Rush (2013)
อัดเต็มสปีด
คะแนน
โกดังหนัง
หนังรถแข่งที่ดีเรื่อง โปรดักชั่นเยี่ยมถ่ายทอดความสมจริงได้สมบูรณ์แบบ
มอบข้อคิดมากมายถึงทัศนคติการใช้ชีวิตของตัวละครที่เห็นต่างได้อย่างสุดขั้ว
คำคมจากภาพยนตร์
"Happiness is your biggest enemy. It weakens you. Puts doubts in your mind. Suddenly you have something to lose" "ความสุขคือศัตรูที่อันตรายที่สุด มันทำให้คุณอ่อนแอ สร้างความไม่แน่นอนให้กับจิตใจ ในไม่ช้าคุณจะต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไป"
เรื่องย่อ
เรื่องราวการต่อสู้กันระหว่าง เจมส์ ฮันท์ และ นิคกี้ เลาด้า คือ สองนักแข่งฟอร์มูล่าวันในยุค 70s ที่ไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ฝ่ายหนึ่งแพ้ พวกเขาจะต้องพยายามหาทางกลับมาชนะอีกฝ่ายให้ได้ในสนามต่อไป และมันก็ค่อยๆ หล่อหลอมให้พวกเขากลายมาเป็นสุดยอดนักแข่งด้วยกันทั้งคู่
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Rush คือหนังที่อัดแน่นด้วยเรื่องราวการห่ำหั่นบนสังเวียน F1 ที่สมจริง ตรึงเครียด ไม่ต้องบิ้วอัพคนดูมากหนัก ยิ่งถ้าเป็นคนที่โหยหาความเร็ว หรือชอบกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ แถมยังมีข้อคิดเตือนใจผู้ชมถึงการใช้ชีวิตของตัวละครที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ว่าง่ายคือยังไงคุณต้องดูเรื่องนี้ให้ได้
- สายหนังกีฬา
- สายหนังดราม่าเข้มข้น
รีวิว / สรุปเนื้อหา
บทหนังถือว่าทำได้สมจริง รอน ฮาเวิร์ด เล่าเรื่องได้กระทับไม่ได้เยิ่นเย้อ คนส่วนใหญ่ชอบมองว่าหนังดราม่าที่สร้างจากเรื่องจริงน่าเบื่อ แต่เรื่องนี้ไม่มีแบบนั้น ไม่มีตรงไหนที่ชวนอยากเดินหนี ช่วงแรกเล่าที่มาที่ไปของ James Hunt และ Niki Lauda จากนั้นก็ค่อยๆสร้างประเด็นให้เชิญชวนให้คนดูติตตามหนังแบบสายตาไม่กระพริบ นักซิ่ง 2 คนแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อความสำเร็จเพื่อเอาชนะอีกฝ่ายแต่เป้าหมายต่างกันสุดขั้ว นอกจากเรื่องในสนามหนังก็เล่าถึงประเด็นดราม่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของตัวละครหลักว่าทำไมเขาถึงมีทัศนคติแบบนี้ Niki Lauda ถือคติความสุขคือสิ่งที่ทำให้ตัวเองอ่อนแอเขาปลีกตัวออกจากสังคม ส่วน James Hunt คือคนที่เฮฮาพร้อมเสี่ยงเพื่อสร้างเรื่องราวให้ผู้คนจดจำ ว่าง่ายๆคือเป็นเพลย์บอยนั้นแหละ
นอกจากการเล่าเรื่องที่นำแง่มุมตัวละครที่ต่างกันสุดขั้วมาเล่าแล้ว สิ่งที่หนังมอบให้คนดูคือความบันเทิง แบบไม่ต้องมีปืนใหญ่มายิ่ง อัดแน่นงานภาพเทคนิคการถ่ายทำรถแข่งที่ทำได้น่าตื่นเต้น ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในสนามจริง และฟีลเหมือนเรากำลังอยู่ในยุค 70 ที่เราต้องมาลุ้นระทึกทุกซีนว่ามันจะเป็นอย่างไร ตัวละครจะเอาตัวรอดจากอุปสรรคในสนามแข่งขันได้ไหม ยอมรับว่าหนังมันเข้มข้นแถมยังมีซาวด์ประกอบจาก Hans Zimmer เข้ามายิ่งเพิ่มความเร้่าใจในทุกๆซีนที่ 2 ตัวละคหลักต้องฟาดฟันกันบนสังเวียน
คริส เฮมส์เวิร์ธ ในตอนนั้นสลัดค้อนชั่วคราวแล้วมาสวมบทบาท James Hunt นักซิ่งหล่อหน้าตาดี ผู้ที่สนุกและเสพติดชัยชนะเพียงเพราะต้องการคำสรรเสริญจากคนรอบข้าง และนารีข้างกาย เขากับคนง่าย ปาร์ตี้จัด เวลาอยู่ในสนามแข่งเขาคือนักซิ่งที่อาศัยสัญชาตญาณอย่างเดียว โดยส่วนตัวถือว่าได้เห็นพ่อเทพบุตรแดนออสซี่ในคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไป, แดเนียล บรูห์ล ตัวร้ายจากกัปตันอเมริกา ที่เล่นนี้เขากลายมาเป็นตัวละครด้านดีๆ Niki Lauda นักซิ่งออสเตรียน ที่ในสมองเขาคิดว่าการใช้ชีวิตหลังพวงมาลัยต้องสมบูรณ์แบบทุกอย่าง จริงจัง เก่งได้ต้องฝึกซ้อม ไม่ชอบเข้าสังคมจึงเข้ากับกับคนอื่นยาก
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Daniel Brühl หรือ Zemo วายร้ายในจักรวาล MCU แสดงนำเป็นพระเอกของเรื่อง
- Daniel Brühl ไม่ต้องปรับตัวเพื่อเป็น Niki Lauda เพราะเขาพูดภาษาเยอรมันได้มาตั้งแต่เกิด