The Worst Person In The World (2022)

หัวใจไม่สงบอยากจบที่เธอ

The Worst Person In The World Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังรักที่รสชาติหวานขมกลมกล่อมาก ชีวิตรักไม่มีอะไรเพอร์เฟ็คไม่มีใครดีไปหมด คนเรามีจุดบอกที่สร้างบาดแผลให้กับคนรอบข้างด้วยกันทั้งนั้น มีแค่รับได้หรือรับไม่ได้ เนื้อหาทรงพลัง ตีแผ่ประเด็นความรักที่จริงจัง

หมวดหมู่ : Drama Romantic
สัญชาติ : Norway
กำกับโดย : Joachim Trier
ความยาว : 2 ชั่วโมง 8 นาที
นักแสดงนำ : Renate Reinsve, Anders Danielsen Lie

คำคมจากภาพยนตร์

"I wasted so much time worrying that I would do something wrong, but mistakes turned out to be what I’m the least concerned about."
“ผมเสียเวลาไปมาก กังวลว่าจะทำอะไรผิด แต่สิ่งที่ผิดพลาด กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่ได้กังวล”

เรื่องย่อ

จูลี่นักเรียนแพทย์ที่ยังตัดสินใจกับอนาคตไม่ได้ พบกับเรื่องที่ทำให้หัวใจไม่สงบ เมื่อเธอต้องเลือกระหว่าง แอคเซลหนุ่มอายุมาก นักเขียนการ์ตูนชื่อดังสุดเท่ กับ อีวิน หนุ่มน่ารักสุดซอฟ อารมณ์ดี แล้วครั้งนี้หัวใจเธอจะสงบที่ใคร

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Worst Person In The World เป็นหนังรักรอมคอม Coming Of Age ที่เนื้อหาตรงใจคนหนุ่มสาวยุคปัจจุบัน กระเทาะเปลือกมุมมองผู้หญิงที่แสว่งหาความรักผู้ชายที่ใช่มาครองในชีวิต ภายใต้ความสัมพันธ์ที่จริงจังสอดแทรกปัญหาชีวิตรักที่ไม่ได้สวยงามมุมมองคนช่วงชีวิตทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา  หนังดูเข้มข้นแต่สนุกสนานมีความตลก ดราม่า ตึงเครียดจนปวดตับกับความรัก โรแมนติก พาคนดูไปสำรวจความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นและสัมผัสถึงความน่ากลัวของความไม่แน่นอนในชีวิต ไม่เว้นแม้แต่เรื่องราวของการค้นหาตัวตน ผสมผสานกับเรื่องราวของความต่างระหว่างวัยและการผันเปลี่ยนของสังคมได้อย่างลงตัว

  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังรางวัล
  • สายหนังโรแมนติก

