BatmanMovies_00

รวมอัศวินรัตติกาล Batman ในโลกภาพยนตร์ ย้อนดูแต่ละ Generation มีใครบ้าง

หากจะพูดถึงจักรวาล DC แล้ว Batman ก็นับเป็นอีกตัวเอกของจักรวาลที่มีแฟนๆ เป็นจำนวนมาก ด้วยความที่เขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีพลังพิเศษ (ยกเว้นว่านับความรวยเป็นความสามารถ) แต่สามารถเป็นฮีโร่ที่สามารถยืนหยัดเคียงเหล่าบรรดาฮีโร่ในค่ายที่ทรงพลังต่างๆ ได้มากมาย จนทำให้มีการสร้าง Batman ออกมาเป็นภาพยนตร์อยู่บ่อยครั้ง จริงๆ คือมีออกมาตั้งแต่สมัยเป็นขาวดำด้วยซ้ำ แต่เรากลัวว่ามันจะเก่าไป เลยขอเริ่มต้นที่ Batman ยุค Michael Keaton ในปี 1989 แทน

เพื่อต้อนรับ Batman รุ่นน้องคนล่าสุดอย่าง Robert Pattinson ใน The Batman (2022) เพิ่งฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราจึงอยากพาแฟนเพจไปรู้จักกับบรรดา Batman รุ่นพี่หลายเจเนอเรชั่นก่อนหน้ากันดู ว่าผลงานของพวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง และมีเวอร์ชั่นไหนที่ถูกใจคุณมากที่สุด ลองไปดูกันเลย

Michael Keaton ใน Batman (1989) – Batman Returns (1992)

ในปีที่มีการประกาศทำ Batman ในเวอร์ชั่นนี้ ก็ได้กระแสตอบรับสุดยี้มาจากแฟนๆ คอมมิคในทันที ทั้งเรื่องที่ผู้กำกับ Tim Burton ดันไม่ได้เป็นแฟนคอมมิค แถม Michael Keaton เองก็ดูเป็นตัวเลือกที่ไม่เข้าท่าเท่าไร เมื่อเทียบกับดาราคนอื่นๆ ที่อยู่ใน List อย่าง Mel Gibson, Kevin Costner และ Pierce Brosnan (ที่กลับรู้สึกว่าน่าจะแปลกกว่าอีก) จนทำให้ค่าย Warner Bros ได้รับจดหมายคัดค้านอย่างหนักหน่วงถึงบทบาทนี้ของ Michael Keaton

แต่เมื่อกระแสวิจารณ์แรกออกมานั้นบรรดาเสียงก่นด่าก็เริ่มหายไปในทันที เพราะมีแต่เสียงชื่นชม Machael Keaton ว่าเหมาะกับนี้เป็นอย่างมาก ทั้งในแง่ความเข้มข้นของตัวละครที่มีความโดดเดียว ชวนหลอน และดูเป็นคนประหลาดตามฉบับของ Tim Burton จนหนังทำรายได้ทุบ Box Office จนต้องสร้างภาคต่อตามมาใน Batman Returns ในปี 1992 ซึ่งก็ยังได้รับคำวิจารณ์อย่างดีเต็มกระเป๋ากลับไปเหมือนเดิม ทำให้หลายๆ คนที่ดู Batman ฉบับนี้ในช่วงยุค 90s แล้ว มักจะมี Keaton เป็น Batman ในดวงใจกันหลายคนเลย 

ซึ่งเขาก็กำลังจะได้กลับมารับบท Batman คนเดิมอีกครั้งในหนังที่จ่อคิวจะเข้าฉายในปีนี้อย่าง The Flash ที่จะเป็นการขยำจักรวาล DC จากการเกิด Event Flashpoint ที่น่าจะสร้างเซอร์ไพร์ซให้กับแฟนๆ และเป็นการจัดระแบบจักรวาลกันอีกครั้ง รวมถึงเขายังมีชื่อใน Batgirl ฉบับหนังด้วยเหมือนกัน นับว่าเป็นการกลับมาของตำนานที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

Val Kilmer ใน Batman Forever (1995)

หลังจากภาค Batman Returns ที่ทั้งดาราและผู้กำกับชุดเดิมถอนตัวกันหมด หนังก้ได้ตกมาอยู่ในมือของผู้กำกับอย่าง Joel Schumacher โดยทื่มีดาราอย่าง Daniel Day-Lewis, Ralph Fiennes รวมถึง Johnny Depp ที่ดูสนใจในบทนี้จากความสำเร็จของหนังในภาคก่อนๆ แต่สุดท้ายแล้วบทก็ตกมาอยู่ที่หนุ่มอย่าง Val Kilmer ที่เข้าตาผู้กำกับมาจากหนังเรื่อง Tombstone พอดี 

