารขนาดเล็ก ที่เอาไว้ใช้เมื่อเข้าถึงผู้ที่ขโมยข้อมูลสายลับไป หลังจากนั้นไม่นาน Bond ได้เดินทางมาที่เซี่ยงไฮ้ ดักรอ Petris ตั้งแต่ที่สนามบิน และได้ติดตามมาจนถึงตึกแห่งหนึ่ง จนเห็น Petris ลงมือฆ่าคนที่ชั้นล่าง จึงตามเข้าไปและพบว่าเขากำลังจะทำการลอบสังหารชายที่อยู่ในตึกฝั่งตรงข้าม จนกระทั่งงานสำเร็จถึงรู้ตัวว่า Bond ตามเข้ามาจนเกิดการปะทะกัน การต่อสู้จบลงที่ Pertis ตกตึกตายแต่ Bond ก็ไม่ทันได้เบาะแสอะไรกลับมา มีเพียงเหรียญชิปแลกเงินจากบ่อนเท่านั้น ในขณะเดียวกันคนที่ขโมยรายชื่อสายลับไปก็ได้เริ่มปล่อยรายชื่อออกมา 5 ชื่อทางออนไลน์ จนเมื่อ M ได้ทราบข่าว ก็รีบแจ้งทีมให้ดำเนินการคุ้มครองสายลับเหล่านั้นทันที
Moneypenny ได้มาบอกข่าว Bond ถึงรายชื่อที่หลุดออกมา และได้เข้ามาช่วยเหลือ Bond มาสืบข้อมูลต่อที่บ่อนแห่งหนึ่งในมาเก๊า ซึ่งเมื่อเข้ามาแลกเหรียญที่ได้มาจาก Petris นั้นก็มีสาวสวยอย่าง Severine จับตาดู และเข้าหาเขาในทันที หลังจากพูดคุยกันแล้ว Severine ก็เปิดเผยว่าเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งเมื่อ Bond เริ่มจับไต๋ได้ เธอจึงเตรียมลุกออกไป พร้อมทั้งบอกกับเขาว่าเขากำลังจะโดนฆ่าหลังจากนี้ และถ้าหากเขารอดไปได้ให้ไปเจอกันที่เรือที่จอดเทียบอยู่ด้านนอกและเรือจะออกภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งมันทันไร Bond ก็รุมตามคาดแต่ก็ได้ Moneypenny มาช่วยไว้ได้ทันเวลา
Bond รีบออกไปที่เรือ และได้มีอะไรกับ Severine ในขณะเดียวกันทางด้าน M และ Mallory ก็ได้เห็นข่าวเจ้าหน้าที่ MI6 คนนึงที่ถูกเปิดเผยชื่อและโดนผู้ก่อการร้ายสังหารโหดไปเรียบร้อย เช้าวันต่อมาเรือของ Severine ก็ได้พา Bond มาถึงเกาะร้างแห่งหนึ่ง และทำให้เขาโดนจับในทันที เขาได้พบกับ Silva อดีตสายลับที่เป็นเบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ซึ่ง Silva เองก็บอกว่าเขาเคยอยู่หน่วย MI6 มาก่อน รวมถึงเป็นลูกน้องของ M ด้วย เมื่อคุยกันเสร็จ Silva ก็ได้บังคับให้ Bond ยิงแก้วเหล้าที่วางบนหัว Severine แต่เขาก็ยิงพลาด จน Silva ยิง Severine ทิ้งเสียเอง Bond จึงได้โอกาสต่อสู้ และหน่วยของ MI6 ก็มาพอดีตามที่ Bond ได้ส่งสัญญาณจากอุปกรณ์ของ Q เอาไว้ จนจับ Silva กลับมาได้