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังโรงดีๆมีคุณภาพที่ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังพูดภาษาอังกฤษ ใช้ดาราดังใช้ซีจีใหญ่โต นับวันเริ่มหายากลงไปเรื่อยๆแล้ว กระทั่งการมาของหนังเรื่องนี้ละที่ทำให้เรารู้สึกว่าการดูหนังโรงยังมีคุณค่า แถมเนื้อหาหนังเมื่อเล่าเรื่องผ่านตัวละครผู้หญิงอย่าง จูลี่ สาววัยใกล้ 30 ที่กำลังเป็นนักเรียนแพทย์ แต่ทว่าเธอไม่มีอะไรเป็นหลักแหล่งที่มั่นคง ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการจะเป็นแพทย์จริงๆหรือเปล่า ถ้าหากเป็นคนทั่วไปมีดีกรีเป็นแพทย์คงทนเรียนให้มันจบๆไป แต่ทว่าเมื่อค้นหาคำตอบที่ชีวิตต้องการ เธอเลยปลีกตัวออกมาจากการเรียนหมอแล้วแสว่งหาเส้นทางใหม่ๆให้ตัวเองในการเป็นช่างภาพ การเปลี่ยนแปลงชีวิตช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อแบบนี้มันเป็นความเสี่ยง แต่ไม่ใช่คนเราทุกคนที่คิดได้ แต่เลยขอทำตามความรู้สึกตัวเองดีกว่า แน่นอนว่ามันกระทบไปหมด ไม่ว่าจะเป็นชีวิตกับคนรักคนปัจจุบันที่มีอายุมากกว่าเธอและคนรักก็อยากจะมีครอบครัวซึ่งมันส่วนทางกับสิ่งที่เธอต้องการ ความสัมพันธ์ทัศนคติที่เปลี่ยนแปลง การเป็นคนวัยเลข 30 ที่ไม่มีอะไรมั่นคงสักอย่างทำให้การดำเนินชีวิตในแต่ละวันวุ่นวายยุ่งยาก สับสนเอาไงต่อกับชีวิตดีละ เธอมีแพชชั่นหลงใหลในสิ่งที่ไม่มั่นคงอย่างการถ่ายภาพ และมันทำให้เธอได้พบเจอกลุ่มคนใหม่ๆ ได้พบเจออะไรที่แปลกไปจากการมีชีวิตแบบรูทีนอยู่ไปวันๆ เนื้อหาเล่าได้แยบยลไม่มีอะไรที่น่าเบื่อจนอยากลุกออกจากโรง เนื้อหาแต่ละไดอาล็อคมันกระแทกใจคนอายุใกล้ 30  คนเรามักหมกหมุ่นเรื่องรักเรื่องคู่ครอง ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆจนหลงลืมไปหรือเปล่าว่า ชีวิตปัจจุบันเรามีความสุขจริงหรือเปล่า ขณะเดียวกันหนังยังทำให้คนเราคิดเสมอว่าชีวิตคนเราเกิดมาจริงๆแล้วเราต้องการอะไรกันแน่ ภายใต้ความรอมคอมรักโรแมนติกมันไม่เลี่ยนไม่จืดตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม

หนังขับเคลื่อนผ่านตัวละครผู้หญิงได้น่าสนใจ ผู้หญิงยุคนี้ทำอะไรหลายอย่างเก่งมากๆ เพียงแต่ว่าบางคนยังไม่รู้ชีวิตที่แท้จริงต้องการอะไร หญิงสาวที่เรียนเก่งเป็นนักศึกษาแพทย์ใช้ชีวิตแบบไม่จริงจังในเรื่องรัก เมื่อคนรักที่อายุมากเกินไปมันเกิดช่องว่างทางมุมมอง ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตมุมมองทางสังคมไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าการผละออกมาเป็นคำตอบที่ดีสุด บางคนเลือกที่จะอยู่เพราะไม่อยากเสียเวลาหาคนใหม่ เธอเลือกจะเดินหน้าหาคนที่เหมาะสมกับตัวเธอเอง ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก บทสนทนาในเรื่องมันคงไปตรงกับชีวิตใครหลายคน พูด ซับไทยที่แปลมาได้ฮาลั่น เราไม่สามารถไปบังคับให้เราคิดเหมือนกันได้ ถ้าเห็นต่างเกินไปซะดีกว่า ยิ่งการค้นหาตัวเองมันเป็นการลองผิดลองถูก มันเลยทำให้เธอพบเจออะไรใหม่ ที่ได้เรียนรู้และทดลองไปพร้อมๆกันเธอได้พบชายอีกคนที่อายุไม่ห่างกัน คนที่ทำให้เธอไม่กดดันเป็นตัวของตัวเองดีกว่าแฟนคนเดิม แต่เมื่อคบกับอีกคนก็ดีแนวโน้มมันจะไปไม่รอดซะมากกว่า หนังมันสอดคล้องกับชีวิตคนในยุคนี้ที่โหยหาชีวิตคู่ทดลองคบคนไปเรื่อยเพื่อหาคนที่ดีพอกับตัวเอง แถมได้เห็นมุมมองของผู้หญิงในยุคสมัยนี้มากขึ้นมีความเป็นมนุษย์ ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือมันเชื่อมโยงว่า การดิ้นรนเพื่อเป็นตัวของตัวเองของผู้หญิงมันเป็นอะไรที่ยาก มันไม่มีความสงบแถมมันจะย้อนกลับมาทำร้ายเราอีก

