Goldeneye (1995)
พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก
คะแนน
โกดังหนัง
เจมส์ บอนด์ภาคแจ้งเกิดให้พยัคฆ์เจ้าสำอางค์สุดเท่ อย่าง เพียซ บรอสแนน ที่เปิดตัวได้ปัง จนหลายคนต้องยกให้นี่คือภาคที่ดีที่สุดของเขา
คำคมจากภาพยนตร์
“Why can’t you just be a good boy and die?”
“ทำไมแกถึงไม่ยอมทำตัวเป็นเด็กดีสักหน่อย แล้วตายไปซะล่ะ?”
เรื่องย่อ
เจมส์ บอนด์ สายลับรหัส 007 ได้รับภารกิจบุกไปที่โรงงานผลิตอาวุธเคมีร่วมกับ อเล็ค สายลับรหัส 006 แต่พลาดท่าที่ 006 ดันถูกนายพลโอรูมอฟยิงจนเสียชีวิต ในขณะที่ 007 กลับถล่มฐานนั้นและหนีรอดออกมาได้ หลังจากนั้น 9 ปี บอนด์ ต้องได้รับภารกิจใหม่กับองค์กรร้ายที่ชื่อ เจนัส ที่มีแผนในการขโมยรหัสลับ เพื่อควบคุมดาวเทียม Goldeneye เพื่อใช้ในการปล่อยคลื่นแม่เหล็กทำลายล้างโลก เขาจึงต้องร่วมมือกับ นาตาย่า เจ้าหน้าที่ที่เหลือรอดคนเดียวที่ศูนย์ควบคุมอวกาศ ในการยับยั้งแผนการร้ายของโอรูมอฟในครั้งนี้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Goldeneye ก็เป็นอีก James Bond อีกภาคหนึ่งที่มีความน่าจดจำ และเป็นภาคที่ทำให้ความโด่งดังของ Bond กลับฟื้นคืนขึ้นมาได้จากกระแสที่โรยราตามกาลเวลาและจำนวนภาคที่เพิ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งภาคนี้จะเป็นภาคที่ทำให้เรารู้จักกับเพียร์ซ บรอสแนนในบทบอนด์ได้ดีที่สุด เพราะภาคอื่นๆ ของเขาจะออกโทนไปแฟนตาซี และมีอุปกรณ์ของเล่นต่างๆ มากลบตัวเขาไปเสียแล้ว ดังนั้นถ้าอยากจะหาก Bond ดีๆ สักภาคแล้ว Goldeneye ก็เข้าเงื่อนไขนี้เต็มๆ ในฐานะ Bond ยุคใหม่เป็นต้นมาเลย
- สายหนังแอคชั่นสายลับ
- สายหนังสายลับ007
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังภาคแรกของพยัคฆ์หน้าหล่ออย่าง เพียร์ซ บรอสแนน ที่ใครๆ ต่างก็หลงใหลนับตั้งแต่เปิดตัว ซึ่งภาค Goldeneye นี้ก็ทิ้งช่วงกว่า 6 ปี นับตั้งแต่ภาค License to Kill ของ ทีโมธี ดัลตัน จากกรณีข้อพิพาทของสตูดิโอกับโปรดิวซ์เซอร์ใหญ่ ประกอบกับการหาบทดีๆ พร้อมกับดาราที่จะมารับบท บอนด์ ในครั้งนี้ ซึ่ง เพียร์ซ บรอสแนน เองก็รับไม้ต่อได้อย่างน่าชื่นชม ในฐานะบอนด์เจ้าเสน่ห์ที่หลายๆ คนเปรียบเขาว่าเหมือนกับบอนด์คนแรกอย่างปู่ฌอน คอนเนอร์รี่เป็นอย่างมาก
ตัวภาคนี้เป็นภาคแรกที่ตัวเรื่องราวนั้นไม่ได้อ้างอิงมาจากนิยายเล่มใดของ เอียน เฟลมมิ่ง ผู้ให้กำเนิดตัวละครนี้เลย มันเลยเป็นอิสระของผู้สร้างที่จะคิดใหม่ทำใหม่กับอะไรหลายๆ อย่างให้สมกับเป็นจุดกำเนิดของบอนด์ยุคใหม่ที่มาในช่วงหลังสงครามเย็น เลยมี Background เกี่ยวกับรัสเซีย และสายลับของประเทศนั้นมาเป็นตัวร้าย รวมไปถึงการสร้างพลังหญิงด้วยการพาเอา จูดี้ เดนซ์ นักแสดงมากความสามารถมารับบท เอ็ม เจ้านายของเขา เพื่อลดภาพลักษณ์ของชายเจ้าสำราญให้ต้องมาอยู่ภายใต้อาณัติของผู้หญิงกันบ้างตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
นอกจากความใหม่ในส่วนที่ว่ามาแล้ว 007 ภาคนี้ก็ยังคงความแอคชั่นแบบมันส์ระห่ำด้วย เพราะแค่ฉากเปิดไต่เขื่อนก็นับว่าเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมากๆ แล้วในยุคนั้น พวกฉากยิงกันหรือฉากระเบิดต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดีเอาใจคอหนังแอคชั่นกันแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไปจนถึงการระเบิดระเบ้อเล่นใหญ่ในตอนท้าย ยิ่งประกอบกับการดำเนินเรื่องที่สนุก มีกลิ่นอายสายลับในแบบบอนด์คนแรก ที่เน้นโทนจริงจังค่ำเคร่งกับภารกิจ ไปจนถึงบทที่พลิกไปมา และตัวละครต่างๆ ที่น่าจดจำ จนนับเป็นบอนด์ภาคที่ดีที่สุดของ ชายที่มีชื่อว่า เพียร์ซ บรอสแนน เลยก็ว่าได้
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- นี่คือ James Bond ภาคแรกที่ไม่ได้กำกับโดยชาวอังกฤษ แต่เป็นชาวนิวซีแลนด์ที่มีชื่อว่า Martin Campbell ซึ่งเป็นคนที่ทำจุดกำเนิดบอนด์คนใหม่ได้ปังทั้งคู่อย่าง Goldeneye ภาคนี้ และ Casino Royale ของ Daniel Craig อีกด้วย ซึ่งในเรื่องหลังก็กลับปังไปกว่าเดิมจากการสร้าง Bond ขึ้นมาให้มีความเป็นมนุษย์ได้อย่างไม่เคยมีใครทำมาก่อน นับว่าเป็นผู้ปั้น Bond ในยุคใหม่ๆ ได้อย่างแท้จริง
- บทหนังที่ออกมาในตอนแรก ต้องมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างมากๆ ด้วยความที่มันไม่ได้อิงกับตัวนิยายต้นฉบับเล่มไหน แถมยังดันไปเหมือนกับบทหนังของ True Lies ที่ออกมาใกล้เคียงกันในปี 1994 อีก