เมื่อ M สอบสวน Silva ก็พบว่าในอดีตนั้นเขามีชื่อว่า Diego Rodrigrez สายลับผู้ทำงานนอกเหนือคำสั่งจนผิดพลาด เลยถูกผู้ก่อการร้ายจับไปทรมาน และถูก M ทอดทิ้ง จนทำให้เขาพยายามกัดไซยาไนซ์ในฟันเพื่อฆ่าตัวตาย แต่กลับไม่ตาย แถมยังเสียโฉมอย่างหนัก (แต่มีอุปกรณ์พยุงโครงหน้าเอาไว้) จนทำให้ Silva กลับมาเพื่อแก้แค้น M และหน่วยงานเก่าของเขาอย่าง MI6 ระหว่างที่ M ต้องเดินทางไปไต่สวนคดี ก็ได้ฝากฝังให้ Bond นั้นหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของ Silva ออกมาให้ได้ แต่สุดท้ายแล้วกลับพลาดท่าเสียเองเมื่อ Silva ได้วางแผนแฮคระบบของหน่วยจากคอมพิวเตอร์ที่เขาทิ้งเอาไว้ จนทำให้เขาหนีออกไปได้
Bond ได้ติดตามไปจนรู้ว่า Silva กำลังจะไปสังหารเอ็ม จึงรีบแจ้งข่าวให้ M ที่อยู่ในศาลทราบ แต่เอ็มก็ตัดสินใจที่จะอยู่ในการพิจารณาคดีต่อให้จบ ส่วน Bond เองหลังจากโดน Silva ปั่นป่วน ก็ทำให้คลาดกันไปได้ จน Silva ที่ปลอมเป็นตำรวจก็บุกมาถึงที่ศาล แต่ด้วยความลังเลชั่วขณะทำให้ Bond นั้นพา M หนีรอดออกมาได้ โดยที่ Bond นั้นแอบสั่งให้ Q โปรยเบาะแสเอาไว้เพื่อให้ Silva ตามมาที่บ้านเกิดของ Bond ใน Scotland เมื่อมาถึงพวกเขาได้พบกับ Kincade พ่อบ้านที่คิดว่า Bond ตายไปแล้ว เลยขายสมบัติทิ้งไปหมด จนเหลือแค่ปืนคู่ใจของพ่อ Bond เท่านั้น ทุกคนจึงจัดเตรียมสถานที่รวมถึงกับดักต่างๆ เพื่อพร้อมรบกับ Silva และลูกน้อง
ไม่นานนัก Silva ก็ยกพวกมาถล่มที่บ้านของ Bond และ M กลับถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ เขาจึงให้ Kincade พา M หนีออกออกไปจากทางลับใต้ดิน ก่อนที่ Bond จะระเบิดบ้านของตัวเองทิ้งแบบจัดใหญ่ เพราะสู้ไปก็แพ้ที่จำนวน ก่อนที่จะหนีออกมาในทางลับเหมือนกัน ส่วนของ Silva รอดจากการระเบิดมาได้ และไปไล่ตาม M ต่อ หลังจาก Bond ออกมาจึงพยายามตามหา M และได้ช่วย M เอาไว้ได้ ด้วยการปามีดปักเข้าที่หลังของ Silva ก่อนที่เขาจะลงมือ แต่ด้วยพิษบาดแผลของ M ที่หนักมากก็ทำให้ M ได้เสียชีวิตลง หลังจากนั้น Bond ก็ได้กลับมาทำงานอีกครั้ง ร่วมกับ Gareth Mallory ผู้ที่มาเป็น M คนใหม่ของเขา ในขณะที่ Moneypenny ก็กลับมาทำงานนั่งโต๊ะและกลายมาเป็นเลขาคนสวยของ M แทน
Spectre (2015)
ในวันเฉลิมฉลองคนตายที่ Mexico นั้น Bond ได้แฝงตัวเข้าไปอยู่ในงาน ก่อนที่จะออกมาขึ้นห้องกับผู้หญฺิงแปลกหน้าคนหนึ่ง ในจังหวะเข้าได้เข้าเข็มเขากลับปลีกตัวออกมา เพื่อไปทำภารกิจสังหารชายที่มีชื่อว่า Marco Sciarra หลังจากตามจนเจอ แต่กลับโดนจับได้เสียก่อน เลยทำให้ตึกนั้นเกิดระเบิดขี้น จนทำให้ Bond ต้องลงมาไล่ล่า Sciarra กันต่อภายในงานเฉลิมฉลอง จนทำการฆ่าเขาได้ และได้แหวนที่มีสัญลักษณ์เหมือนปลาหมึกกลับมา