สิ่งที่หนังสอดแทรกลงไปได้อย่างคมคายและทำให้เราได้คิดได้คือ ความรักกับชีวิตมันเหมือนกันคือมันไม่เคยมีอะไรแน่นอน นานวันไปมันไม่หวานไม่สวยงามและออกจะขมอีกตั้งหาก การเข้าไปอยู่ในชีวิตใครสักคนมันก็เต็มไปด้วยจุดบอดจุดดำด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะคบผู้ชายที่อายุมากกว่ามีหน้าที่การงานที่มั่นคง หรือคนอายุรุ่นเดียวกัน คนเราก็มีความบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเป็นชายในฝันที่คุณจะไปเกาะหวังพึ่งพาได้ตลอดไป ผู้หญิงมีตัวเลือกมีชอยส์ให้เลือกเยอะ แต่เราก็มักจะมองข้อเสียคนอื่นหาข้ออ้างไปเรื่อยๆ และมักจะนึกถึงตัวเองก่อนเสมอ และเห็นแก่ตัว โดยไม่ยอมรับความจริง มันเลยทำให้ชีวิตรักคนหนุ่มสาวยุคนี้เลิกลากันง่ายจากลากันง่ายไม่หลงเหลือความทรงจำที่ดีต่อไป เราต้องทนทุกข์กับชีวิตรักที่เป็นปัญหาโลกแตกไปเรื่อยๆ เหมือนเราไปสร้างบาดแผลตราบาปให้ใครเอาไว้โดยที่เราเองก็ไมรู้ตัวเอง บางคนจดจำเราเรื่องแย่ บางคนไม่อยากเจอหน้าไม่อยากพูดคุยกันเราอีก จำเราในแง่ลบและยากจะมองในมุมดีๆ ในทางกลับกันเราเองก็ถูกกระทำได้รับบาดแผลชีวิตรักที่ไม่สมหวังจากผู้อื่นจนกลายเป็นแผลในใจที่ยากจะลืมจะลบออกและมันก็คงต้องใช้เวลา สิ่งที่หนังบอกเราคือเราไม่ต้องเสียใจหรือไปรู้สึกผิดอะไรกับเรื่องเก่าๆ แค่รู้ไว้ว่ามันแค่ผ่านมาในชีวิตเราแค่ครั้งหนึ่งจบแล้วก็ผ่านไปไม่ไปฟูมฟายกับมันซะ คนเขาไม่ได้อินกับเราและมันก็วนเวียนกลายเป็นความรู้สึกผิดแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราเองก็ควรก้าวเดินต่อไปเพราะชีวิตมันเป็นของเราไม่ใช่ของคนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป ต้องยกย่องบทหนังที่คมคายของ Eskil Vogt และผู้กำกับ Joachim Trier ที่ทำให้เป็นหนังรักดราม่าที่มีความรอมคอมจับต้องได้ ผ่านการแสดงของ Renate Reinsve ที่ตีความได้จริงจังทรงพลังตั้งแต่ซีนแรกจนซีนสุดท้าย

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ก่อนมาแสดงหนังเรื่องนี้ Renate Reinsve จะยุติงานแสดงเพราะว่าเธอไม่เคยโด่งดังเลย
  • หนังเข้าชิงออสการ์ 2022 สาขาหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมและบทหนังดั้งเดิมยอดเยี่ยม
  • Renate Reinsve เคยร่วมงานกับผู้กำกับ Joachim Trier มาแล้วในหนังเรื่อง Oslo, August 31st