Murderer (2023)

เมอร์เด้อเหรอ ฆาตกรรมอิหยังวะ 

Murderer Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

งานฆาตกรรมที่ลูกเล่นจัดจ้านงานภาพโคตรสวย ปล่อยมุกตลกฮาไม่มียั้ง แถมบทหนังยังหลอกล่อคนดูจนวินาทีสุดท้าย

หมวดหมู่ : Crime Thriller
สัญชาติ : Thai
กำกับโดย : Wisit Sasanatieng
ความยาว : 1 ชั่วโมง 50 นาที
นักแสดงนำ : Petchtai Wongkamlao, Eisaya Hosuwan

คำคมจากภาพยนตร์

"รู้ไหมรอยแผลเป็นนี้ไอได้มาจากไหน ถ้ารู้แล้วมึงจะหนาว"

เรื่องย่อ

เกิดเหตุฆาตกรรมในพื้นที่ สภ.ดอนกระโทก ที่มีคนตายถึง 7 ศพ ทำให้สารวัตรณวัฒน์มือปราบหมายเลข 1 ในพื้นที่ต้องทำการไขคดี โดยที่มีผู้ต้องสงสัยคือลูกเขยฝรั่งที่คนในครอบครัวผู้คนตายไม่ชอบขี้หน้าเลยสักนิด

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Murderer ฆาตกรรมอิหยังวะ นี่คือหนังที่เหมาะกับแฟนหนังแนวสืบสวนสอบสวนสาดความตลกฮาแบบไทย ความพิเศษคือเป็นงานแบบภาษาอีสานซึ่งแปลกใหม่ หยิบสไตล์หนังหาตัวล่าตัวฆาตกรรมที่เทรนด์กำลังฮิตมาเล่นให้เหมาะกับวัฒนธรรมแบบไทย  ซึ่งแน่นอนว่าหนังทำมาค่อนข้างดี แต่ด้วยความที่หนังหยิบกลิ่นอายมาจากการต่างประเทศเยอะ และรสชาติไม่ได้มีความแปลกใหม่ แถมประเด็นทางสังคมไทยแตะแบบผ่านๆ แต่สิ่งที่หนังโดดเด่นและน่าประทับใจคือการที่ผู้กำกับคุมโทนเรื่องราวได้ตลอดรอดฝั่งไม่หลุดกรอบ ผสมผสานกับลูกเล่นที่เก๋าเกมของเขาเอง แม้ว่าจะไม่ใช่งานที่ทำบทหนังมาเอง แต่หลอกล่อคนดูได้จนซีนสุดท้าย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

งานฆาตกรรมที่มีกลิ่นอายแบบ Agatha Christie ผสมผสานกับความตลกเสียดสีสังคมไทยกับครอบครัวอีสาน ที่มาพร้อมจับจังหวะนรกชวนเหว่อ มันเกิดคดีฆาตกรรมได้อย่างไงตามชื่อเรื่องนี้ พี่วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง หยิบไอเดียโทนภาพแบบที่เขาชอบใช้ในหนัง ส่วนตัวแล้วบนหนังมันสนุกตรงที่ว่าเล่าเรื่องแบบไม่ซับซ้อน ค่อยๆเล่าลำดับเหตุการณ์ไปทีละนิดเพื่อให้คนดูเก็บลายละเอียดระหว่างทาง หนังจึงค่อยๆพูดถึงสังคมไทยโดยเฉพาะฝั่งครอบครัวอีสานที่ไม่ค่อยโอเคกับมีการลูกสาวในบ้านมีสามีเป็นฝรั่ง พูดง่ายๆคือคนรอบข้างมองว่าพวกนี้แค่อยากได้ไปดูแลตอนแก่ก็เท่านั้น เป็นวิธีลัดที่จะไปเสวยสุข หวังสวัสดิการเมืองนอก เหมือนมาหลอกลูกตัวเอง แถมคนไทยก็มีชุดความคิดความเชื่อเรื่องดวงคำทำนายโน่นนี่ หรือผู้ใหญ่แก่ๆที่เชื่อเรื่อง Fake News มากกว่าจะค้นหาความจริงๆจริงๆมันไม่ได้ผิดอะไร แต่เพราะสังคมไทยในหลายๆพื้นที่ ผู้ใหญ่ชอบเอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งและเป็นการกดทับเด็กๆมากเกินไป และเด็กก็ต้องโอนอ่อนเชื่อฟังตามผู้ใหญ่

