ถ้าไม่มี Vin Diesel แฟรนไชส์ Fast จะเป็นอย่างไร

ไม่มีใครไม่รู้จักแฟรนไชส์นี้ Fast & Furious เดินทางมายาวนาน 22 ปี จากหนังอาชญากรรม ตำรวจปลอมตัวไปหาคนร้ายปล้นรถบรรทุก ข้ามฝากไปดริฟท์รถใจกลางโตเกียว พลิกโฉมหน้าหนังเรื่องนี้ ดึงดาราเก่ากลับมาปลุกชีพหนังให้กลายเป็นหนังปล้น จากนั้นก็พุ่งทลายสู่งานรวมทีมเปลี่ยนอาชญากรกลายเป็นฮีโร่พิทักษ์โลก กลายเป็นหนังที่ผู้คนมากมายชื่นชอบทำเงินถล่มทลาย ตัวละครทุกคนกลายเป็นที่แฟนๆหลงรัก

แต่จะว่าไปครั้งหนึ่ง Vin Diesel หัวหน้าครอบครัวเคยบอกล่าหนังเรื่องนี้ เพื่อไปเล่นหนังเรื่องนี้อื่น เช่น XXX, Riddick, Pacifier มันจะเป็นอย่างไร ถ้าหากหนังเหล่านี้ประสบความสำเร็จจริงจัง หรือรายได้ Tokyo Drift ปังขึ้นมาจริงๆ บางทีอาจไม่มีตัวละคร Dominic Toretto นำทีมบู๊แหลกเว่อวังอลังการแบบนี้ เราเลยรวบรวมความเป็นไปได้ ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งแฟรนไชส์นี้ไม่มีครอบครัวมันจะเป็นอย่างไร

1.ไม่มีครอบครัว

ถ้าหากใครได้ดู Fast & Furious สิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ คือฉากกินข้าวบ้าน Dom ที่ทุกคนจะมาร่วมตัวกินข้าวกัน สวดมนต์ ครอบครัวนี้มักจะออกไปทำภารกิจกู้โลก แต่จริงๆแล้วเดิมทีมันคือปาร์ตี้ ที่แก๊ง Dom มาพูดคุยกัน แต่เมื่อหัวหน้าครอบครัวไม่ได้กลับบ้าน เพราะหนีคดีฉากนี้เลยหายไป เมื่อกลายเป็นฮีโร่กู้โลกในภาค 6 ทำให้หลายๆคนได้กลับมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง และการจากไป Paul Walker ทำให้ภาค 7 ต้องเว้นไป และกลับมาอีกครั้งในภาค 8 และ ภาค 9
.
ถ้าหากไม่ได้ Vin Diesel กลับมาใน Tokyo Drift บางทีฉากนี้อาจไม่เกิดขึ้นในแฟรนไชส์ Fast และหนังคงดำเนินเรื่องที่มีฉากจบที่น่าประทับใจมากกว่านี้ โดยไม่ต้องมีอะไรข้องเกี่ยวกับคำว่าครอบครัว ไม่มีฉากกินข้าวอีกต่อไป รวมตัวทีมนักแสดงที่หากินด้วยมุกเดิมๆ บางทีแนวความคิดสร้างสรรค์ของผู้กำกับอาจจะไปได้ไกลกว่าที่เราจะเดาได้ว่าฉากจบแบบนี้มาอีกแล้วหรอเนี่ย

2.ไม่มีฮานอีกต่อไป

การปรากฏตัวของฮาน ใน Tokyo Drift กลายเป็นนักแสดงที่น่าสนใจในสายตาแฟนหนัง ตัวละครที่เสียสละใจนักเลงกับคนรอบข้าง จะมีใคาที่กล้าเอารถคันงามให้คนแปลกหน้าไปขับ เพื่อซื้อใจพระเอกอย่างณอห์น และมันน่าเศร้าจริงๆ ที่เขาตายคารถแบบนั้น เมื่อตัวละครนี้ได้รับความนิยมผู้กำกับก็เลยตัดสินใจเขียนบทให้เขามีบทบาทสำคัญในการรวมทีมทำภารกิจปล้นเงินที่บราซิล และภารกิจหยุดยั้งการปล้นอาวุธในหนังภาค 6 แต่เมื่อเสียงเรียกร้องจากแฟนหนังที่ขอทวงคืนความยุติธรรมให้ฮาน สุดท้ายก็ต้องจำใจให้ตัวละครกลับมาในภาค 9
.
Sung Kang คือนักแสดงคู่บุญกับผู้กำกับ Justin Lin มานาน เพราะเป็นเพื่อนชาวเอเชีย ที่ร่วมงานกันในหนังนอกกระแสที่สร้างชื่อจนถูกชักชวนมากำกับ Tokyo Drift อย่าง Better Luck Tomorrow จริงแล้วบทหนังดั้งเดิมฮานก็ตายจริงๆ ซึ่งถ้าหากไม่มี Vin Diesel บทบาทของเขาคงจบลงตั้งแต่หนังภาคนั้นไปนานแล้ว คงไม่มีฮาน ลี โผล่มาโกงตายแบบนี้