หลังจาก Bond ได้กลับมาก็ถูก M สอบสวนถึงการทำหน้าที่เกินจากคำสั่งที่ได้รับ จนกลายเป็นปัญหาที่ประเทศอื่น แต่ Bond ก็เลี่ยงที่จะตอบเหตุผลไป จนทำให้ M สั่งพักงาน Bond ในทันที เมื่อเดินออกมาได้ไม่ทัน Moneypenny เลขาคู่ใจของ M ก็ได้เอาเศษซากที่เหลือจาก Skyfall กลับมาให้ Bond แต่ Bond กลับไม่รับและนัดให้เธอมาเจอช่วง 3 ทุ่มแทน ซึ่ง Moneypenny ก็ดูออกว่าจริงๆ แล้ว Bond มีภารกิจลับที่ไม่สามารถไว้ใจใครได้อยู่ ทำให้ Bond เปิดคลิปที่ M คนเก่าฝากฝังกับเขาเอาไว้ก่อนตาย ว่าให้เขาไปตามฆ่าคนที่ชื่อ Sciarra จากนั้นตามไปที่งานศพของเขาก็ได้เบาะแสอะไรเพิ่ม โดยงานจะเริ่มที่กรุงโรม 3 วันต่อจากนี้ เขาจึงฝากให้ Moneypenny ช่วยสืบหาข้อมูลเป้าหมายคนต่อไปของ Scairra ที่มีชื่อว่า Pale King เพิ่ม
เมื่อ Bond มาถึงฐานใหม่ คิวก็ได้ทำการฉีดนาโนชิปเข้าไปในกระแสเลือดของเขา เพราะเป็นคำสั่งจาก M ที่ต้องการจะติดตาม Bond ได้ไม่ให้ไปก่อปัญหาอีก แต่ Bond ก็ขอร้องให้ Q นั้นช่วยเหลือลบตัวตนของเขาไป ซึ่ง Q ก็จัดให้ได้ 48 ชั่วโมง Bond จึงขโมยรถ Aston Martin รุ่น DB10 จากสายลับ 009 เพื่อเดินทางไปยังงานศพของ Scairra ที่ Rome และได้พบกับ Lucia ภรรยาม่ายของ Scarria และยังพบว่ามีใครบางคนแอบตามเขาอยู่จากในงานนี้ ซึ่งในตอนกลางคืน Bond ก็ได้แอบมาหา Lucia และได้ช่วยเธอเอาไว้จากบรรดานักฆ่าที่เตรียมมาเก็บเธอ พร้อมทั้งสารภาพว่าเขาฆ่าสามีของเธอเอง เลยเป็นเหตุให้เธอไม่มีอะไรคุมหัวอีกแล้ว หลังจากทั้งคู่มีอะไรกันเสร็จ Lucia ก็ได้ให้เบาะแสถึงองค์กรลับนี้ ว่าจะมีการประชุมลับตอนเที่ยงคืนที่สถานที่แห่งหนึ่ง
เมื่อเดินทางมาถึง Bond ก็ได้โชว์แหวนที่ได้มาจาก Scairra ให้กับคนเฝ้า และได้เข้ามาร่วมในการประชุมลับแห่งนี้ และพบว่าองค์กรนี้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อันเลวร้ายต่างๆ ในโลกมากมาย และทางองค์กรยังได้มีการจัดหาคนใหม่มาแทน Scairra ด้วย ซึ่งตำแหน่งก็ตกเป็นของหนุ่มตัวใหญ่สุดโหดนามว่า Hinx ที่มาถึงก็ฆ่าสมาชิกคนนึงโชว์เพื่อมารับตำแหน่งไป ในขณะที่ Bond เองก็โดน Franz Oberhauser หัวหน้าใหญ่ขององค์กรจับได้ว่าเข้ามาในนี้ จึงถูกสมาชิกทุกคนไล่ล่า ระหว่างหลบหนี Bond ได้ติดต่อกับ Moneypenny และพบว่า Pale King ที่เขาตามหาคือ Mr. White อดีตคู่ปรับที่เคยหนีไปได้นั่นเอง ซึ่งตอนนี้มันก็ได้หนีไปอยู่ที่ออสเตรีย Bond ที่หนีไม่พ้นจึงตัดสินใจทิ้งรถลงแม่น้ำ และดีดตัวกระโดดร่มออกมา
