เรื่องย่อ

เอก เด็กหนุ่มที่กำลังร้อนเงิน นำพระเครื่องของพ่อไปขายเพื่อหวังเป็นค่ารักษาในโรงบาล การเดินเข้าไปสู่ตลาดพระเครื่อง เขาแทบเป็นคนโนเนม ไม่รู้อะไรเลย เขาแค่อยากปล่อยพระเพื่อได้เงินมาเท่านั้น แต่ชะตากรรมด้วยไปพัวพันกับเหล่าเซียนพระ เมื่อพระที่เขามีคืออาจเป็นพระสมเด็จในตำนานที่หายไปจากตลาดกว่า 30 ปี ทำให้เซียนพระมากมายพร้อมกระโดดมาแย่งชิงพระของเอก

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

รีวิว / สรุปเนื้อหา

วงการหนังไทยมีประเด็นมากมายที่เล่าได้สนุก เรามีวัฒถุดิบที่ดีอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ผู้กำกับกล้าหาญมากพอ นายทุนให้อิสระเราสามารถเข็นหนังดีๆมีความแปลกใหม่ให้ผู้ชมได้ พระเครื่องคือเรื่องใกล้ตัวที่อยู่กับสังคมไทยมายาวนาน กราบไหว้บูชา แต่ไม่มีใครอยากพูดถึง พี่เป้ เหมือนเป็นคนพาคนดูขึ้นขบวนรถไฟเหาะไปสำรวจโลกสีเทา ที่พระแท้ พระปลอม คนที่กำหนดมูลค่าราคาคือเซียนพระที่มีชื่อเสียง มีบารมีในวงการ ถ้าหากเครดิตความดังบ่งบอกราคานี้สูงก็อัพราคาได้ตามใจชอบ และเหล่าเซียนก็พร้อมเปย์ไม่อั้น หนังก็ฉลาดพอที่จะใช้ตัวละครเด็กโนเนมคนหนึ่งที่ร้อนเงิน ก้าวเข้าสู่วงการสีเทาโดยไม่รู้ตัว อีกด้านหนึ่งนอกจากประเด็นพระแท้พระปลอมที่เซียนมีชื่อเสียงเป็นคนกำหนด หนังค่อยๆวิพากษ์วิจารณ์ความเลวร้ายในโลกยุคนี้ ที่คนดีคนเลวเรารู้หน้าไม่รู้ใจ หลายๆคนมาในคราบผู้หวังดีทำตัวเป็นคนรอบรู้พร้อมจะช่วยเหลือ แต่สุดท้ายความปลิ้นปล้อนหลอกลวงหักหลังมักง่ายความเห็นแก่ตัวแค่ไม่กี่ครั้งมันพาหายนะไปยังคนอื่นโดยไม่รู้ตัว พี่เป้ และพี่บี ผู้กำกับร่วมสร้างโลกพระเครื่องออกมาได้สนุกน่าค้นหา ทั้งที่เราไม่จำเป็นต้องเล่นพระเครื่องเลยด้วยซ้ำ

ชอบจังหวะการกำกับของหนังที่แม่นยำ พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าพี่เป้ ทุ่มหมดหน้าตักกับการทำการบ้านมายาวนาน 5 ปี นำเสนอในเรื่องที่ตนเองอินและสนใจ สร้างบรรยากาศได้กวนตีน มีอารมณ์ร่วมกับผู้ชม กลิ่นอายหนังแบบเควนติน ทารันติโน่ชัดๆ การออกแบบฉาก โลเคชั่นที่ใช้การกำกับภาพของหนังมันดูแปลกตาดูเท่ห์ จากตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกไปจงใจทำให้คนดูเชื่อว่าหนังจะคล้ายๆกับหนังดังเรื่องหนึ่ง แต่ตรงข้ามผู้กำกับคุมโทนอยู่หมัด เล่าเรื่องไม่ได้หลงประเด็น แค่คำศัพท์วงการพระเครื่องเหล่าเซียนบรัฟกันเมามันส์ก็เป็นเรื่องที่เพลิดเพลินแล้ว ไม่ว่าผลลัพธ์ในแง่ของรายได้จะไปจบตรงไหน แต่สิ่งหนึ่งที่หนังทำได้ดีมากๆ คือผู้กำกับทำหนังสนุก และเคารพความเป็นตัวเอง เล่าเรื่องที่ตัวเองอินจริงๆ เป็นตัวตนตัวเอง 100 เปอร์เซนต์ นายทุนเปิดโอกาสเต็มที่ ภาพเลยดูละเมียดทุกอย่าง

จุดหนึ่งที่เป็นไฮไลท์หลักของ The Stone คือกลุ่มนักแสดงนำที่พี่เป้ อารักษ์ เลือกมากับมือ กลายเป็นเคมีที่ลงตัว ดูมุมไหนก็ไม่มีจุดไหนที่ไม่ชอบ พลังของนักแสดง 5 คนช่วยกันได้เยอะ รับส่งบทพูด การปะทะคารมในซีนต่างๆ ส่ง Impact ไปยังฉากต่อๆไป เจ้านายที่ปรับโหมดอีกครั้งจากโกงสอบมาเป็นวงการพระเครื่อง เล่นได้ดีขึ้นมีพัฒนาการที่ดี เป็นตัวละครที่น่าสงสาร ต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนเทาๆถ้วนหน้า น้องอ๊ะอ๊าย บทเซียนหมวย ส่วนตัวชื่นชอบว่าเธอพลิกบทบาทสำคัญ ปรากฏตัวทุกครั้งก็เชื่อว่านี่คือเซียนพระผู้ช่ำชองของจริง สลัดภาพ 4Eve ไปหมดสิ้น คุณจ๋าย ไททศมิตร นักแสดงคิวทองแห่งปีเล่นหนังราวกับว่าตัวเองร้อนเงิน แล้วเล่นดี ไต่ระดับตัวเองกับการเป็นเซียนพระสายเปย์เหลี่ยมจัดมีลูกหล่อลูกชน เรียกว่าลืมภาพ 4Kings วัยหนุ่มไปหมด เรื่องหน้าไม่ต้องเป็นคนเทาๆแล้วนะ อาตู๋ นพพล การถูกเชิญมารับบทพ่อสุนทร เจ้าพ่อวงการพระเครื่องน่าเกรงขามเล่นได้ละเอียดทุกเม็ด ยิ่งดูยิ่งน่ากลัว พี่เล็ก ฮิวโก้ ผู้ชายมาดเท่ห์พูดน้อยต่อยหนัก ลีลาท่าทางของเขาแสดงให้เห็นว่าวิคเตอร์ คือตัวละครลึกลับน่าค้นหา แม้ว่าพี่เล็กจะเฟดตัวออกจากงานแสดง แต่เมื่อไหร่ สวมหัวโขนนักแสดงพี่เขาคือมืออาชีพตัวจริง