Up (2009)

ปู่ซ่าบ้าพลัง

Up Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

เรื่องราวสุดประทับใจ ที่ชวนเสียน้ำตากันตั้งแต่ฉากเปิด อีกหนึ่ง Animation อันทรงคุณค่าจากค่าย Pixar

หมวดหมู่ : Adventure Animation Comedy
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Pete Docter, Bob Peterson
ความยาว : 1 ชั่วโมง 36 นาที
นักแสดงนำ : Edward Asner, Jordan Nagai, John Ratzenberger

คำคมจากภาพยนตร์

“You will always be my greatest adventure…”
"คุณจะเป็นการผจญภัยที่ดีที่สุดของฉันเสมอ…”

เรื่องย่อ

คาร์ล คุณปู่ในวัย 78 ปี ที่เคยแต่งงานมีคนรัก และทั้งคู่ก็มีความฝันที่จะได้ออกเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน แต่แล้วเธอก็จากไปเสียก่อน ทำให้เขายึดติดกับตัวบ้านที่เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนความทรงจำของเขากับภรรยามากๆ ในวัยบั้นปลายของชีวิต เขายังคงตัดสินใจตามฝัน ด้วยการนำลูกโป่งจำนวนมากติดไว้กับบ้าน เพื่อให้บ้านลอยขึ้นไป และออกเดินทางท่องเที่ยวตามที่ตั่งใจเอาไว้ แต่แล้วเขาก็กลับพบกับ รัสเซล ลูกเสือตัวน้อยวัย 9 ขวบ ที่ดันจับพลัดจับผลูขึ้นมากับเขาพอดีเลยได้ออกผจญภัยกับบ้านลอยได้ไปด้วยกัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Up เป็นอนิเมชั่นชั้นดีอีกเรื่องที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับของค่าย Pixar อยู่แล้ว ด้วยเรื่องราวที่ทำออกมาได้ซึ้งกินใจ รวมถึงในด้านของมิตรภาพระหว่างวัย ก็ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี มีประเด็นที่น่าสนใจควบคู่ไปกับความบันเทิงตามสไตล์ของค่ายนี้ที่เป็นจุดแข็งที่เด่นชัด และ Up เองก็น่าจะเป็น Animation อันดับต้นๆ อีกเรื่องของทางค่าย ที่มีคนรักเป็นจำนวนมาก ถ้าหากชอบ Animation จาก Pixar โดยผู้กำกับ Pete Docter อย่าง Inside Out หรือ Soul แล้ว เรื่องนี้ก็คือโดนใจกันอย่างแน่นอน

  • สายหนังอนิเมชั่นพิกซาร์
  • สายหนังอนิเมชั่นความหมายดี

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ลำพังแค่ในช่วงเปิดเรื่องแบบที่ไม่มีบทพูดของตัวละครใน Up นั้น ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ชวนเรียกน้ำตาของมันได้แล้ว อีกทั้งยังเป็นการปูเรื่องให้เราเข้าใจพื้นหลังของตัวละครได้เป็นอย่างดี จนนำไปสู่เหตุผลต่างๆ ของการตัดสินใจของตัวละครตั้งแต่เริ่ม อย่างการไม่ขายที่หรือขายบ้านในบริเวณนั้น แม้ว่าราคาจะสูงขนาดไหนก็ตาม แต่ด้วยความฝันของเขาที่มีร่วมกับภรรยา เลยทำให้เขาตัดสินใจทำตามเป้าหมายนั้น โดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวหรือความสุขของตัวเองอีกต่อไป จนทำให้ คาร์ล ในช่วงแรกนั้นเป็นตัวละครมนุษย์ปู่ที่ไม่น่าคบหา ไม่ต่างอะไรจากปู่ Clint Eastwood แบบในหนังเรื่อง Gran Torino เลย

ซึ่งหากอนิเมชั่นมีแค่ตัวละครอมทุกข์แค่คนเดียว เรื่องราวก็คงจะดูหม่นหมองไปสักหน่อย หนังจึงมีการเติมตัวละครเด็กอย่าง รัสเซล เข้ามา เพื่อสร้างสีสันให้กับเรื่องราวมากขึ้น แถมยังเป็นการเพิ่มประเด็นมิตรภาพของคน 2 วัย ที่กำลังจะเริ่มต้นใช้ชีิวิต กับที่กำลังจะสิ้นชีวิต ออกมาได้อย่างน่าสนใจ ทั้งในเรื่องทัศนคติ แนวคิดต่างๆ ของทั้งคู่ ที่ต่างคนต่างเรียนรู้ได้จากอีกฝ่าย ที่เป็นการให้ข้อคิดกับคนดูในทางอ้อมไปตัว ก็ทำให้หนังเรื่องนี้ มีอะไรมากกว่า Animation ทั่วๆ ไป เหมือนอย่างที่ค่าย Pixar ทำมาโดยตลอดอยู่แล้ว และการแลกเปลี่ยนทัศนคติของตัวละครสองวัย ก็ดูเป็นมุมมองที่น่าสนใจอยู่มาก

นอกจากในส่วนของแง่คิดดีๆ อย่างเดียวก็คงไม่ได้ทำให้หนังมาไกลขนาดนี้ เพราะจากการที่หนังคว้ารางวัล Oscar Animation ยอดเยี่ยมมาได้ ประกอบกับรายได้ทะลุเป้าไปไกลแล้วนั้น แน่นอนว่าหนังเองก็ต้องมีความบันเทิงเต็มเปี่ยมเหมือนกัน ซึ่งผู้กำกับอย่าง Pete Docter ก็เรียกได้ว่าเป็นตัวพ่อของงานคุณภาพควบคู่ไปกับความบันเทิงอยู่แล้ว ทั้งตัวเรื่องราว การออกแบบคาแรคเตอร์ตัวละคร การใช้ตัวขโมยซีนที่ถูกที่ถูกเวลา จังหวะการเล่าเรื่องราวคือดีไปหมด จึงไม่แปลกใจนักที่ปั้นให้โปรเจคอย่าง Up มาได้ไกลขนาดนี้ และเป็นงาน Animation ชั้นเยี่ยมอีกงานที่ลึกซึ้ง กินใจเสียเหลือเกิน

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ก่อนที่ตัวหนังจะถูกนำไปออกฉายทั่วโลกนั้น Pixar ได้ทำตามความฝันของเด็กคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Culby Curtin ที่อยากจะดู Up ก่อนเสียชีวิต เพราะเธอมีโรคมะเร็ง และเป็นหนักจนถึงขนาดไปดูที่โรงภาพยนตร์ไม่ไหว ทาง Pixar จึงส่งคนไปที่บ้านของเธอพร้อมกับ DVD เพื่อไปเปิดเรื่อง Up ให้เธอดูพร้อมๆ กับครอบครัวของเธอ ซึ่งหลังจากภารกิจเสร็จสิ้น เธอก็เสียชีวิตหลังดูได้ 7 ชั่วโมง
  • หนึ่งใน Easter’s Egg ของเรื่อง ก็คือในฉากที่ Carl และ Ellie ปิ๊กนิ๊กด้วยกันในฉากแรกนั้น ณ ตรงนั้นคือใต้ต้นไม้จุดเดียวกันกับฉากหลังของ A Bug’s Life
  • ฉากแรกชวนเรียกน้ำตานั้น ไม่ได้เกิดกับแค่เพียงคนดูเท่านั้น เพราะทีมโปรดักชั่นหลายๆ คนต่างร้องไห้ให้กับฉากนี้มาตั้งแต่ได้รับ Storyboard มาแล้ว