Big Fish (2003)
จินตการรัก ลิขิตชีวิต
คะแนน
โกดังหนัง
หนังชีวิตล้ำจินตนาการ ที่พาคนดูไปเปิดโลกอันแฟนตาซีของชายคนหนึ่ง จากวิสัยทัศน์สุดบรรเจิดจาก Tim Burton
คำคมจากภาพยนตร์
“Did you ever think that maybe you’re not too big.., … but maybe this town is just too small?”
“คุณเคยคิดบ้างไหมว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้ตัวใหญ่เกินไป แต่บางทีเมืองนี้ต่างหากที่เล็กไปสำหรับคุณ”
เรื่องย่อ
เอ็ดเวิร์ด บลูม ชายผู้ที่ชอบเล่าเรื่องราวในวัยหนุ่มของตนเอง และมักเสริมเติมแต่งจินตนาการเข้าไปจนหลายเรื่องก็ดูแทบไม่น่าเชื่อ โดยเขาเล่าการเดินทางต่างๆ ของชีวิต ที่ไปยังสถานที่แปลก พบเจอกับคนประหลาดที่หลากหลาย ไม่ว่าใครได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ ต่างก็ชื่นชมและประทับใจไปกับเรื่องราวดังกล่าว ยกเว้นแต่ก็เพียงลูกชายของเขาเท่านั้น ที่ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พ่อของเขาเล่ามา จนกระทั่งวันนึงที่พ่อของเขากำลังจะจากโลกไป เขาจึงได้เห็นความจริงบางอย่างที่คล้ายคลึงกับสิ่งที่พ่อของเขาเล่ามาโดยเสมอ
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Big Fish นั้น เป็นหนังดราม่าประเภทที่ล้ำจินตนาการอยู่ไม่น้อย แม้ว่าเรื่องราวจะดูเหมือนจริง แต่ก็มีเสริมเติมแต่งในส่วนของความแฟนตาซี เทพนิยายเข้าไปในนั้น ก็นับว่าเป็นงานที่เหมาะสมกับผู้กำกับอย่าง Tim Burton มากๆ ทำให้ใครที่ปกติชอบงานสายดาร์คประเภทฝันร้ายของเขา ถ้าอยากลองเปลี่ยนฟีลดูบ้าง Big Fish ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เหมาะดี เพราะมีความแฟนตาซีเหมือนกันแต่เป็นในด้านที่สว่างกว่า ใครที่ชอบหนังการเดินทางของชีวิตที่แปลกหน่อยอย่าง The Curious Case of Benjamin แล้ว เรื่องนี้จะเติมความแฟนตาซีให้คุณได้อีกเยอะเลย
- สายหนังดราม่าแฟนตาซี
- สายหนังผจญภัยใช้ชีวิต
- สายหนังเรื่องเล่าแฟนตาซี
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังอีกเรื่องที่กระแสค่อนข้างแตกไม่น้อยกับฝั่งที่ชอบมันเอาซะมากๆ กับฝั่งที่มองว่าจินตนาการอะไร (วะ) ดูไม่รู้เรื่อง แต่ส่วนตัวอยู่ในกลุ่มที่ชอบมันมาก อันเนื่องมาจากความแปลกใหม่ของการเล่าชีวิตของคนๆ หนึ่ง ที่แต่งเติมเสริมจินตนาการเข้าไปให้เรื่องราวมันสนุกขึ้น ก็เป็นเรื่องปกติที่เวลานักเล่าเรื่องมักทำกันอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์ที่บอกตั้งแต่ต้นว่าเป็น Based on true story ก็ตาม ก็ยังต้องแต่งเติมความดราม่า ความเว่อร์วัง อะไรต่างๆ เข้าไปเพิ่มอยู่เสมอ
หากเรายึดหลักความเป็นจริงทั้งหมด ทุกอย่างมันก็จะไม่สนุกอย่างที่เห็น นั่นอาจจะเป็นประเด็นหลักที่หนังพยายามจะสื่อ ว่าชีวิตคนเราก็เปรียบเสมือนดั่งผ้าขาว ที่รอให้ตัวเองเป็นคนแต่งแต้มเติมสีสันเข้าไปให้ชีวิตกลายเป็นชีวิต และช่วยให้เราสามารถจดจำเรื่องราวพิเศษได้ดีกว่าที่เคย แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นทั้งหมดเมื่อการเดินทางของ เอ็ดเวิร์ดเองนั้น ต่างก็ได้พบปะกับผู้คนมากมาย และสร้างมิตรภาพที่หลากหลายไปด้วยในระหว่างทาง ประกอบกับการฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อให้ได้ใจผู้หญิงที่เขารัก ก็มีแง่คิดอะไรดีๆ มากมายเติมเข้ามาเป็นสีสันให้อยู่เรื่อยๆ
ทำให้ Big Fish จึงกลายเป็นหนังกึ่งชีวประวัติอันสุดแสนแฟนตาซีของชายคนหนึ่งผ่านการใช้ชีวิตที่น่าสนใจ ประกอบกับความเป็นหนังผจญภัยในโลกอันแสนแฟนตาซีที่แสนกว้างใหญ่ใบนี้ ก็ทำให้มันเป็นความแปลกใหม่ที่น่าชื่นชม ซึ่งก็ต้องขอบคุณวิสัยทัศน์อันบรรเจิดของตัวผู้กำกับ Tim Burton ที่สามารถดึงจินตนาการล้ำๆ และฉากสวยต่างๆ เข้ามาไว้ในหนังเรื่องนี้ จนน่าจะเป็นอีกหนึ่งงานดัดแปลงจากนิยายที่เป็นที่น่าจดจำอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ในฐานะแฟนตัวยงของผู้กำกับ Tim Burton นั้น ดาราสาวอย่าง Marion Cotillard ถึงกับเอาบทหนังมาสอดใต้หมอนนอนทุกวันเป็นเดือนๆ จนกระทั่งเธอได้บทนี้มาครอง ซึ่งนับเป็นหนังอเมริกันเรื่องแรกของนักแสดงฝรั่งเศสคนนี้
- ก่อนหน้านี้ Big Fish เป็นโปรเจคที่ Steven Spielberg กำลังจะถูกดึงเข้ามาทำ และมี Jack Nichoson มาเป็นดารานำ แต่สุดท้ายก็ต้องทิ้งกันไปเพราะด้วยตารางงานที่เต็ม จน Tim Burton มารับงานต่อในทันที ซึ่งคนส่วนมากก็คงไม่ได้เสียดายเท่าไร เพราะจากผลงานแล้ว Tim Burton นั้นก็ทำได้ดีเลยทีเดียว