หนังเรื่องนี้เป็นหนังคดีฆาตกรรมที่ตัวละครฝรั่งโดนมองโดนตัดสินแบบอคติตามมุมมองแบบคนไทย แม้กระทั่งตำรวจเองก็ปลักใจเชื่อว่าเขยฝรั่งเป็นคนร้ายไปกับเขาด้วย นี่ยังไม่รวมถึงการไขคดีผ่านตัวละครสารวัตรของพี่หม่ำ ที่ตัวเองก็อคติไม่ชอบคนต่างชาติเหมือนกันมันกลายเป็นความบันเทิงที่ขำกร๊าก จริงๆพี่หม่ำเล่นบทตำรวจได้ค่อนข้างดี คือแกไม่ได้มาขายตลกเพื่อให้คนขำ พี่เขาพยายามสื่อสารการแสดงในมุมมองใหม่ๆ ซึ่งยอมรับว่ามันคือมุมมองใหม่ๆของพี่หม่ำ ฉากฮาๆมีเพียบ ผสมผสานกับการสืบสวนที่ต้องหาพยานหลักฐานที่มันพลิกไปพลิกมา แต่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่แต่ละตัวละครจะมีซีนตัวเอง ซึ่งโครงเรื่องช่วงแรกของหนังค่อนข้างดี ตัวรู้สึกว่าหนังทำดีเพราะมันทำให้ผู้ชมคาดเดาไม่ถูกว่าคนร้ายเป็นใคร แต่พอหนังเร่งรีบอยากปล่อยมุกตลกมันขายขำเลยกลายเป็นว่าความตึงเครียดในช่วงแรกที่ปูเรื่องราวมาเสน่ห์มันขาดหายไป เพราะหนังเร่งเครื่องเพื่อจะหาทางลงเพื่อจะได้รู้ว่าฆาตกรที่แท้จริงเป็นใคร

จริงๆแอบรู้สึกเสียดายที่พี่ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ไม่ได้เขียนบทหนังเอง เพราะผู้ชายคนนี้ทำหนังแล้วชอบมี Message ที่ชวนเหว่อคาดเดาอะไรไม่ได้หลอกล่อคนดูเป็นประจำ การมาจับหนังฆาตกรรมเรื่องใหม่เรื่องนี้ ถือว่าเป็นการแก้มือจากงานเรื่องก่อนอย่างปริศนารูหนอนได้ แต่เมื่อบทหนังไม่ได้เขียนเอง ก็กำกับไปตามเนื้อผ้า มันทำให้เราได้เห็นผลลัพธ์ว่า หนังหยิบไอเดียจากหนังฆาตกรรมเรื่องโน่นเรื่องนี้มาใช้เยอะเกินไป Agatha Christie, พี่น้อง Coen และ The Usual Suspects และหนังสไตล์ราโชมอน จนไม่มีเสน่ห์ไม่มีแนวทางชัดเจน ไม่มีความสมเหตุสมผล หยิบกลิ่นอายหนังฟิล์มนัวร์มาเยอะๆไปคือว่าง่ายๆคือจะทำหนังฆาตกรรมอีสานเพื่อขายพี่หม่ำโดยเฉพาะ นอกจากนี้การถ่ายฉากกรีนสกรีนของ Netflix ที่เข้าขั้นห่วยแยก มีทุนจากเมืองนอกมหาศาล เปิดตัวยิ่งใหญ่ แต่ทำออกมาแบบหลอกตาผู้ชมในซีนขับรถซึ่งคนดูก็มองออก

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • พี่หม่ำ จ๊กมก รับเล่นหนังเรื่องนี้ แม้ว่าคิวเยอะ เพราะผู้กำกับที่ชื่อวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง
  • คาแรกเตอร์ตำรวจหัวร้อน วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ผู้กำกับให้พี่หม่ำ จ๊กมก ออกแบบขึ้นมาเอง คือมอบอิสระให้เต็มที่
  • วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ไม่ได้เขียนบทหนังเรื่องนี้