Bond ได้ตามมาพบกับ Pale King หรือ Mr. White ตามเบาะแสที่ได้มา แต่ก็ต้องพบกับเขาในสภาพร่อแร่แบบผู้ป่วยที่ใกล้ตายจากการโดนองค์กรวางยา เนื่องจากเขาไม่อยากร่วมงานกับองค์กรนี้อีกแล้วเพราะมันขัดต่อสามัญสำนึกของเขาในการฆ่าผู้หญิง และเด็กๆ ซึ่ง Bond ได้ออกปากว่าจะช่วยคุ้มครองลูกสาวของเขาที่ซ่อนตัวอยู่ พร้อมทั้งยื่นปืนให้กับ Mr. White เพื่อฆ่าตัวตายซะ ก่อนที่จะบอกให้ Bond ไปที่ Hoffler Clinic เพื่อตามหาลูกสาวของเขา หลัง Mr. White ตาย Bond ก็ค้นกระเป๋าตังจนเจอรูปถ่ายลูกสาวเขา และพบว่าเธอเป็นจิตแพทย์สาวสวยที่มีชื่อว่า Madaleine
ในขณะเดียวกัน C เจ้าหน้าที่อีกคนที่พยายามจะปฏิรูปองค์กรสายลับก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ส่วน Bond ที่เดินทางมาจนเจอ Madaleine ก็แสร้งว่ามารักษา แต่กลับสืบหาข้อมูลจาก Madaleine แทน และเล่าให้ฟังว่าพ่อของเธอตายแล้ว ซึ่งเขาเองจะเข้ามาคุ้มครองชีวิตของเธอ และเปลี่ยนกับการช่วยเขาตามหา Le American เธอจริงไล่ Bond ออกมา ไม่นานนัก Q ก็มาหา Bond พอดี และแจ้งกับ Bond ว่า Franz Oberhauser ที่เขาเห็นตายจากการโดนหิมะตายพร้อมพ่อไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่ง Q ก็พยายามที่จะพา Bond กลับไป เพื่อกลัวว่างานตัวเองและ Moneypenny จะพัง แต่ Bond ก็ไม่กลับ และส่งแหวนไปให้เขาตรวจสอบแทน
ฝั่ง Hinx นั้นได้เดินทางมาถึงและจับตัว Madaleine ขึ้นรถไปต่อหน้าต่อตา จน Bond ก็ได้ขับเครื่องบินไล่ตามมา ในด้าน Q ที่กำลังตรวจสอบแหวนอยู่นั้นก็พบว่า ในบรรดาตัวร้ายที่ Bond เคยเผชิญมาอย่าง Le Chiffre, Mr/ White, Dominic Greene, Silva ทุกๆ คนมีจุดร่วมมาจากองค์กรเดียวกันนี้ และ Q เองก็โดนคนในองค์กรตามอยู่เช่นกัน แต่ด้วยระเบิดจากการไล่ล่าของ Bond ก็ทำให้ Q แอบหนีออกมาได้ ในด้าน Bond ที่ไล่ตามมาสุดท้ายก็ช่วย Madaleine เอาไว้ได้ แต่ Hinx ก็ยังรอดชีวิตมาเช่นกัน พวกเขาจึงเดินหน้าไปพบกับ Q ตามนัด และได้รู้ว่าองค์กรลับนี้มีชื่อว่า Spectre นั่นเอง
