เรื่องย่อ

ทาเคมิจิ ชายหนุ่มวัย 26 ปี ผู้ไม่เคยทำอะไรประสบความสำเร็จสักอย่าง วันหนึ่งเขาได้ทราบข่าวการว่า ฮินาตะ อดีตแฟนสาวได้เสียชีวิตลงโดยฝีมือของ โตเกียวมันจิไค แก๊งยากูซ่าชื่อดัง และในวันเดียวกัน ระหว่างที่ทาเคมิจิกำลังรอรถไฟกลับบ้าน เขาก็ถูกใครบางคนผลักให้ตกจากชานชาลาจนถูกรถไฟชนเสียชีวิต และพบว่าตัวเองย้อนอดีตกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน สมัยยังเป็นเด็กมัธยมวัยเกรียน ก่อนจะพบว่าการย้อนเวลาครั้งนี้ทำให้เขามีโอกาสช่วย ทาจิบานะ ฮินาตะ แฟนคนเดียวในชีวิตของเขาให้รอดจากการเสียชีวิตด้วยฝีมือของ แก๊งโตมัน แก๊งที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโตเกียว ซึ่งคุมโดย ไมค์กี้ และ ดราเค่น ได้ ทาเคมิจิจึงต้องไต่สู่จุดสูงสุดบนเส้นทางนักเลง เพื่อเข้าเป็นสมาชิกแก๊งโตมันและเปลี่ยนอนาคตได้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Tokyo Revengers คือหนังไลฟ์แอ็คชั่นที่ดัดแปลงมาจากมังงะที่ดูสนุก เอนเตอร์เทนผู้ชมได้ทุกกลุ่ม เนื้อหายึดโยงจากต้นฉบับไม่ว่าจะเป็นการเลือกนักแสดงที่มาสวมบทตัวละครนั้น เส้นเรื่องที่เล่าได้บันเทิงตื่นตาตื่นใจ แฟนๆที่เป็นคอมังงะจะเต็มอิ่มกับหนังเรื่องนี้ ฉากแอ็คชั่นฉากที่มีเทคนิค CGI ทำคนดูร้องว้าวมาแล้วผสมผสานกับมุกตลกที่สอดแทรกมาพอเป็นพิธี คนชอบหนังแอ็คชั่นชอบหนังญี่ปุ่นที่ไม่อิงเนื้อหาความรักจะถูกใจแน่ๆ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

นี่คือหนังญี่ปุ่นที่น่าดูมากสำหรับเราในปี 2021 การดัดแปลงเนื้อเรื่องจากมังงะมาสู่หนังคนแสดง Live Action ย่อมมีความน่าสนใจ เพราะเวอร์ชั่นเดิมก็ได้รับความนิยมมากพอสมควรอยู่แล้ว ต้องชื่นชมผู้กำกับ ฮานาบุสะ ทสึโตมุ และมือเขียนบท ทาคาฮาชิ อิสึมิ ที่เฟ้นหาข้อดีที่สุดแล้วนำมายำให้เป็นหนังที่ดูเพลินเกือบ 2 ชั่วโมงเต็ม พยายามเต็มที่ทำให้มังงะเรื่องนี้ไม่เสียเอกลักษณ์ ยึดโยงตามโครงเดิมต้นฉบับมาทุกระเบียบนิ้ว ไม่ยืดเยื้อเกินไปหรือรวบรัดเกินไป เนื้อหาทำให้คนที่ไม่ใช่แฟนมังงะ แฟนหนังขาจรดูแล้วอินสนุกตามไปได้ไม่ยาก ฉากแอ็คชั่นก็ดูสนุก ซัดกันอย่างเมามันส์ ตีกันใส่กันยับ มีสีสันมีมุกตลกให้สอดแทรกพอเป็นพิธี กลายเป็นหนังที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นมากเหลือเกิน

สิ่งที่หนังทำได้ดีนอกจากบทก็คือเรื่องโปรดักชั่น มีกลิ่นอายจากมังงะต้นฉบับอยู่เพียบ พอเล่าเรื่องเป็นหนังทำให้เราเห็นภาพความกลัวในจิตใจของตัวละครที่ถ่ายทอดออกมาจนเราเข้าใจหัวอกตัวละคร ว่าทำไมถึงเป็นอย่างโน่นเป็นอย่างนี่ งานภาพของหนังไล่เรียงเรื่องราวได้ดีจากอดีตไปจนถึงปัจจุบัน งานภาพ CGI ก็ดูเนียนตาพอเล่าออกมาดูมันเลยเชื่อมโยงเนื้อหาทำให้ผู้ชมได้โฟกัสประเด็นการตีกัน ไปจนถึงทำให้คนดูเอาใจช่วยพระเอก คนห่วยแตกคนขี้แพ้ให้กลับมาสู้กับอุปสรรคปัญหาทำให้รู้จักคุณค่าของชีวิตการทำอะไรดีๆเพื่อคนที่เรารัก พอบทหนังมาดีเนื้อหามันเลยประติดประต่อเรื่องราวได้ง่าย กลายเป็นหนังที่ดูเพลิน แถมคอสตูมเสื้อผ้านักแสดงก็จัดเต็ม นักแสดงแต่ละคนแสดงออกมามีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำตามไปด้วย

มาพูดถึงนักแสดงกันบ้าง ต้องชื่นชมเลยว่าการแคสติ้งคนมาเล่นหนังเรื่องนี้พยายามเต็มที่ในการเฟ้นหาคนที่มีบุคลิกท่าทางใกล้เคียงกับตัวละคร เราไม่คิดเลยว่า คิตามุระ ทาคุมิ จากหนังเรื่อง Let Me Eat Your Pancreas ตับอ่อนเธอนั้นของฉันเถอะนะ จะถูกปรับลุคใหม่ย้อมผม จากหนุ่มธรรมดา กลายเป็นนักเรียนที่โคตรซ่าได้เหมือนกัน เห็นครั้งแรกในจอใหญ่แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่า เขามีพัฒนาที่ก้าวกระโดดไปแล้ว กลายเป็นผู้ชายขี้แพ้ที่อยากปกป้องทำสิ่งดีๆเพื่อคนที่รัก กลายเป็นนักแสดงที่โดดเด่นมากในเรื่องนี้ สิ่งที่ทำให้หนังดูสนุกคือบทเกลี่ยพื้นที่ให้นักแสดงทุกคนได้มีพื้นที่แสดงกัน ไม่มีใครมาแซงคิวมากั๊กกัน คนอื่นเลยเด่นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น โยชิซาวะ เรียว ในบท ไมค์กี้ หัวหน้าแก๊งโตมันที่เป็นคนที่แกร่งสุด เด็ดเดี่ยวเหนือชั้นเรื่องการต่อสู้ซัดคน ถึงแม้จะมีมุมอ่อนแอในประเด็นที่คาดเดาอารมณ์เดาใจได้ยากมาก ยามาดะ ยูกิ ในบท ดราเคน คู่หูที่ไมค์กี้ หมอนี่เท่ห์มาก ซีนแอ็คชั่นก็แทบกินขาดออกมาแต่ละทีไม่ทำให้ผิดหวัง รวมถึง อิมาดะ มิโอะ ในบท ฮินาตะ หญิงสาวที่เป็นรักแรกของพระเอก อาจจะเป็นคนบอบบางแต่ก็มีแง่มุมที่น่ารัก มี Impact ในเรื่องเยอะมาก อยากรู้ว่าสนุกแค่ไหนต้องไปลองดูเอง