เรื่องย่อ

เซลีน นักรบสาวของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ ที่ได้จับพลัดจับผลูไปช่วย ไมเคิล แพทย์หนุ่มที่เป็นมนุษย์ จากการโดนไล่ล่าของเหล่าไลแคน เผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่แล้วเมื่อเธอได้ตกหลุมรัก ไมเคิล ก็เกิดความขัดแย้งในทันที เมื่อเขาดันโดนไลแคนกัดจนกลายเป็นหนึ่งในพวกมัน โดยตามกฏแล้วแวมไพร์และไลแคนเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ทำให้เธอต้องทั้งตัดสินใจช่วยเหลือเขาแม้ว่าจะขัดกับกฏของเผ่าพันธุ์ก็ตาม และในขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องโลกจากแผนชั่วของเหล่าไลแคนไปด้วย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Underworld นั้น ก็เป็นหนังแอคชั่นแบบขายสไตล์อีกเรื่อง จากการหยิบเอาสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์แวมไพร์และไลแคนมาเป็นฉากหลังของเรื่องราว เลยทำให้หนังมีธีมที่ค่อนข้างโดดเด่นอยู่เหมือนกันเมื่อเอามาใส่ยุคปัจจุบัน ซึ่งจะว่าไปมันก็ดูไม่ต่างจากหนังอย่างแวมไพร์ Twilight ที่เอามาใส่โทนแอคชั่นเข้าไปเลย เพียงแต่ด้วยการปูเรื่องที่ดี ประกอบกับการสร้างตัวละครเอกหญิงออกมาได้อย่างเท่และน่าจดจำ ก็ไม่แปลกใจนักที่หนังจะฮิตเป็นกระแสจนมีภาคต่อตามมาอีกหลายภาค ถ้าใครชอบหนังอย่าง Van Helsing หรือ Blade ก็ห้ามพลาดกันเลย

• สายหนังแอคชั่นมีสไตล์
• สายหนังแวมไพร์
• สายหนังตัวเอกหญิงแกร่ง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หากจะพูดถึงหนังที่มีตัวละคนหญิงเป็นตัวเอกเท่ๆ แล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะมีชื่อหนังชุด Underworld เอาไว้ในใจกันอย่างแน่นอน (แม้ว่าจะชอบแค่ไม่กี่ภาคก็ตาม) ด้วยความที่หนังได้สร้างตัวละครแวมไพร์แบบในยุคสมัยใหม่ ใส่ชุดหนังสีดำรัดรูป สภาพคล้ายตัวละครใน The Matrix แถมยังมีลีลาการบู๊สุดเท่ไม่ต่างกันเลยทำให้คาแรคเตอร์ในหนัง อีกทั้งด้วยการรับทของดาราหน้าสวยอย่าง Kate Beckinsale กับหุ่นสุดเฟิร์มของเธอในชุดรัดรูปสุดเซ็กซี่ ดูเป็นอะไรที่น่าจดจำเป็นอย่างมากสำหรับตัวละครนี้ จนสร้างออกมาได้อีกหลายต่อหลายภาคเลยทีเดียว

ซึ่งสำหรับในภาคแรก (แต่ไม่ใช่ปฐมบท เพราะมีภาคแยกเป็นเรื่องราวก่อนหน้าไปอีก) ก็นับว่าเป็นหนังที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ตั้งแต่ต้นเรื่องมีการปูความสัมพันธ์ของ 2 เผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ในอดีต พร้อมๆ กับฉากแอคชั่นที่สอดแทรกเข้ามาจนเรียกว่า Hook ให้คนดูพร้อมตามกันแล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่ตัวหนังดันมีจังหวะการเดินเรื่องที่เนือยๆ อยู่หน่อย โดยเฉพาะในช่วงกลางๆ เรื่องที่เรียกได้ว่ากว่าจะกลับมาเข้าเรื่องอีกทีได้ก็อาจจะมีง่วงๆ ไปอยู่เหมือนกัน จากการที่เน้นฉากพูดคุยกันเป็นส่วนมากในแบบที่ไม่ค่อยเหมาะกับหนังแอคชั่นในแนวที่เหมือนจะบู๊ล้างผลาญกันสักเท่าไร 

แต่เมื่อจังหวะจะเข้าฉากแอคชั่นอะไร ก็นับว่าทำออกมาได้น่าตื่นตา มีฉากที่น่าจดจำอยู่มากมาย ทั้งลีลาการใช้อาวุธปืน หรืออย่างการหมุนตัวยิงลงพื้นให้ทะลุลงไปชั้นล่างก็เป็นอะไรที่เท่สุดๆ ไปเลย นอกจากในส่วนของการบู๊ของนางเอกแล้วนั้น เรื่องราวเบื้องหลังระหว่างสองเผ่าพันธุ์ทั้งผู้นำฝั่งแวมไพร์ และไลแคน ก็ดูมีรายละเอียดมีที่มาที่ไป และดูสมกับเป็นตัวบอส จนเรียกได้ว่าหนังมีบทที่แน่นอยู่พอสมควร จนทำให้ตอนจะบิดจะพลิกผันเรื่องราวนั้น ก็ชวนเหวอได้อยู่ไม่น้อย จนดูจบปุ๊บก็อยากดูภาคต่อปั๊บเลย