ซึ่งพอเขาได้มาสวมชุดนี้หลายๆ เสียงก็ค่อนข้างแตกอยู่ ทั้งในแง่ที่ว่าเขาเทียบ Michael Keaton ไม่ได้ บ้างก็ว่าเขาเหมาะกับบทมากๆ แล้ว แต่ด้วยคุณภาพของตัวหนังในภาคนั้นที่ค่อนข้างสาวแตกและมีความเถิดเทิงเกินกว่าธีมของ Batman เลยทำให้คำวิจารณ์ออกมาค่อนข้างเละเทะอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะทำรายได้มากกว่า Batman Returns แต่ Val Kilmer ก็เลือกที่จะเล่นภาคเดียวก่อนที่จะถอนตัวออกไป และหลังจากนั้นชีวิตนักแสดงของเขาก็ดูเหมือนจะเป็นขาลงไปยาวๆเลย

George Clooney ใน Batman and Robin (1997)

อีกหนึ่งบทบาทที่ George Clooney เคยออกมาบอกว่าเป็นการตัดสินใจผิดพลาดที่สุดในชีวิตการแสดงของเขาสำหรับการสวมชุด Batman ในฉบับที่หัวนมเด่นชัดยิ่งกว่าอะไรในเรื่อง แถมคุณภาพของหนังสาหัสเกินเยียวยา ทั้งความเป็นโฮโมเซ็กช่วลระหว่างตัว Batman และ Robin ที่ดูเกินเลยกว่าความเป็นฮีโร่และลูกมือ จนทำให้แฟนๆ ต่างก่นด่าสาปแช่งหนังเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย

ซึ่งสิ่งที่การันตีความห่วยยิ่งกว่าอะไรก็เห็นจะเป็นการที่หนังเข้าชิง Razzie Award หรือรางวัลสำหรับยอดแย่ประจำปีไปถึง 11 สาขา และติดอันดับหนังยอดแย่ตลอดกาลจากหลายสำนัก ไปจนถึงรายได้ที่ต่ำกว่า Batman หลายๆ ภาคที่ผ่านมา จนปิดตำนาน Batman ไปหลายปีเหมือนกัน แต่ในด้าน George Clooney เองที่หลังจากตัดสินใจพลาดแล้วก็ไม่ซ้ำรอย เพราะหนังหลังจากนี้ของเขาก็ดูมีแต่หนังดีๆ ที่พาชีวิตเขากลับไปสู่ขาขึ้นอย่างรวดเร็ว

Christian Bale ใน Batman Begins (2005) – The Dark Knight (2008) – The Dark Knight Rises (2012)

หลังจากที่ Batman กลายเป็นมุขตลกอยู่นาน ผ่านไป 8 ปีก็ดูเหมือนจะมีคนลองดีหยิบเอา Batman มาทำเป็นหนังกันอีกครั้ง และชายคนนั้นก็คือ Christopher Nolan ที่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มสร้างชื่อจากหนังสุดเฉียบอย่าง Memento และ Insomnia จนโปรเจคนี้กลายเป้นที่จับตามองอย่างมาก และมีคนมาเป็นตัวเลือกมากมายทั้ง Jake Gyllenhaal, Heath Ledger และ Cillian Murphy ซึ่งสุดท้ายแม้ว่าบทจะตกไปเป็นของ Christian Bale แต่ Heath Ledger และ Cillian Murphy ก็ได้มาเป็นส่วนนึงของแฟรนไชส์ในตำนานนี้อยู่ดี

Christian Bale ได้รับคำชื่นชมพอสมควรในบท Batman ฉบับนี้ แต่ก็มีโดนล้ออยู่พอสมควรเลย สำหรับการทำดัดเสียงเข้มตอนเป็น Batman จนคนต้องมาถามกันว่า จะต้องแปลงเสียงเข้มเบอร์นี้กันเลยเรอะ จนกระทั่งได้มีการปรับอีกทีในตอน The Dark Knight เพื่อให้มันดูตลกน้อยลง และ The Dark Knight เองก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนัง Superhero ที่ดีที่สุดตลอดกาลของใครหลายๆ คนพร้อมทั้งเข้าชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมกับเขาด้วย แต่น่าเสียดายที่ผลงานสร้างชื่อให้กับทุกคนในเรื่องนี้ กลับต้องเสียนักแสดงชั้นดีอย่าง Heath Ledger ในบทโจ๊กเกอร์ไปตลอดกาล

Will Arnett ใน The Lego Movie (2014) – The Lego Batman (2017) – The Lego Movie 2 (2019)