ในที่สุด Madeleine ก็ยอมที่จะบอก Bond ว่า Le American ไม่ใช่ชื่อคน แต่เป็นสถานที่ พร้อมทั้งพอเขามาที่โรงแรมในชื่อเดียวกันที่อยู่ในประเทศ Morocco ที่เป็นโรงแรมที่ครอบครัว Mr. White มาพักอยู่บ่อยๆ ซึ่งตกดึก Bond เองได้เห็นหนูตัวหนึ่งวิิ่งหายไปในผนัง จึงชกผนังทิ้งและเจอห้องลับด้านใน ที่เต็มไปด้วยเอกสารต่างๆ รวมถึงรูปของ Madeleine ตอนยังเป็นเด็กๆ ทั้งคู่เจอพิกัดระบุตำแหน่งบางอย่างในทะเลทรายโมรอคโค จึงตัดสินใจออกเดินทางไปด้วยกัน ในขณะเดียวกัน C ที่ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าคณะกรรมการ ก็ได้คุยกับกระทรวงมหาดไทยให้ยุบหย่วย 00 ทิ้งซะ ทาง M จึงให้ทีมตัดการติดต่อกับ Bond ทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีใครตามตัวเขาเจอได้
Bond และ Madaleine ได้เดินทางขึ้นรถไฟมาด้วยกัน และได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นจนกระทั้ง Hinx ก็โผล่มาอีกครั้ง แม้ว่า Bond จะแพ้ด้วยขนาดตัว แต่สุดท้ายด้วยความช่วยเหลือของ Madaleine และไหวพริบของเขาก็ส่ง Hinx ตกจากรถไฟไปได้ หลังจากผ่านเหตุการณ์สุดระทึก ทั้งคู่ก็ลงเอยกันในห้อง จนกระทั่งเช้าวันถัดมาพวกเขามาถึงสถานีตามพิกัดและได้พบกับความว่างเปล่า จนกระทั่งมีรถคันหนึ่งมารับพวกเขาไปที่โรงงานแห่งหนึ่ง และได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี โดย Franz ได้พาทั้งคู่เดินสำรวจในองค์กร ให้เห็นถึงระบบการทำงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้ทั้งโลก โดยเขาเองก็ร่วมมือกับ C ที่แทรกซึมไปในหน่วยความมั่นคง แถมจี้ใจจำ Bond ว่าผู้หญฺิงที่เขารักทั้ง Vesper และ M ก็ล้วนตายด้วยน้ำมือของเขาที่เป็นคนบงการทั้งนั้น พร้อมทั้งยังเปิดกล้องให้ Madaleine ได้เห็นว่าพ่อของเธอตายได้อย่างไร เลยทำให้เธอรู้สึกว่าแท้จริงแล้ว Bond เป็นคนฆ่าพ่อของเธอเอง ก่อนที่ Bond จะโดนทุบจนสลบไป
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาก็โดนจับไว้กับเครื่องทรมานเจาะสมอง โดย Franz ก็ได้บอกว่าเขาได้เปลี่ยนชื่อไปเป็น Ernst Stavro Blofeld เป็นที่เรียบร้อย และจะเจาะสมองในส่วนที่เป็นความจำของ Bond ก่อนที่จะฆ่าทิ้งซะ แต่ Bond ก็แอบส่งนาฬิการะเบิดจาก Q มาให้กับ Madaleine ได้ทัน จนปาใส่ Blofeld ระเบิดแบบเต็มๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันหนีออกมาโดยที่โรงงานนั้นระเบิดเป็นจุล ทั้งคู่ได้มาพบกับ M, Q และ Tanner ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งในอังกฤษ ระหว่างที่ทุกคนกำลังจะไปทำภารกิจ Madaleine ก็ขอแยกตัวออกไป เพราะอยากใช้ชีวิตอย่างสงบ และไม่สามารถรับอาชีพของ Bond ได้
