The Host (2006)
อสูรนรกกลายพันธุ์
คะแนน
โกดังหนัง
จากภายนอกเป็นหนังสัตว์ประหลาด แต่ภายในนั้นเป็นหนังวิพากษ์วิจารณ์สังคม การแทรกแซงจากชาติตะวันตกและสงคราม อีกงานที่น่าชื่นชมของ Bong Joon Ho
คำคมจากภาพยนตร์
“Is it the virus that's making me sleepy?” “นี่มันคือไวรัสที่ทำให้ฉันง่วงตลอดหรือเปล่านะ?”
เรื่องย่อ
กัง-ดู ชายชนชั้นล่างที่กำลังงีบหลับกลางวันอยู่บริเวณริมแม่น้ำฮัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อมีสัตว์ประหลาดโผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำฮัน และคว้าตัวลูกสาวของเขาไปต่อหน้าต่อตา ท่ามกลางเหตุชุลมุนที่สัตว์ประหลาดตัวนั้นออกมาไล่เขมือบคน เขากลับได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวเขาว่า เธอโดนจับตัวไปในท่อระบายน้ำแห่งหนึ่ง ทุกคนในครอบครัวจึงตัดสินใจออกไปตามหาและพาตัวเธอกลับมาให้ได้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Host นั้น แม้ภายนอกจะดูเป็นหนังสัตว์ประหลาดไล่เขมือบมนุษย์ แต่เนื้อแท้แล้วกลับเป็นหนังที่เสียดสีประเด็นเรื่องชนชั้น จิกกัดประเทศอเมริกา และต่อว่าความมักง่ายของมนุษย์ที่ทำออกมาได้อย่างแสบสันต์ และกลมกล่อมอยู่ไม่น้อย อีกทั้งด้วยความที่ดำเนินเรื่องแบบไม่สูตรสำเร็จ ทุกอย่างสามารถพลิกผันได้ จนทำให้เราต้องลุ้นไปกับตัวละครมากเลยทีเดียวว่าแต่ละคนจะมีชะตากรรมอย่างไร หากใครชอบหนังสไตล์สัตว์ประหลาดบุกเมืองแบบ Cloverfield หรือเอาชีวิตรอดจากสัตว์ประหลาดอย่าง Sector 7 แล้ว The Host คือแนวเดียวกันที่อัพเกรดและยกระดับให้เข้มข้นขึ้นมากๆ
- สายหนังสัตว์ประหลาด
- สายหนังเกาหลี
- สายหนังเอาชีวิตรอดผจญภัย
รีวิว / สรุปเนื้อหา
แม้ว่าคอหนังคุณภาพจากเกาหลีหลายๆ คนจะรู้จัก Bong Joon Ho มาก่อนหน้าตั้งแต่ The Memeries of Murder เมื่อปี 2003 มาก่อนแล้ว แต่เรื่องที่สร้างชื่อในวงกว้างจริงๆ กลับเป็หนนังอย่าง The Host ที่แม้ว่าคุณภาพอาจจะสู้เรื่องก่อนหน้าไม่ได้ แต่ด้วยความที่หนังใส่สัตว์ประหลาดเข้ามาก็คงเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่าการสืบหาคนร้ายของตำรวจอยู่แล้ว อีกทั้งหนังเกาหลียังไม่เคยทำในแนวนี้มาก่อน เลยทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นอีกปรากฏการณ์ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งในฝั่งนักวิจารณ์และคนดูทั่วไปแบบเต็มๆ เพราะตัวหนังเองไม่ได้พูดถึงเรื่องสัตว์ประหลาดเป็นหลักเท่านั้น แต่ยังมีการเสียดสีวิพากษ์วิจารณ์สังคมไปด้วยในเวลาเดียวกัน
ในพาร์ทของสัตว์ประหลาดก็เรียกได้ว่าดีไซน์มาได้สยองดี ลักษณะเหมือนตัวเป็นปลาหน้าเป็นคนแต่มีขาและหาง ก็สร้างความสยองให้ตั้งแต่แรกที่พบเห็น แถมความโหดของหนังที่เป็น Rate R ก็เรียกได้ว่ามีความจัดเต็มอยู่ไม่น้อย ฉากที่สัตว์ประหลาดออกมาฆ่าคนนั้น ก็ดูเต็มไปด้วยความรุนแรงอยู่เหมือนกัน อีกในส่วนของงาน CG ในหนัง เมื่อเทียบกับปีที่ออกฉายแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเนียนตาและไม่ค่อยขัดใจเท่าไรนัก และดีพอที่จะไปสู่ระดับสากลได้
แต่อย่างที่บอกไปว่าจุดเด่นของหนังจริงๆ นั้นไม่ได้อยู่ที่แค่เพียงสัตว์ประหลาด แต่เป็นการแทรกประเด็นของเรื่องชนชั้น (ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ผู้กำกับ Bong Joon Ho มักเอาไปใส่ในหนังแทบทุกเรื่อง) และการเสียดสีถึงการกระทำของประเทศอเมริกาเข้าไปได้อย่างเจ็บแสบ ในฐานะที่ทำตัวเหมือนพี่ใหญ่ที่ทุกคนต้องเชื่อฟังและทำตาม แม้ว่ามันจะไม่สมเหตุสมผลก็ตาม รวมไปถึงเรื่องความมักง่ายของมนุษย์ที่สร้างส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อสภาพแวดล้อมด้วย มันเลยทำให้หนังดูฉีกไปจากหนังสัตว์ประหลาดเดิมๆ จากทาง Hollywood มาก และคาดเดาต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องได้ยากเหลือเกิน จนต้องยกให้เป็นหนังเกาหลีดีๆ อีกเรื่องที่อยากแนะนำกันเอาไว้เลยทีเดียว
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ตัวหนังใช้ถังเหล็กในการสร้างเอฟเฟ็คน้ำกระจายเวลาที่มันกระโจนลงไปในน้ำ
- Ko Asung และ Kang-ho Song ได้มาเล่นเป็นพ่อ-ลูกกันอีกครั้งในหนังของ Bong Joon Ho อย่าง Snowpiercer (2013)
- เป็นหนังที่ติด List หนังโปรด 20 เรื่อง ของผู้กำกับ Quentin Tarantotino ในช่วงปี 1992 - 2009 แต่ตอนนี้หลุดไปเสียแล้ว