อีกหนึ่ง Batman ในเวอร์ชั่นที่เราไม่ต้องเห็นหน้าคนแสดง (คนพากษ์) แต่กลับสร้างสีสันให้กับตัวละคร Batman ได้อย่างน่าจดจำ เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือล้น และอารมณ์ขันที่น่าประทับใจ ใน The Lego Movie ที่ได้นักแสดงอย่าง Will Arnett มาพากษ์เสียงได้ดีมากๆ จากการทำเสียงหล่อเข้ม เพื่อเสียดสีตัวละคร Batman ที่มีมาก่อน และสร้างความตลกได้มากเกินกว่าที่จะมี Batman ฉบับไหนเคยทำมาก่อน

ซึ่งความตลกที่ว่าก็มาจากความเข้าอกเข้าใจในตัวละครนี้เป็นอย่างดี และหยิบเอาความเนิร์ดเหล่านี้มาใช้ได้อย่างตรงจังหวะ ถูกใจแฟนๆ จนไม่ว่าจะเป็นแฟนๆ รุ่นใหญ่ หรือรุ่นเล็กก็สามารถหลงรักตัวละครนี้ได้ไม่ยาก และด้วยความโดดเด่นขนาดนี้ก็ทำให้หนังมีภาค Spin-off ออกมาเป็น The Lego Batman Movie (2017) รวมถึงการที่ได้กลับมาอีกครั้งใน The Lego Movie 2 (2019) ด้วย นับว่าเป็นอีก Batman ขวัญใจหลายๆ คนเลยทีเดียว

Ben Affleck ใน Batman V Superman: Dawn of Justice (2016) – Suicide Squad (2016) – Justice League (2017)

ในจังหวะขาขึ้นของวัยกลางคนอย่าง Ben Affleck ที่เพิ่งมีงานหนังดีๆ ที่กำกับเองอย่าง Argo และหนังที่ร่วมงานกับผู้กำกับมือดี David Funcher นั้น เขาก็ตัดสินใจเลือกที่จะกลับมารับบทเป็น Superhero อีกครั้งใน Batman หลังจากที่เคยพังยับไปแล้วในบท Daredevil (2003) แต่ในครั้งนี้เขากลับไม่คว่ำแบบนั้น เพราะ Batman ในเวอร์ชั่นของเขาที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ และความหนาแน่น กลับได้รับการต้อนรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดี ใน Batman V Superman: Dawn of Jistice 

แม้ว่าตัวหนังจะมีปัญหาเรื่องบทอยู่ไม่น้อย แต่ทว่าในแง่ความบันเทิงของวิชวลต่างๆ และฉากแอคชั่นสุดเดือดสไตล์ผู้กำกับ Zack Snyder ก็ทำให้ตัวหนังออกมามีสีสันและถูกใจแฟนบอยอย่างเต็มที่ ทำให้หนังปูทางไปสู่ Justice League ได้อย่างน่าชื่นชม แต่ก็น่าเสียดายที่ Justice League กลับไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร จนต้องมีการทำ Snyder’s Cut ออกมาให้ดูดีขึ้น อย่างไรก็ตามดูเหมือน Batman ที่กำลังออกตามมาในฉบับใหม่นั้นใน The Batman (2022) กลับได้ดาราหน้าหล่ออย่าง Robert Pattinson มาแทน ส่วน Ben ก็ได้แต่ลุ้นว่าเขาจะได้กลับมาร่วมใน DC ในจักรวาลของ Snyder อยู่หรือไม่

Robert Pattinson – The Batman (2022)

Batman ในฉบับตีความใหม่ และกลับไปสู่รากเหง้าของความเป็นนักสืบของตัวละคร ที่เน้นด้านการสืบสวน ฟิลม์นัวร์ ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ต้องเน้นฉากแอคชั่นใหญ่ๆ ก็ตาม ทำให้หนังได้ใจแฟนๆ Batman หลายๆ คนไปมาก ในการออกแบบโลก Gotham ที่ยังคงเน่าเฟะ และมี Batman มาเป็นสัญลักษณ์ของความกลัวเพื่อไม่ให้คนกล้าทำผิด

ต้องบอกว่า Robert Pattinson ก็รับบทบาทนี้ได้ดี ไอเดียเรื่องขอบตาดำ ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ตลกเท่าไร อีกทั้งหนังยังไม่ค่อยลีลาเยอะ แล้วเล่าตรงๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยังติดตามเรื่องได้ ในส่วนของวายร้ายก็ออกแบบมาได้ดี จนคิดว่าถ้า The Ridler ยังบ้าได้ขนาดนี้ แล้ว Joker จะออกมาเดือดได้ขนาดไหน มันเลยออกมาเป็นหนังฮีโร่สืบสวนขยี้ระบบทุจริตฉ้อฉลสุดเดือดที่อยากแนะนำกันจริงๆ