3.ไม่มีไบรอัน

ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่า Paul Walker จากโลกนี้ไปตั้งแต่ปี 2013 เขาคือนักแสดงที่แฟนหนังหลงรักและชื่นชอบมากที่สุด จากตำรวจที่ปลอมตัวเข้าไปสู่โลกอาชญากร สืบหาตัวคนร้ายปล้นรถบรรทุกข์น้ำมันที่โดนดักปล้นกลางดึก จนกลายเป็นว่าไบรอัน ดันผูกพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ไปแล้ว และกลายเป็นนักแสดงหลักในหนัง 2 Fast & 2 Furious ในไมอามี่
.
แต่สิ่งหนึ่งที่หลายๆคนไม่เคยรู้ก็คือ Paul Walker ไม่เคยเป็นตัวเลือกที่ค่ายหนังอยากให้มาแสดงหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะตัวเลือกใหญ่ๆปฏิเสธบทไบรอันไปหมด ทำให้ดาราหนุ่มได้ข้อเสนอแบบกระทันหัน และตอนที่ทีมงานคิดจะสร้างหนังภาค 3 โปรดิวเซอร์หนังก็มองว่ามันหมดเวลาของ Paul จริงๆแล้ว เพราะตอนนั้นเขาอายุเยอะเกินไป ที่จะกลายเป็นดาราระดับแถวหน้า และไม่น่าจะไปได้ไกลในฐานะนักแสดง

4.ไม่มีเล็ตตี้

คนรักของหัวหน้าครอบครัว เล็ตตี้ คือตัวละครที่ Michelle Rodriguez แสดงมาตั้งแต่ภาคแรก แล้วก็กลับมาอีกครั้งในหนังสั้น Los Bandoleros ที่ปูเรื่องราวก่อนจะเข้าไปสู่หนังภาค 4 เธอพยายามช่วยให้ดอม ได้กลับบ้าน ก่อนที่บทหนังจะเขียนให้เธอถูกฆ่าตายโดยแก๊งค์บราก้า จริงๆแล้ว Michelle ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าจะได้กลับมาสู่แฟรนไชส์นี้ เพราะภาพถ่ายเธอดันไปโผล่ในฉากจบภาค 5 และก็ถูกชักชวนกลับมา พร้อมกับการเฉลยว่าเธอยังไม่ตายพร้อมกับอาการความจำเสื่อม

Michelle Rodriguez เป็นนักแสดงหญิงที่ส่วนใหญ่จะมีผลงานในแนวแอ็คชั่นคิวบู๊จัดๆแทบทุกปี เธอคงได้ไปเล่นหนังเรื่องอื่นต่อเนื่องไม่ได้วนเวียนกับครอบครัวนี้ ไม่ได้แต่งงานกับ Dom ไปบู๊ทำภารกิจกู้โลกแบบที่หลายๆคนเห็นกันแน่ๆ และเขาคงไม่ได้ตามหาเธอ ไม่ต้องไปอยู่กับOwen Shaw ในภาค 6

5.ไม่มีเดอะร็อค

ตัวละคร Luke Hobbs กลายเป็น 1 ไฮไลท์สำคัญสำหรับ Fast & Furious เมื่อ Vin Diesel ทำตามคำเรียกร้องของแฟนๆ ตัดสินใจดึง Dwayne Johnson มาร่วมงานในภาค 5 เขากลายเป็นหัวใจสำคัญไปทันที จากตัวละครที่ไล่ล่าจับเป็นแก๊งค์ Dom ที่บราซิล จนกลายเป็นมิตรแท้ ให้ความช่วยเหลือกันเพื่อจับ Owen Shaw ในภาค 6 ทุกคนต่างคิดว่า เดอะร็อค จะก้าวมามีบทบาทสำคัญ หลัง Paul Walker จากโลกนี้ไปเมื่อปี 2013 เพราะโครงสร้างตัวละครนี้คล้ายๆกันคือเป็นตำรวจ และกลายเป็นอาชญากรในเวลาต่อมา
.
ถ้าหากไม่มี Vin Diesel หนังภาค 5 คงไม่มีฉากบู๊ที่สู้กันได้โคตรมันส์แน่ๆ ใครจะไปคิดละว่าชีวิตนี้จะได้เห็น 2 นักแสดงหุ่นล้ำหัวล้านสายบู๊ได้สู้กันแลกหมัดกันบนจอยักษ์แบบนี้ เพราะเดอะร็อค ในตอนนั้นเขาคือนักแสดงเกรดรองเท่านั้น ยังไม่ได้รับโอกาสเป็นนักแสดงแถวหน้าในวงการบันเทิงแบบทุกวันนี้ คงไม่ผิดอะไรถ้าจะบอกว่า Fast & Furious เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอด การผิดใจกันเรื่องการแสดงกับ Vin Diesel เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นความบาดหมางที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ บางทีถ้าหากวันนั้นไม่มีการปรับเปลี่ยนบท Tommy Lee Jones เป็น Hobbs บทสรุปของเดอะร็อคอาจไม่เป็นแบบนี้