รถคันที่ Bond นั่งมากับ M กลับโดนสอย และ Bond ก็ถูกจับตัวคลุมหัวขึ้นรถไปอีกครั้งในขณะที่ M หนีออกมาได้ เมื่อรถมาถึงปลายทาง Bond ก็เอาตัวรอดออกมาได้และพบว่าที่นี่คือตึก MI6 เก่าที่โดนระเบิดไปในภาค Skyfall ส่วน M ที่หนีออกมาได้ก็ตามมาจับ C ที่ตึกบัญชาการใหม่ จนเกิดการปะทะกัน โดยที่ M เป็นฝ่านชนะและ C ก็ตกตึกลงไปตาย ระหว่างที่ Bond สำรวจในตึกก็ได้พบกับรูปภาพเหล่าร้ายและคนสำคัญที่เขาได้เผชิญมาแปะอยู่ตามห้องภายในตึก โดยที่ Blofeld ก็อยู่ในห้องที่มีกระจกนิรภัยในสภาพที่หน้าแหกและตาบอดไปข้างหนึ่ง โดยเขาบอกกับ Bond ว่าเขาจับ Madaleine เอาไว้ที่ตึกนี้ และมีเวลา 3 นาทีก่อนที่ตึกจะระเบิด ก่อนที่เขาเองก็หนีไปได้อย่างลอยนวล ส่วน Bond ก็เริ่มออกตามหา Madaleine ในทันที และได้พบเธอถูกมัดเอาไว้กับระเบิดขนาดใหญ่ หลังจาก Bond ช่วยเธอออกมาได้ผ่านทางน้ำใต้ตึก ก็หนีจากตึก MI6 ได้ทันทั้งคู่ก่อนที่ตึกจะระเบิดและถล่มลงมา
ด้วยความแค้นของ Bond จึงพยายามขับเรือเอาปืนไล่สอยเฮลิคอปเตอร์ของ Bolfeld จนร่วง และพยายามคลานหนีออกมาจากซากเครื่อง Bond ก็มาถึงตัวเขาพอดี ท่ามกลางการจับตาดูของ M และ Madaleine ว่า Bond จะตัดสินใจอย่างไร แต่แล้ว Bond ก็กลับไว้ชีวิต Bolfeld และปล่อยให้หัวหน้าของเขาจัดการต่อ ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปหา Madaleine หลังจากนั้นดูเหมือนว่า Bond จะลาออกจากไปแล้ว และมาขอรถ Aston Martin B5 ของตัวเองคืน และออกไปพร้อมกับ Madaleine
No Time to Die (2021)
เตรียมพบกับภาคสุดท้ายของ Bond ฉบับ Daniel Craig ที่ขอสั่งลากับบทนี้แล้ว กับเรื่องราวของ Bond ที่เลิกทำหน้าที่สายลับและไปใช้ชีวิตอย่างสงบในจาไมก้า แต่แล้วปัญหาก็ยังวิ่งกลับมาหาเขาอยู่ดีเมื่อ Felix Leiter เจ้าหน้าที่ CIA ขาประจำที่เคยร่วมงานกันแบบเฉียดไปเฉียดมาอยู่หลายภาค ได้มาขอความช่วยเหลือจากเขา ในการไปช่วยนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกลักพาตัวไป จนทำให้เขาต้องรับภารกิจใหญ่อีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือโลกจากวายร้ายจอมวางแผนที่มีเทคโนโลยีล้ำๆ มาเป็นอาวุธ
หนังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 7 ตุลาคมนี้