6.ไม่มีโนบอดี้

หลังจบ Fast 6 หลายๆคนคาดคิดว่า Fast 7 จะเดินหน้าไปทางไหนดี เพราะ Dom และเพื่อนได้อิสรภาพกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติ ไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ กลับมาอยู่ในอเมริกาในฐานะพลเมืองถูกกฏหมาย การเข้ามาของ Jason Statham ทำให้มี 1 ตัวละครปรากฏตัวนั้นคือ โนบอดี้ ที่ได้นักแสดงจอมเก๋า Kurt Russell มาแจม เขาคือ หัวหน้าทีมปฏิบัติการลับที่เสนอตัวมาช่วยเหลือ Dom เพื่อหยุด Deckard Shaw และทำภารกิจชิง God’s Eye ดวงตาแห่งเทพ
.
ถ้าไม่มีตัวละครนี้อาจไม่ได้เห็น Dom และเพื่อนๆ ได้ทำงานกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่พวกเขาอยู่ขั้วตรงข้ามกันมาตลอด มันเป็นไปได้อย่างไรที่อาชญากรตัวพ่อที่ทางการต้องการตัว จับมือทำงานเป็นสายลับ ทำภารกิจจับ Deckard Shaw แน่นอนว่า มันเป็นการยกระดับความมันส์ภาค 7 อัดแน่นไปด้วยภารกิจการต่อสู้ที่ดุเดือด และกลายเป็นหนังโปรดในใจแฟนๆสำหรับภาคนี้

7.ไม่มีฉากล้างแค้น

นี่คือตัวละครที่เรียกเสียงฮือฮาในฉากท้ายเรื่องภาค 6 การมาสวมรอยขับรถชนฮานในวันนั้น จนกลายเป็นหนังภาค 7 ที่ได้บู๊กันโคตรมันส์ จนแฟนหนังประทับใจ Jason Statham คือนักแสดงสายบู๊ที่ทีมงานอยากได้มาเล่นอยู่ในหนังตั้งแต่ภาค 6 ก่อน Luke Evans ด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าคิวแน่นติดเล่นหนัง Parker ทำให้กว่าจะได้เล่นหนังก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปี จากบทบาทแอ็คชั่นสตาร์สู่นักฆ่าปั่นป่วนครอบครัวไปตีกับนักเลงข้างถนน
.
ถ้าไม่มี Vin Diesel คงไม่มีฉากแอ็คชั่นเดือดล้างแค้นแก้แค้นกันไปมาในภาค 7 จาก LA ไปดูไบแน่ๆ ผู้ชมอาจไม่ได้เห็นการตีกันข้างถนนของอาชญากรและนักฆ่าสุดโหด อาจไม่มีตัวละคร Deckard Shaw ว่ากันตามตรงนี่คือตัวร้ายในหนังที่ว่ากันว่าสมน้ำสมเนื้อสู้กับ Dom ได้สูสี ซึ่งถ้าไม่มีเขา เจ้าตัวคงกลับไปเล่นหนังกับ Guy Ritchie อีกครั้ง

8.ผกก. ได้ทำหนังต่อไป

จะบอกว่า Justin Lin คือคนที่ชุบชีวิตแฟรนไชส์เรื่องนี้ก็คงไม่เกินจริงเกินไป เพราะตอนที่เข้าไปทำ ไม่มีใครคิดว่าหนังเรื่องนี้จะกลับมาฮอตฮิตอีกครั้ง การใส่วัฒนธรรมการดริฟท์ลงไปสร้างความประทับใจให้แฟนหนังที่ฉีกกรอบเดิม ไม่ได้อิงที่นักแสดงเกรดเอเป็นคนดำเนินเรื่อง และเขาก็ปรุงแต่งหนังเรื่องนี้ให้กลับมาพีค ด้วยการขนนักแสดงชุดเก่ากลับมา สร้างพล็อตเรื่องจากโจรอาชญากร กลายเป็นฮีโร่พิทักษ์โลก
.
มันน่าเสียดายเหมือนกันที่คนสร้างหนังเรื่องนี้ อยู่ดีๆ ดันมาถอนตัวกลางทางในวันที่เปิดกล้อง Fast 10 เพราะไอเดียของผู้กำกับไต้หวันคนนี้ ยังช่วยขับเคลื่อนหนังได้ดีอยู่ Lin คือคนที่โน้มน้าว Vin Diesel คัมแบ็คแฟรนไชส์อีกครั้ง ถ้าหากวันนั้นเขาไม่แชร์ไอเดียให้ฟังบางที Fast อาจไม่มีวลีคำว่าครอบครัว และบางทีหนังคงเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ไม่หลุดออกนอกกรอบตามใจพี่ Vin